หลายวันมานี้ตั้งแต่สองแม่ลูกนั่นก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน ความสุขของอธินินทร์ที่พอจะมีเหลืออยู่บ้างก็ปลิวหายไป เธอเงียบขรึม ไม่มีรอยยิ้มสดใสที่ทำให้รอบตัวเธอสว่างไสวอย่างที่เคย แม้ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเธอแทบจะไม่มีรอยยิ้มแบบนั้น แต่ก็ยังไม่ถึงกับเลือนหายไปโดยสิ้นเชิงเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ดีที่สองแม่ลูกนั่นไม่ได้ย่างกรายขึ้นมาบนตึกใหญ่ให้เห็นหน้าความรู้สึกของอธินินทร์จึงไม่ได้ดำดิ่งลึกลงไปมากกว่านี้ ตัวเธอเองก็ถูกปรศุสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้ไปวุ่นวายที่เรือนหลังเล็กถ้าไม่อยากมีปัญหากับเขา
“ถ้ายังไม่อยากเห็นว่าฉันร้ายได้ขนาดไหน ก็อย่าไปหาเรื่องระรานใครที่เรือนเล็ก จำไว้”
นั่นน่าจะเป็นครั้งเดียวที่เขาพูดกับเธอและมองหน้าเธอตรง ๆ หลังจากวันที่สองแม่ลูกนั่นกลับมาปรากฏตัวในชีวิตของเธออีกครั้ง เพราะแม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแต่อธินินทร์กับปรศุก็แทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน สามีของเธอไม่ได้มาร่วมโต๊ะอาหารกับเธออีก ตอนเช้าเขาจะไปกินอาหารเช้าที่เรือนหลังเล็กแล้วออกไปทำงาน ตอนเย็นกลับมาก็จะตรงไปที่นั่น กินมื้อเย็นและใช้เวลาอยู่กับสองแม่ลูกหรือจะพูดให้ถูกคือใช้เวลากับคนรักเก่าและจะกลับมาที่ตึกใหญ่ก็เกือบสามทุ่มหรือกว่านั้น หากเจอกันปรศุก็จะมองผ่านเธอไป เรื่องพูดจากันนั้นไม่ต้องพูดถึง แทบจะเรียกได้ว่าต่างคนต่างอยู่ เขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน
สิ่งที่อธินินทร์ทำได้ตอนนี้คือกอดเพียงทะเบียนสมรสไว้ให้แน่น เขาทำร้ายจิตใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายครั้งหลายคราที่เธอถามตัวเองว่าจะทนอยู่จนถึงวันที่สองแม่ลูกนั่นได้รับกรรมหรือจะหลีกหนีสภาพที่ต้องเศร้าหมองทุกข์ตรมนี้ไปเสียที แต่แล้วหัวใจไม่รักดีก็ตอบว่ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักหน่อย จะว่าไปแล้วสองแม่ลูกนั่นก็ซ่อนความเลวร้ายไว้ได้ลึกมาก หากไม่ใช่ว่าเธอเจอมาด้วยตัวเองก็ยากที่จะรู้ แล้วคนที่เห็นแต่เปลือกนอกที่ปั้นแต่งสร้างสรรค์มาอย่างดีไหนเลยจะเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ ปรศุเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้น ใจเธอจึงยังอยากให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง... อีกสักครั้งหนึ่ง
วันนี้อธินินทร์เดินออกมาดูแปลงกุหลาบของเธอที่ปลูกไว้บริเวณสวนหลังบ้านซึ่งมีอยู่ห้าแปลง เป็นกุหลาบสีแดงสายพันธุ์ Peony Red กุหลาบทรงถ้วยกลีบแน่นสวยลักษณะคล้ายดอกโบตั๋นมีเกสรสีเหลืองตรงกลาง เธอขอให้ปรศุหาคนมาช่วยปลูกกุหลาบสายพันธุ์นี้ไว้ในสวนเพื่อระลึกถึงมารดาที่จากไป ท่านชอบกุหลาบสายพันธุ์นี้มากและเธอเองก็ชอบ ตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ เขาเอาอกเอาใจเธอดีทุกอย่างจึงให้ลุงชมคนสวนของบ้านไปจัดหามาปลูกให้ห้าแปลง และกุหลาบเหล่านี้ก็ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีมาตลอด
อธินินทร์ไม่เคยตัดกุหลาบไปปักแจกันหรือตัดมาดอมดมเลยสักครั้ง เธอชอบชมความงามของมันตามธรรมชาติที่ต้นมากกว่านำมาประดับไว้ในแจกันเพราะเหมือนนำมาเสริมแต่งจนลดทอนความงามที่แต่งแต้มโดยธรรมชาติ
หญิงสาวเดินไปตามแปลงกุหลาบที่ออกดอกชูช่อสวย บางดอกร่วงโรยตามอายุไขที่เบ่งบานเพียงไม่กี่วัน บางดอกกำลังจะแย้มกลีบออกมาให้เชยชม มือเรียวยื่นออกมาแตะกลีบกุหลาบหนาอย่างเบามือ ก่อนจะก้มลงมาเชยชมความงามของมันใกล้ ๆ ในใจนึกขอบคุณลุงชมที่ดูแลไม้ดอกที่ได้ชื่อว่าต้องการการเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันพวกนี้ได้อย่างดีเยี่ยมจนมีดอกสวยให้ชื่นชมตลอดปี แต่ระหว่างนั้นเธอก็ได้ยินเสียง ‘ฉับ ๆ’ ดังมาจากด้านหลังเหมือนเสียงของคนที่กำลังตัดกิ่งของบางอย่างอยู่จึงหันกลับไปมอง
และก็เห็นใครคนหนึ่งกำลังเดินหน้าตัดดอกกุหลาบที่เธอหวงแหนใส่ในตะกร้า
“หยุดนะ ห้ามตัด”
สองเท้าเรียวเดินกลับไปดู ยิ่งเห็นดวงตาที่แกล้งทำเป็นใสซื่อแต่ส่งรอยยิ้มเคลือบยาพิษมาให้อธินินทร์ยิ่งโกรธจัด
“ทำไมจะตัดไม่ได้ ฉันจะตัดไปใส่แจกัน”
“ดอกกุหลาบทั้งหมดนี่เป็นของฉัน ใครก็ห้ามยุ่ง”
“เหรอ เอ ทำไมพี่รามไม่ได้พูดแบบนั้นนะ เขาบอกว่าถ้าฉันอยากตัดก็ตัดได้ตามใจ ไม่ได้บอกว่ากุหลาบพวกนี้มีเจ้าที่ด้วย”
คนพูดลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน ในบ้านนี้มีเพียงสายตาคนคนเดียวเท่านั้นที่เธอจะแคร์ก็คือคนที่เป็นเจ้าของบ้านซึ่งเคยบอกว่าจะแต่งงานกับเธอคนเดียวเท่านั้น
สองสาวจ้องตากันอย่างเชือดเฉือนไม่มีใครยอมใคร
“ต่อไปอย่ามายุ่งกับกุหลาบของฉันอีก ไม่รู้ก็จงรู้ไว้ซะ”
“จะยุ่ง จะตัด จะทำไม ที่นี่มันบ้านของพี่ราม สวนนี่จะเป็นของเธอไปได้ยังไง” เดหลียิ้มเย้ย “แล้วพี่รามก็อนุญาตฉันแล้ว อีกอย่างนะอีกหน่อยที่นี่มันก็ต้องเป็นของฉัน”
อธินินทร์โกรธจนแทบจะกระโจนเข้าไปฉีกปากอีกฝ่าย แต่แล้วก็ข่มความโกรธลงไป เธอจะมาเต้นตามการยั่วยุของงูพิษอย่างเดหลีไม่ได้
“ถ้าอีกหน่อยมันจะเป็นของเธอก็แปลว่าตอนนี้มันยังไม่ใช่ และฉันยังเป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้อยู่ เพราะงั้นอย่ามายุ่งกับดอกกุหลาบของฉัน เพราะฉันเป็นคนให้เอามาปลูก ถ้าอยากตัดก็ไปปลูกใหม่เอาเอง ฉันไม่ติด”
“เหอะ ประสาทรึไง มันมีอยู่แล้วจะเสียเวลาปลูกใหม่ทำไม”
“หูเธอคงจะไม่ค่อยดี ปรึกษาหมอโสต ศอ นาสิกบ้างก็ดีนะ”
“หูฉันปกติดีย่ะ”
“อ้าว ถ้าปกติดีก็น่าจะได้ยินที่ฉันพูดนี่ว่า ดอกกุหลาบพวกนี้มันเป็นของฉัน และฉันห้ามไม่ให้เธอมายุ่งกับมัน หรือว่าเธอมีปัญหาที่สมอง”
เดหลีตาแทบลุกเป็นไฟเพราะโดนอธินินทร์เชือดกลับนิ่ม ๆ เสียงพูดเริ่มแหลมสูงตามอารมณ์
“ของทุกอย่างในบ้านนี้เป็นของพี่ราม ที่บ้านนี้พี่รามใหญ่ที่สุดไม่ใช่แก อย่ามาสำคัญตัวผิด แล้วฉันก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังแกด้วย”
“อืม ธาตุแท้ของเธอเอาไว้แสดงแค่ลับหลังผู้ชายคนนั้นสินะ”
“แล้วจะทำไม แกคงยังไม่รู้สินะว่าพี่รามรักฉันมากขนาดไหน ก่อนที่ฉันกับแม่จะไปอยู่ต่างประเทศ เขาเคยขอฉันแต่งงานด้วย”
“เหรอ ไปอยู่ต่างประเทศ หรือว่าหนีคดีกันแน่”
“แก...” เดหลีทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วกลับเปลี่ยนท่าที
“เฮอะ ไม่ว่าพวกฉันจะไปเพราะอะไร แต่ตอนนี้พวกฉันก็กลับมาแล้ว ดูซิว่าแกจะทำอะไรฉันกับแม่ได้ เมื่อก่อนไม่ได้ ตอนนี้ก็ทำไม่ได้ อนาคตก็ยิ่งไม่ได้ เพราะพี่รามไม่มีวันเชื่อแก ไม่ว่ายังไงเขาก็จะยืนข้างฉัน”
เดหลียกยิ้มมุมปาก ส่งสายตาท้าทาย แล้วจู่ ๆ ก็ทิ้งตัวลงไปในแปลงกุหลาบเหมือนโดนผลัก แล้วกรีดร้อง
“โอ๊ย อย่าทำฉัน ฉันกลัวแล้ว กรี๊ด”
“หลี!”
ปรศุพุ่งเข้าไปช่วยคนที่เห็นว่าถูกผลักล้มลงไปในแปลงกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมของมัน พร้อมกับช่วยปัดเศษดินฟางออกจากร่างกาย และค่อย ๆ จับแขนทั้งสองข้างขึ้นมาดูอย่างทะนุถนอมและห่วงใยเต็มที่
“เป็นยังไงบ้าง”
“โดนหนามข่วนที่แขนนิดหน่อยค่ะ โชคดีที่นินทร์ไม่ได้ผลักแรง”
“ตอแหล ใครผลักเธอ”
“เธอนั่นแหละที่ตอแหล ฉันเห็นกับตา” ปรศุตะคอกอย่างโกรธจัด
“อ้อใช่ ฉันผลักเองแหละ ก็ใครใช้ให้มาตัดกุหลาบของฉันล่ะ”
“ฉันอนุญาตเอง เธอจะทำไม”
“แต่กุหลาบนี้มันเป็นของฉันใครก็ห้ามตัดทั้งนั้น” อธินินทร์ตาวาวด้วยความโกรธ
“มันปลูกอยู่ในบ้านของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะอนุญาตให้ใครตัดมันก็ได้ทั้งนั้น”
“เราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วนี่ว่าสวนกุหลาบนี้เป็นของฉัน”
“ถ้ามีปัญหามากนัก ก็ตัดมันทิ้งให้หมด”
“อย่านะ” อธินินทร์ร้องห้ามเสียงหลง แต่มีหรือปรศุจะฟัง
“ลุงชม!” เขาเรียกหาคนสวนเสียงดังลั่น คนรับใช้ที่ได้ยินต่างก็รีบพากันไปตามตัวคนที่เจ้านายเรียกหา เมื่อลุงชมมาถึงก็เข้าไปค้อมตัวรับคำสั่ง
“คุณรามมีอะไรให้ผมทำครับ”
“ตัดกุหลาบพวกนี้ทิ้งให้หมด อย่าให้เหลือถ้ามันจะมีปัญหามากนักละก็”
เขาออกคำสั่งเด็ดขาด พร้อมกับส่งสายตาไปที่เธอ
“หมดเลยเหรอครับ” ลุงชมย้ำเพื่อความแน่ใจ มองภรรยาของคนออกคำสั่งที่ยืนน้ำตาปริ่มด้วยความสงสาร
“อย่าให้เหลือแม้แต่ตอ”
อธินินทร์มองหน้าเขาด้วยความอดกลั้น กุหลาบของเธอต้องมารับเคราะห์เพียงเพราะมันทำให้เกิดปัญหากับผู้หญิงที่เขารัก เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกของเธอแม้แต่นิด ไม่ได้คิดจะสืบสวนหาความจริง เชื่อแต่ในสิ่งที่ผู้หญิงของเขาปั้นแต่งให้เห็น หัวใจที่เจ็บปวดย้ำเตือนเธอว่าตลอดระยะเวลาที่แต่งงานอยู่กินกันมาสามีที่เธอรักสุดหัวใจไม่เคยมีใจให้เธอแม้แต่เศษเสี้ยว และเขาก็พร้อมที่กระโจนเข้าห้ำหั่นเธอหากเธอไปแตะต้องคนที่เขารัก
หญิงสาวมองคนสวนสามคนที่ช่วยกันทำลายแปลงกุหลาบตามคำสั่งประกาศิตของเจ้าของบ้านด้วยหัวใจที่แหลกสลาย เขารู้ดีว่าเธอปลูกดอกกุหลาบนี้เพื่อระลึกถึงมารดาและเธอก็รักมันมาก แต่เขากลับทำลายมันโดยไม่ลังเล มือเรียวกวาดก้านกุหลาบที่ถูกตัดทิ้งอย่างโหดร้ายมาถือไว้ในมือ แม้จะถูกหนามแหลมคมของมันทิ่มตำจนเลือดซิบ แต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย เพราะความเจ็บทั้งหมดมันไปรวมอยู่ที่หัวใจที่ถูกเขากรีดเฉือนทำร้ายจนมันโซมไปด้วยเลือด
“อย่าร้องไห้ไปเลยนะครับคุณนินทร์ เดี๋ยวผมจะนำต้นบางส่วนไปปลูกลงกระถางให้ อาจจะไม่มากเหมือนเดิมแต่รับรองว่าสวยเหมือนเดิมแน่ครับ”
อธินินทร์ยิ้มทั้งน้ำตา คับแน่นในอก ส่ายหน้าแล้วเอ่ยเบา ๆ กับคนสวนที่มีน้ำใจและดีกับเธอเสมอ
“ไม่เป็นไรค่ะลุงชม ไม่ต้องเหลือไว้ตามที่เขาบอกนั่นแหละ ขอบคุณมากนะคะ”
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไปค่า Ebook จะพยายามให้ทันช่วงสงกรานต์นะคะ เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า
ขอกำลังใจเข้าให้นินทร์ด่วน ๆ เลยจ้า