ตอนที่ 2 รังโจร

1554 Words
ณ ค่ายหลอมจันทร์ (รังโจรหมาป่าภูเขา) “มาแล้ว! หัวหน้ากลับมาแล้ว…” เสียงตะโกนก้องไปทั่วของชายหนุ่มร่างบึกบึนนามว่าจ้าวยี่หวน เจ้าตัวพลันป้องปากตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความยินดีตามแบบฉบับของเหล่าชายฉกรรจ์ ก่อนจะไม่ลืมบอกพรรคพวกด้านล่างให้รีบเปิดประตูค่ายโดยเร็ว “เปิดประตู! เปิดประตู!” เพียงไม่นานเสียงของประตูไม้ยักษ์ตรงหน้าพลันดังขึ้น จู่ๆ สะพานไม้ขนาดใหญ่พลันเคลื่อนออกมาคล้ายกลไกที่ถูกสร้างขึ้นเฉพาะโดยไม่ต้องใช้แรงคน มันถูกพาดไปทางด้านหน้าทางเข้าเชื่อมกับอีกฝั่งของแม่น้ำที่กว้างราวๆ สี่สิบฉื่อ*เป็นจุดเชื่อต่อเขตแดนจากค่ายไปยังพื้นดิน ค่ายหลอมจันทร์มีพื้นที่คล้ายกับเกาะบนทะเล ลือกันว่าแม่น้ำเบื้องหน้าสายนี้เชื่อโยงมาจากแม่น้ำหลีเจียง ที่แห่งนี้จึงมีภูมิศาสตร์เหมาะเป็นอย่างมากในการตั้งเป็นค่ายหลักของรังโจร เพียงไม่นานเงาร่างสายหนึ่งที่ห้อตะบึงม้าทมิฬเข้ามาในค่ายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ก้าวเข้ามาในเขตแดนของค่ายหลอมจันทร์ร่างสูงใหญ่ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงกระโดดลงจากหลังม้าพลันก้าวฉับๆ เข้าไปในตัวเรือนเบื้องหน้าทันที คล้อยหลังเฟยหลิงเพียงไม่นาน เงาร่างหลายสายก็รีบห้อตะบึงผ่านสะพานไม้พร้อมกับรถม้าแปลกตาที่ดูคล้ายกับว่าจะเป็นของรางวัลจากด้านนอกที่เหล่าโจรหมาป่าภูเขามักจะนำติดไม้ติดมือกลับมาด้วยเสมอ หลังจากกลุ่มโจรเข้ามาในค่ายครบหมดแล้ว เพียงไม่ถึงเค่อสะพานไม้รวมถึงประตูค่ายก็พลันปิดตัวลงทันทีเพื่อตัดขาดที่แห่งนี้จากโลกภายนอก เมื่อสินค้าที่นำมาจากภายนอกมาอยู่ตรงหน้าในรังโจร ทุกสายตาพลันพุ่งเป้าเข้าไปในรถม้าเป็นอันดับแรก และไม่รอให้ทุกคนสงสัยนานเกินไป ก้านลู่จัดการเปิดม่านประตูรถม้าแล้วรีบนำร่างโฉมงามเผ่าอวี้ลงมาในทันที ตุ๊บ! เสียงร่วงราวกับของหนักหนึ่งชิ้นเหมือนถูกเหวี่ยงลงมาจากรถม้าอย่างไม่ถนอมมือ “โอ๊ย!” เสียงทุ่มต่ำของใครบางคนร้องขึ้นราวกับไม่ทันได้ตั้งตัว เรียกความสนใจจากบรรดาชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่กำลังหลงใหลเคลิบเคลิ้มกับนวลเนื้องามในทันที “บัดซบ! เจ้าเหอปากกว้างช่างหน้าไม่อายนัก รังเกียจที่พวกเราซื้อหญิงงามมาในราคาต่ำหรืออย่างไรถึงได้แถมเจ้าคนเหลือขอนี่มาให้เปลืองข้าวสุกด้วย” จื่อลู่พูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์หลังจากที่ใช้สายตากวาดไปทั่วร่างของเจ้าหนุ่มที่ผอมเหลือแต่ก้างตรงหน้า ท่าทางซูบซีดคล้ายสุนัขขี้เรื้อนใกล้ตายเต็มที ค่ายโจรหมาป่าของเขาไม่เคยเลี้ยงคนไร้ประโยชน์ “ฮึ! เอาแต่บ่นเช่นสตรีมิสู้หาวิธีแก้ปัญหาไม่ดีกว่ารึ? จื่อลู่หากเรื่องนี้รู้ถึงหูนายท่าน…เจ้าคิดว่าบทลงโทษของการนำพาคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกลับมาค่ายของเราคืออันใด หึๆ” แม้ความผิดครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่องครักษ์ทั้งสองบกพร่องต่อหน้าที่ที่ไม่ตรวจตราสินค้าให้ดีก่อนตั้งแต่แรก ทว่าก้านลู่ที่มีนิสัยเย็นชาเจ้าเล่ห์กลับสามารถหาคำพูดมาบีบบังคับคนสมองกลวงอย่างจื่อลู่ได้สำเร็จ และก็เป็นไปตามคาด ใบหน้าของจื่อลู่มืดครึ้มในทันที ใบหน้าคมเข้มขบกรามแน่นขณะใช้สายตาโหดเหี้ยมมาที่ร่างบอบบางของเจียงหลี แววตาที่แผ่รังสีอำมหิตราวกับปีศาจที่พร้อมจะอ้าปากกินคนอยู่รอมร่อ เล่นเอาร่างบอบบางขนลุกซู่ในทันที “จ้องหน้าข้าอยากมีเรื่องรึ? ใครก็ได้ลากเจ้าก้อนแป้งเน่านี่ไปคอกม้า ในเมื่อมันขวัญกล้าเข้ามาอยู่ในรังโจรได้ ข้าก็จะให้มันมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย!” ท่าทีข่มขวัญนี้ทำเอาหนังตาข้างขวาของก้านลู่แอบกระตุกอยู่หลายครั้ง เจ้าทึ่มจื่อลู่ช่างขยันเขียนเสือให้วัวกลัวเสียจริงๆ “ขอรับ” เพียงไม่นานร่างบอบบางผอมกะหร่องของเจียงหลีก็ถูกหิ้วปีกไปจากลานกว้างอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แต่บรรดาโฉมงามที่เริ่มหวาดกลัวตัวสั่นราวกับนกกระทายามเมื่ออยู่ต่อหน้าฝูงหมาป่าที่หิวโซ แถมยังจ้องพวกนางด้วยท่าทางหื่นกระหาย “แล้วที่เหลือ…” จื่อลู่ใช้สายตากวาดไปที่บรรดาโฉมงามพลางลอบกลืนน้ำลายก่อนจะถามก้านลู่ผู้เงียบขรึมเป็นนัยๆ “ตามกฎเดิม ส่งไปปรนนิบัติให้นายท่าน หลังจากนั้นพวกเราค่อยรับช่วงต่อ” ว่าแล้วร่างในชุดสีดำก็พลันเดินหายเข้าไปในเรือนด้านในทันที “นี่เจ้า…เฮ้อ…” จื่อลู่ถึงกับกลัดกลุ้ม หากมองผิวเผินการนำหญิงงามพวกนี้ไปเป็นทาสอุ่นเตียงของผู้เป็นนายสำหรับผู้อื่นนับว่าไม่ใช่เรื่องยากอันใด แต่กับนายท่านเฟยหลิง จื่อลู่แทบอยากจะเอามือทึ้งหัวตัวเองสักหลายๆ รอบ นับตั้งแต่กลุ่มโจรภูเขาก่อตั้งมาไม่รู้ว่านานเพียงใด สตรีที่เข้าตานายท่านและสามารถทนการเคี่ยวกรำของนายท่านได้นั้นล้วนแต่ไม่มี เรื่องพวกนี้จึงเป็นตราบาปที่คอยติดตัวหัวหน้าโจรหมาป่าภูเขามาโดยตลอด นับตั้งแต่ครานั้นท่าทีของผู้เป็นนายที่มีต่อสตรีจึงกลายเป็นเย็นชาและคล้ายจะเกลียดชัง แต่ด้วยคำสั่งเสียของอดีตหัวหน้ากลุ่มโจรที่มีศักดิ์เป็นบิดาของนายท่านได้ให้ไว้ก่อนตายว่ากลุ่มโจรหมาป่าจะต้องมีทายาทสืบสกุลทุกรุ่น เพราะฉะนั้นภารกิจนี้แม้ว่านายท่านเฟยหลิงเจ้าตัวอยากจะปฏิเสธอย่างไรก็คงเป็นเรื่องยาก พลั่ก! ร่างบอบบางถูกโยนไปในมุมใดมุมหนึ่งของคอกม้าราวกับรังเกียจ กลิ่นสาบม้ากลิ่นมูลสัตว์รวมถึงกลิ่นอับพลันกระทบเข้าจมูกของเจียงหลีจนแทบจะอ้วก แต่ว่าภายในกระเพาะของนางก็ไม่มีอาหารตกถึงท้องเลยสักนิด เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ดิ้นรนก็ไม่มี ความรู้สึกต้องนอนรอความตายช่างเป็นเช่นนี้นี่เอง เจียงหลีกวาดสายตาไปรอบบริเวณคอกม้าที่นางอยู่ ม้าพันธุ์ดีตัวสีดำมะเมื่อมราวกว่าร้อยตัวถูกขังอยู่ในกรงและถูกดูแลเป็นอย่างดี ก่อนจะถอนสายตากลับมาที่ตัวของนางเอง ข้างกายของตนมีแต่กองฟางที่เอาไว้เลี้ยงม้าสุมสูงท่วมหัว เห็นทีที่นางอยู่ตอนนี้น่าจะเป็นที่เก็บฟางอย่างไม่ต้องสงสัย ดวงตาคู่งามกวาดไปโดยรอบตัวอีกครั้ง คอกม้ามีประตูเพียงแห่งเดียว แต่นับความไกลจากห้องที่นางอยู่ หากจะหาทางออกไปก็ต้องเดินฝ่าม้าป่าพันธุ์หายากพวกนี้ ซึ่งดูจากหน่วยก้านและท่าทางของพวกมันแล้วน่าจะยังเป็นม้าที่ยังไม่ผ่านการฝึกมาก่อนเป็นแน่แท้ หากนางเลือกเดินผ่านพวกมันในตอนนี้ ดูท่าคงไม่แคล้วโดนพวกมันรุมเหยียบจนตายเป็นแน่ “สวรรค์! ท่านกำลังเล่นตลกอะไรกับข้ากันแน่?” เจียงหลียิ้มขื่น จู่ๆ เสียงหอนของหมาป่าพลันดังขึ้นท่ามกลางแสงจันทร์ที่สว่างจ้าบนท้องฟ้า เล่นเอาเหล่าม้าป่ากว่าร้อยตัวถึงกับตื่นตัวร้องฮี่ๆ กันระงม ท่ามกลางเสียงของม้าในคอกผนวกกับเสียงพูดคุยของคนในระแวกใกล้เคียงพลันลอยเข้ามากระทบโสตประสาทของหญิงสาว เล่นเอาเจ้าของร่างบอบบางถึงกับอ่อนล้าและหมดแรง “เฮ้อ! วาสนาของหัวหน้าของเรานี่ช่างดียิ่งนัก ของกลางที่เรานำมาหากเป็นสตรีก็ต้องให้นายท่านจัดการก่อนที่พวกเราจะได้ลิ้มรส หากแต่ว่าหญิงงามเหล่านั้นทุกคราที่ขึ้นเตียงกับเจ้านายเสร็จ เหตุใดหญิงงามเหล่านั้นกลับท่าทางสั่นกลัวราวกับร่างที่ไร้วิญญาณทุกคน ไม่ก็หายใจรวยรินราวกับปลาขาดน้ำ ข้าว่าครั้งนี้หญิงงามพวกนั้นคงไม่แคล้วต้องชะตาอาภัพเช่นเดิมแน่ๆ เฮ้อ...พวกเราคงอดกินเนื้อหงส์อีกเช่นเคย” “จุ๊ๆ เสี่ยวไห่ระวังปากของเจ้าด้วย หากใครมาได้ยินเข้ามีหวังพวกเราได้ตายไร้ดินกลบฝังเป็นแน่!” “หากเจ้าไม่ปากมากแล้วใครจะรู้ เร็วๆ รีบเอาอาหารไปให้เจ้าขอทานนั่นซะ อย่ามัวนินทาเจ้านายให้เสียเวลา” ร่างของชายฉกรรจ์สองร่างรีบเดินมาที่คอกม้าก่อนที่จะมาหยุดยืนที่ห้องเก็บฟาง ตุ๊บ! ก้อนหมั่นโถก้อนใหญ่หนึ่งก้อนกลิ้งหลุนๆ ผ่านช่องรูระบายอากาศบนขื่อไม้ก่อนจะกลิ้งมาตกมาอยู่เบื้องหน้าเจียงหลี สภาพหมั่นโถสกปรกเปื้อนดินและเต็มไปด้วยเศษฟางติด ช่างชวนอนาถใจนัก ทว่ามือเล็กๆ ที่สั่นเทาก็ฝืนแรงกายแรงใจเฮือกสุดท้ายเอื้อมหมั่นโถสกปรกก้อนนั้นขึ้นมา เจียงหลีจัดการสวาปามก้อนหมั่นโถก้อนนั้นทั้งน้ำตา ข้าต้องอยู่ต่อไป ต้องไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่สุดแสนจะเฮงซวยนี่! * 1ฉื่อ เท่ากับ 10 ชุ่น ( 10 นิ้ว )
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD