ดราม่าควีน…6/2

1005 Words
น้ำตาหยดหนึ่งรินไหลออกทางหางตา กลีบปากอิ่มทั้งบนล่างเผยอออกจากกันเล็กน้อยจนเห็นไรฟันคู่หน้าที่เรียงสวย แววตาที่แข็งสู้ค่อย ๆ อ่อนลงเมื่อใบหน้านั้นโน้มต่ำลงมาเรื่อย ๆ เขาจะจูบเธอหรือ เปลือกตาบางพริ้มลงรอรับอย่างจำนน แต่ทว่า เหมือนถูกผลักตกจากที่สูง ร่างสูงใหญ่ผละออกเธอพร้อมยิ้มเยาะ “โทษทีที่ทำให้ค้าง ตอนนี้ฉันยังไม่มีอารมณ์กับเธอ” “คุณมันเลว” เสียงพึมพำออกมา เขาเพียงมองเธอด้วยสายตาที่อ่านยาก ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ร่างบางลุกขึ้นมานั่งเหม่อ เส้นผมยาวกระเซิงเล็กน้อยจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เธอเองก็รู้สึกสมเพชตัวเองเหมือนกันที่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้นกับเธออีกทั้งที่ผู้หญิงที่เขารักกลับมาแล้ว เกลียดเขาหรือ...อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขามันค่อย ๆ ถูกบั่นทอน อธินินทร์ไม่ใช่คนรักแรงเกลียดแรง แต่ถ้ารักแล้วเธอจะรักอย่างเต็มหัวใจและถ้าลองได้เกลียดแล้ว มันก็จะหยั่งรากลึกจนไม่อาจขุดถอนมันขึ้นมา และถ้าต้นกล้าแห่งความเกลียดมันเติบโตจนแข็งแรงเป็นไม้ใหญ่ เขาก็อย่าได้คิดที่จะได้ความรักจากเธอกลับคืนมา แต่ในตอนนี้แม้จะโดนทำร้ายจิตใจให้เจ็บปวดสักเพียงใดเธอก็ยังต้องอดกลั้นอยู่กับมันต่อไป เธอยังมีสิ่งที่ต้องทำ อีกไม่นานแล้ว และโอกาสที่เธอคิดว่าจะให้เขาก็จะไม่มีอีกต่อไป ถึงเวลาอาหารเย็นอธินินทร์ก็ลงมานั่งที่โต๊ะอาหารคนเดียวเหมือนเดิม และก็เหมือนมื้ออื่น ๆ ที่ผ่านมา หญิงสาวกินไปได้ไม่กี่คำก็ไม่อาจฝืนกินต่อไปได้ “คุณนินทร์ไม่ทานอีกหน่อยล่ะคะ ตัวบางจนจะปลิวลมอยู่แล้ว” แม่บ้านอาวุโสเอ่ยท้วงเมื่อเห็นคุณผู้หญิงของบ้านวางช้อน “นินทร์ไม่ค่อยหิวน่ะค่ะป้าจิตร” อธินินทร์ยิ้มให้แม่บ้านที่ดูแลเธอเป็นอย่างดีมาตลอดตั้งแต่เธอแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ “ค่ะ จะรับนมอุ่น ๆ สักแก้วมั้ยคะ” “ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวนินทร์กลับขึ้นไปอ่านหนังสือบนห้องดีกว่า” แม่บ้านใหญ่มองตามคุณผู้หญิงเดินกลับขึ้นไปชั้นบนแล้วถอนหายใจเบา ๆ พึงพำอย่างอดไม่ได้ “คุณรามเธอคิดอะไรของเธออยู่นะ ถึงได้ทำแบบนี้” ทางด้านปรศุที่มากินอาหารที่เรือนเล็กก็ขอตัวกลับขึ้นตึกใหญ่ ดาหลาส่งสายตาเป็นสัญญาณให้ลูกสาวเดินตามไป “พี่รามคะ” ร่างสูงหันกลับมามอง คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นคำถาม “คือหลีมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่รามค่ะ ขอคุยด้วยอีกหน่อยได้มั้ยคะ” เจ้าหล่อนเอ่ยเสียงหวาน จริง ๆ เขามีงานบางอย่างที่อยากจะเคลียร์อีกนิดหน่อย แต่พอเห็นรอยยิ้มที่ทำให้เขาใจอ่อนทุกครั้ง ปรศุก็พยักหน้า “คืนนี้พระจันทร์ทรงกลดสวยด้วย หลีอยากออกไปดูที่สนามหญ้าหน้าบ้านค่ะ เราไปคุยกันตรงนั้นได้มั้ยคะ” เขาแหงนหน้ามองขึ้นฟ้า จุดนี้มีต้นไม้ใหญ่บดบังจึงทำให้มองไม่เห็นชัด “เอาสิ” ทั้งคู่พากันเดินมาที่สนามหญ้าหน้าบ้านซึ่งมีพื้นที่โล่ง บ้านของเขาอยู่โซนนอกเมือง รอบ ๆ บริเวณจะเป็นบ้านหลังใหญ่ของเหล่าผู้มีอันจะกิน แต่ละหลังมีพื้นที่ค่อนข้างมาก ไม่มีตึกสูงบดบังท้องฟ้ายามค่ำทำให้เห็นพระจันทร์เต็มดวงทอแสงสวยงามในคืนวันขึ้นสิบห้าค่ำได้อย่างชัดเจน เหมาะที่จะมารำลึกถึงความหลัง ปรศุกับเดหลีเดินมานั่งชมจันทร์ที่โต๊ะจิบชาซึ่งตั้งอยู่มุมสนามหญ้าด้านหนึ่ง ดวงจันทร์ทรงกลดสุกสว่าง แสงนวลเย็นตาทำให้บรรยากาศเหมือนต้องมนตร์ใต้แสงจันทร์ ปรศุแหงนมองพระจันทร์เต็มดวงที่เขาไม่ได้นั่งมองแบบนี้มาหลายปีแล้ว ครู่ต่อมาเดหลีที่เหลือบมองชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลาก็เอ่ยขึ้น “วันนี้หลีรู้สึกผิดมาก ๆ หลีไม่รู้จริง ๆ ว่ากุหลาบพวกนั้นเป็นของคุณหนูนินทร์ ถึงได้พูดขอกับพี่ราม แล้วตอนที่ไปตัดเธอก็ยังเดินมาเห็นเข้าพอดี” คนพูดก้มหน้าสลด ทำเป็นเผลอลูบแผลที่โดนหนามกุหลาบเกี่ยว ท่าทางสำนึกผิดจนคนมองรู้สึกสงสารจับใจ แต่แววตาที่หลุบอยู่ใต้แพขนตาทอประกายสาสมใจ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ต่อให้อธินินทร์พูดอะไรที่ต่างออกไปจากเธอ ปรศุก็ไม่มีวันเชื่อ ชายหนุ่มทอดถอนลมหายใจแผ่วเบา สีหน้าเครียดขรึม นึกย้อนกลับไปที่ตัวเองสั่งให้คนสวนตัดทำลายกุหลาบทิ้งทั้งหมด “ช่างเถอะ จะได้จบปัญหา” “คุณหนูนินทร์คงจะโกรธและเกลียดหลีกับแม่มากขึ้นอีกไม่รู้กี่เท่า เพราะเราสองคนเข้ามาในชีวิตของเธออีก หลีไม่รู้มาก่อนจริง ๆ ว่าพี่รามกับคุณหนูนินทร์จะแต่งงานกัน เพราะพี่รามเคยบอกกับหลีว่า...” คราวนี้หยาดน้ำตามารอเกาะที่ขอบตา เพียงแค่เจ้าตัวกะพริบมันก็พร้อมจะรินไหลออกมา “จะรอหลีกลับมา” เล่นบททวงสัญญา ปรศุมองเข้าไปในดวงตาที่สะท้อนความเศร้าเสียใจและผิดหวังออกมา “มันเป็นเรื่องที่คุณลุงของพี่จัดการให้ แล้วพี่ก็เลี่ยงไม่ได้” ^ ^ ^ ***ต่อต้านไม่ได้ก็จงเข้าร่วมนะคะ อิอิ ฝากเป็นกำลังใจ ป้ายยา ebook เฮียกั้ง คนดีไม่ห่างเหิน ไปอ่านรอค่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD