“พอแล้วค่ะ หยุดพูดเลย ยิ่งพี่พูดยิ่งลามกเข้าไปใหญ่” กิรณายกมือขึ้นไปปิดปากคนช่างพูดเอาไว้ไม่ให้เขาเอ่ยเรื่องลามกออกมาได้อีก แต่คนเจ้าเล่ห์กลับจับมือของเธอไปแนบกับริมฝีปากหนา กดจูบลงบนฝ่ามือของเธอซ้ำๆ ไปมาจนเธอเริ่มรู้สึกจักจี้ขึ้นมา
“คืนนี้ฉันก็คงต้องไปกอดหนูกะทิในฝันใช่ไหม” อธิศจับฝ่ามือนุ่มอีกข้างมาแนบแก้มของตนเองเอาไว้ พร้อมกับมองใบหน้าที่แดงอยู่แทบจะตลอดเวลาของเธอด้วยสายตาที่นุ่มลึกชวนให้คนมองใจสั่น
“คุณอาอุตส่าห์ฝันถึงกะทิทั้งที จะแค่นอนกอดหนูเฉยๆเองเหรอคะ”สายตาชวนมองคู่นั้นมันทำให้เธออดไม่ได้ที่จะหลงใหลไปกันเสน่ห์ที่นุ่มลึกของเขา จนเผลอพูดจายั่วยวนชวนให้อีกฝ่ายใจกระตุกขึ้นมา
“อย่ายั่วให้ฉันอยาก ถ้าหนูไม่อยากโดนปล้ำตรงนี้” อธิศยกมือเล็กมากดจูบหนักๆ ลงบนหลังมือหนึ่งทีแล้วปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ก่อนที่เขาจะอดใจไม่ไหวแล้วจับเธอมาแนบชิดไว้ข้างกายไม่ยอมปล่อยให้ไปไหน
“เข้าบ้านได้แล้วค่ะ ก่อนที่พวกพี่สองคนจะตามหนูไปจนถึงบนเตียง”กิรณารีบเดินเข้าบ้านทันทีก่อนที่ใบหน้าของเธอจะร้อนจนทนไม่ไหว และหัวใจของเธอจะเต้นแรงจนทะลุออกมา
“อา ผมอยากกินกะทิใจแทบขาดแล้ว” อชิระไม่รู้ว่าตนเองจะทนต่อความน่ารักน่ากินของเธอไปได้อีกนานแค่ไหน แค่เห็นหน้าเธอร่างกายเขาก็ร่ำร้องว่าต้องการจนมันปวดหนึบอวัยวะใจกลางกายไปหมด
“เหมือนกัน” อธิศเองก็เกิดอาการคลั่งหญิงสาวไม่แพ้หลานชาย เผลอๆเขาอาจจะเป็นหนักกว่าด้วยซ้ำ ตอนนี้แค่คิดถึงใบหน้าของเธอใจกลางกายของเขาก็แข็งนูนขึ้นมาเป็นลำแล้ว
รอกลับบ้านพร้อมพวกพี่เหมือนเดิมนะคะ เดี๋ยวพี่กับอาลุคไปส่ง
กิรณาเปิดอ่านข้อความที่เด้งเข้ามา ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอได้รับข้อความแบบนี้ทุกเย็นตอนเลิกงาน คนส่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนชายหนุ่มสองคนที่ตอนนี้มีสถานะทดลองเป็นแฟนกับเธอ
เธอกดส่งสติกเกอร์ว่ารับทราบกลับไป ก่อนจะนั่งยิ้มกว้างให้กับหน้าจอมือถือ จนเพื่อนร่วมงานที่หันมาเห็นต่างก็เอ่ยทัก แต่จะให้ทำไงได้ก็คนมันกำลังมีความสุขมันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ตกเย็นหลังเลิกงานเธอก็มานั่งอยู่บนรถให้สองหนุ่มหยอดคำหวานเอ่ยจีบเช่นเคย แม้คำหวานส่วนใหญ่จะออกไปแนวถ้อยคำลามกซะมากกว่า แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเธอเองก็ชอบถ้อยคำลามกพวกนั้นไม่น้อย
“กะทิขา พี่จีบหนูมาสองอาทิตย์แล้วนะคะ จนตอนนี้พี่เมื่อยมือไปหมดแล้ว”
“หืม จีบกะทิแล้วพี่เลย์เมื่อยมือได้ยังไงกันคะ” เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย จะว่าเธอให้เขาช่วยถือของหนักก็ไม่ แล้วทำไมอยู่ดีๆเขาถึงบอกว่าจีบเธอแล้วเมื่อยมือ
“ก็พี่ต้องใช้มือข้างนี้ชักให้ตัวเองทุกวัน ทั้งตอนเช้าและก็ก่อนนอนจนข้อมือพี่จะเคล็ดแล้วค่ะ อยากได้มือหนูมาช่วยชัก ปากหนูมาช่วยอม ร่องหนูมาช่วยตอดเอ็นบ้างจะได้ไหมคะ”
“พี่เลย์!!” เธอมองค้อนคนลามกผ่านกระจกมองหลังไปหนึ่งที เพราะวันนี้เขารับหน้าที่เป็นคนขับรถจึงทำได้เพียงเอ่ยเรื่องลามกจีบเธอ
ส่วนชายหนุ่มมาดนิ่งที่นั่งข้างเธอ วันนี้กลับไม่นิ่งอย่างที่เคยเพราะตอนนี้เขากำลังทำให้ร่างกายของเธอปั่นป่วน ด้วยการส่งจมูกได้รูปของเขามาซุกไซร้ซอกคอของเธอไม่ห่าง ในขณะที่แขนข้างหนึ่งโอบเอวเธอเอาไว้ให้ร่างกายแนบชิดติดกับเขา ส่วนอีกข้างกำลังลูบไล้ไปมาอยู่บริเวณขาอ่อนของเธอจนตอนนี้ฝ่ามือหนาได้เลื้อยเข้าไปลูบอยู่ตรงโคนขาอ่อนใต้กระโปรงของเธอเป็นที่เรียบร้อย
“อาลุคขา มืออาลูบลึกเกินไปแล้วนะคะ”
“อยากลูบลึกกว่านี้ อยากลูบเข้าไปข้างในนี้ของหนูกะทิ”คนพูดน้อยแต่เน้นการกระทำเลื่อนมือไปชี้ตำแหน่งให้เธอดูว่าตรงส่วนไหนที่เขาอยากลูบเข้าไป
“อะ…ตรงนั้นลูบไม่ได้นะคะ อือออ” กิรณาสะดุ้งปล่อยเสียงครางน่าอายออกมา เมื่อนิ้วเรียวยาวของเขาเลื่อนไปขยับลูบขึ้นลงตรงร่องของกลีบเนื้อนุ่มผ่านแพนตี้ตัวบางที่ตอนนี้มันกำลังเปียกชื้นเพราะโดนชายหนุ่มคลอเคลีย เล้าโลมมาตลอดทาง
“มันเปียก” อธิศเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอหอมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้หญิงสาวก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่เรียกเลือดฝาดบนแก้มของอีกฝ่าย
“ก็…” ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยชายหนุ่มข้างกายก็เอ่ยขอเรื่องน่าอายที่ทำให้เธอเขินหนักไปกว่าเดิมจนนี้จากที่แดงแค่หน้าก็ลามไปทั้งตัวแล้ว
“ขอชิมหน่อย”
“ชิมอะไรคะ”
“ชิมน้ำกะทิของหนู” พูดจบอธิศก็ไม่รอคำตอบลากปลายนิ้วเรียวถูไถไปมาตรงรอยแยกของกลีบเนื้อนุ่ม ผ่านผ้าผืนบางก่อนที่จะแหวกขอบแพนตี้เข้าไปสัมผัสผิวเนื้ออ่อนนุ่มด้านใน ที่ตอนนี้กำลังฉ่ำเยิ้มรอคอยปลายนิ้วของเขา
“อะ…อาลุค อืออ ตรงนั้นมัน…ตรงนั้นมัน อืออ” กิรณาที่โดนจู่โจมเป็นครั้งแรกโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับตัวอ่อน ครางออกมาอย่างลืมตัว เมื่อนิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปภายในร่องรักที่คับแคบขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ ไม่เว้นช่องให้เธอได้ตั้งตัว