ภายในเรือนหลัก (เรือนวสันต์สลัก) มือหนายกจอกชาปี้หลัวชุน*ที่ได้จากการปล้นเครื่องบรรณาการเมื่อครั้งก่อนยกขึ้นดื่มเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาแม้จะอยู่ในวัยกลางคนของเฟยอวี่ยังคงฉายแววเงียบขรึม ฝั่งตรงข้ามคือเงาร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำทมิฬ ดวงตาสีอำพันของหลานชายกำลังจับจ้องใบหน้าผู้เป็นอาเงียบๆ เพื่อรอคำตอบ คำกล่าวที่ว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำนั้นไม่ผิด สองอาหลานไม่ต้องเอ่ยคำพูดมากมายแต่ก็คล้ายจะเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายอยู่นัยที ตลอดห้าวันที่ผ่านมาเฟยหลิงพยายามสืบถึงตัวตนของแม่นางผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขา ทว่าเบาะแสทุกอย่างล้วนถูกผู้เป็นอากุมความลับที่มาของสตรีผู้นั้นจนหมด ท่าทีของท่านหมอไป๋ที่มีท่าทางเหมือนคนน้ำท่วมปาก เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายถูกท่านอาข่มขู่ไม่ให้แย้มพรายถึงที่มาของสตรีผู้นั้น วันนี้เขาจึงต้องมาที่เรือนของท่านอาเพื่อถามความจริงให้กระจ่าง เมื่อชาปี้หลัวชุนหมดจอกเฟยอวี่จึงเอ่ยขึ้น