ตอนที่ 1/2 เมื่อลืมตา

1267 Words
“เอ๊ะ! นี่มันท่านจื่อลู่มือขวาของกลุ่มโจรหมาป่าภูเขาไม่ใช่รึ?” เมื่อมีเสียงพ่อหนุ่มน้อยผู้หนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน สายตาทุกคู่ก็พลันพวยพุ่งมาที่ร่างสูงแกร่งกำยำอีกครั้งโดยไม่ได้นัดหมาย และภายในพริบตารัศมีภายในสิบก้าวรอบตัวจื่อลู่ก็พลันว่างเปล่า มีเพียงกลุ่มโจรหมาป่าภูเขาราวครึ่งร้อยที่ยืนสงบนิ่งดั่งหินผารอบกายของชายหนุ่ม ด้วยกิตติศัพท์ของโจรหมาป่าภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมไร้คู่ต่อกร หากเปรียบตำแหน่งของพวกเขาในแคว้นๆ หนึ่งคงไม่แคล้วเป็นจอมทัพที่ปกป้องชายแดนที่ไร้พ่าย ด้วยกลวิธีสู้รบกับศัตรูที่รวดเร็วปราดเปรียวดุจดั่งหมาป่าภูเขา วรยุทธ์เลิศล้ำไม่เป็นสองรองใคร เดินทางไปมารวดเร็วประหนึ่งดั่งล่องหนได้ ชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขาในหมู่บ้านหลิ่งเหอนี้แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านยังต้องยอมลงให้สามส่วน เพียงแค่พวกเขาปรากฏกายผู้คนในหมู่บ้านแทบอยากจะหลีกหนีไม่เห็นเงา และด้วยเหตุนี้จึงไม่มีกลุ่มอำนาจใดกล้าที่จะมาหาเรื่องกลุ่มโจรภูเขาซึ่งๆ หน้า ทำได้เพียงแค่ลอบกัดลับหลัง แต่ถึงกระนั้นด้วยความแข็งแกร่งและอำนาจของพวกเขาในหมู่บ้านหลิ่งเหอแห่งนี้ คงมีแต่เพียงผู้ที่ขวัญกล้าไม่กลัวตายเท่านั้นที่กล้าจะมีเรื่องกับพวกเขา “ทั้งกรงข้าให้ได้แค่ร้อยตำลึงเงิน ลี่เหอเจ้าว่าเป็นอย่างไร?” จื่อลู่เอ่ยเสียงเรียบทว่าแผ่รัศมีข่มขู่ออกมากลายๆ เพียงพริบตาฝูงชนรอบกรงของเหอปากกว้างก็พลันหายไปราวกับเงา เหลือไว้แต่เพียงคนของโจรหมาป่าภูเขาเพียงเท่านั้น ท่าทางข่มขู่ชีวิตคนทำเอาเหอปากกว้างขาสั่นพับๆ จนแทบจะฉี่ราดกางเกง ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเอ่ยอีกเป็นครั้งที่สอง ลี่เหอแทบยกพวกนางใส่พานมอบให้พวกเขาแทบไม่ทัน “ขอรับๆ ข้าขาย ข้าขาย…” เพียงไม่กี่ถึงอึดใจ รถม้าที่บรรทุกสตรีเผ่าอวี้นับสิบคนรวมของแถมที่เป็นก้อนแป้งเน่าอีกหนึ่งไว้เสร็จสรรพ ก่อนที่สายตาของเหอปากกว้างจะฉายแววเจ็บปวดใจปนเคียดแค้นลึกๆ ลมพัดเอาเศษดินหอบหนึ่งเข้ามาปะทะใบหน้าเรียบๆ ของเหอปากกว้างราวกับต้องการที่จะเยาะเย้ยในความโลภของเขาที่หวังจะเป็นเศรษฐีในทางลัด สุดท้ายเนื้อหงส์กลับถูกสุนัขขี้เรื้อนคาบไปกินเสียได้ ภาพรถม้าที่ไกลออกไปจนแทบจะลับสายตาสร้างความปวดร้าวให้ลี่เหอจนแทบจะแร่เนื้อเฉือนหนังของตนออกมาทั้งเป็น “เจ้าพวกสารเลว สักวันข้าจะต้องเอาคืนพวกเจ้าทั้งต้นทั้งดอกเลยคอยดู!” ลี่เหอลอบก่นด่าพวกเขาลับหลังด้วยความขลาดกลัว ถ้ำผาสูงชัน ถูเขาเรียงราย มีทางเดินสายเล็กที่เต็มไปด้วยลำธารกระจ่างใส เสียงรถม้าเคลื่อนไปตามทางขรุขระที่ขนาบข้างด้วยหน้าผาสูงชันทั้งสองฝั่ง ทิวเขาไล่เรียงห่างกันออกไปเป็นทิวทัศน์ที่สลับซับซ้อน ทว่าแฝงไว้ด้วยความงดงามในแบบธรรมชาติที่รังสรรค์ ที่แห่งนี้ถูกขนานนามว่าหุบเขาเขี้ยวมังกร ที่ที่ชาวบ้านหรือผู้คนในละแวกใกล้เคียงต่างเล่าลือกันว่าเป็นรังของโจรหมาป่าภูเขา พวกเขานอกจากจะมีหน้าที่คอยคุ้มกันศัตรูประหนึ่งแม่ทัพหน้าด่านให้หมู่บ้านหลิ่งเหอแล้ว แต่ยังมีอีกหน้าที่หนึ่งของเขาที่ใครๆ นั้นต่างรู้ดีนั่นก็คือดักปล้น โดยเฉพาะเหล่าขบวนพ่อค้าวาณิช หากต้องการจะผ่านเส้นทางสายนี้ พวกเขาเหล่านั้นต่างรู้ดีว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนเช่นไรเพื่อให้ได้ออกจากเส้นทางหุบเขาเขี้ยวมังกรแห่งนี้ ที่ซึ่งเป็นทางผ่านเข้าออกเพียงหนึ่งเดียวของหมู่บ้านหลิ่งเหอ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเหี้ยมโหด แถมยังเป็นชายฉกรรจ์กำยำสูงใหญ่ ลือกันว่าพวกเขาหาได้มีเพียงม้าป่าพันธุ์ดีเท่านั้นที่ใช้เป็นยานพาหนะ แม้แต่หมาป่าภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าดุร้าย โจรหมาป่าภูเขายังสามารถสยบพวกมันให้เชื่องราวกับสัตว์เลี้ยง กุบกับ...กุบกับ...กุบกับ เสียงม้าป่าสีทมิฬวิ่งเป็นจังหวะมาหลายสาย ตลอดเส้นทางจากหมู่บ้านหลิ่งเหอไม่เคยหยุดพัก ไม่รู้ว่าผ่านมาแล้วกี่ชั่วยาม คนในรถม้าต่างหัวสั่นหัวคลอนตามจังหวะรถวิ่งที่ไม่ถนอมบุปผางามด้านในรถเลยสักนิด จากท้องฟ้าที่เคยสว่างมายามนี้ดวงอาทิตย์คล้ายกำลังอัสดง เสียงฝีเท้าม้ายังคงวิ่งดังไม่หยุดและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก ใบหน้าหล่อเหลาที่ควบม้าทมิฬสีดำมะเมื่อเบื้องหน้ายังคงห้อตะบึงไปยังหนทางเบื้องหน้าด้วยท่าทางไร้ความแยแส หากคาดเดาไม่ผิด อีกราวๆ ไม่กี่ลี้ก็จะถึงค่ายโจรของพวกเขาแล้ว หากแต่ว่าฝีเท้าของม้าป่าพันธุ์ดีกลับดูเร่งรีบและไม่สนใจรอบด้าน จื่อลู่และก้านลู่ มือซ้ายและมือขวาของกลุ่มโจรหมาป่าทำได้เพียงเร่งห้อตะบึงพลางขมวดคิ้วมุ่น องครักษ์ทั้งสองราวกับไม่เข้าใจในความคิดของผู้เป็นนายว่าทำไมต้องรีบเร่งจนไม่สนใจสินค้าที่เพิ่งหามาได้ “ก้านลู่ ข้ารู้สึกว่านายท่านแปลกไปนะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นว่าเขาจะสนใจสตรีมาก่อน…” จื่อลู่จ้องมองเงาผู้เป็นนายที่ห้อตะบึงม้าทิ้งห่างพวกเขาไปไกลจนเห็นเพียงเส้นจุดๆ ด้วยสายตางวยงง ในขณะเดียวกันก็แอบชำเลืองมองรถม้าด้านหลังที่โคลงเคลงไปมาอย่างน่าปวดใจ ใบหน้าเยือกเย็นสุขุมของก้านลู่เผยความงุนงงสายหนึ่งก่อนจะหายไปในไม่กี่วินาที “หากเจ้าอยากรู้...ก็เชิญไปถามนายท่านเอาเองก็แล้วกัน” ว่าแล้วก้านลู่ก็กระทุ้งท้องม้าเร่งตะบึงไปเบื้องหน้าเพื่อให้ตามทันผู้เป็นนาย “นี่เจ้า…” จื่อลู่ถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่เคยมีสักครั้งที่เจ้าภูเขาน้ำแข็งคนนี้จะยอมลงให้ตนบ้าง “ได้! ฝากไว้ก่อนเจ้าก้านลู่ เชอะ!” ในเวลาขณะเดียวกันภายในรถม้า ดวงตาคู่งามพลันเปล่งประกายลางๆ หลังจากพยายามลอบฟังบทสนทนาเมื่อครู่อย่างตั้งใจ เพื่อให้รู้สถานการณ์โดยรอบ นางจำเป็นต้องประเมินสภาพแวดล้อมและความเคลื่อนไหวของพวกเขา แม้ว่าตอนนี้หญิงสาวจะไม่สามารถได้ข้อมูลเชิงลึกอะไรมากมายจากเหล่าจอมโจรหมาป่าภูเขา แต่อย่างน้อยด้วยสภาพของนางในตอนนี้ก็ยังนับว่าหายใจได้ทั่วท้องอยู่ได้บ้าง หากแต่ว่าโชคชะตานั้นมักจะชอบเล่นตลกกับผู้คนเสมอ นางไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไปเมื่อย่างเท้าเข้าไปในรังโจรของพวกเขา ตัวนางนั้นต่อจากนี้จะตกอยู่ในสถานะใดกันแน่ ดวงตาคู่งามลอบกวาดตาไปยังสตรีรูปงามเบื้องหน้าที่ต่างพากันลอบร้องไห้กระซิกๆ เนื้อตัวสั่นเทา ดูท่าโชคชะตาของพวกนางคงไม่แคล้วถูกจับไปเป็นสตรีไว้อุ่นเตียงพวกโจรป่าเถื่อนพวกนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ใบหน้าราบเรียบของหน้ากากหนังมนุษย์ยังคงไม่ฉายแววอากัปกิริยาใดๆ นอกจากความกังวลที่แผ่ออกมากจากดวงตาคู่งามคู่นั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD