ตอนที่ 4/1 บุปผาเผยกลีบ

1284 Words
“…” เจียงหลีแอบสะดุ้งก่อนจะหันไปมองร่างของเจ้าของร่างที่เผลอกลืนน้ำลายอยู่ข้างๆ นัยน์ตาเรียวคมของคนที่ผ่านประสบการณ์มาครึ่งค่อนชีวิตของเฟยอวี่ในตอนนี้เริ่มเกิดประกายร้อนแรงราวกับถูกจุดด้วยไฟกำหนัด มุมปากหญิงสาวกระตุกทันทีคล้ายกับรับรู้ถึงอารมณ์ของผู้เป็นนาย แม้ว่านางจะเคยเป็นคุณหนูในตระกูลใหญ่ แต่เรื่องระหว่างหญิงชายนับว่ารู้เรื่องอยู่บ้าง ในกาลก่อนนางเคยได้ยินมาว่าภาพในหนังสือลับของหอโคมเขียวเพียงแค่เปิดอ่านก็สามารถปลุกไฟราคะให้กับบุรุษได้ไม่ยาก ถ้าแม้แต่ภาพในหนังสือลับยังสามารถปลุกเพลิงปรารถนาให้ร้อนรุ่ม แล้วฉากบุปผากลืนเวหาตรงเบื้องหน้านี่เล่า จะมิต่างอะไรจากยากระตุ้นเพลิงสวาทในกายบุรุษให้เป็นดั่งกระทิงหนุ่มเลือดร้อนหรอกรึ? “เสี่ยวเจียงเอ๋อร์นายท่านอย่างข้าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว...” ใบหน้าที่คงไว้ซึ่งเสน่ห์อันหล่อเหลาเมื่อวัยหนุ่มของเฟยอวี่เริ่มเผยร่องรอยของเพลิงปรารถนา ฉากบุปผากลืนจันทร์เบื้องหน้าช่างกระตุกไฟร้อนแรงของนายท่านเสเพลให้ไม่อาจจะสะกดกลั้นได้ ดวงตาของเขาแดงก่ำดั่งเปลวเพลิงลุกโชนพร้อมมอดไหม้กลืนกินทุกสิ่งอย่าง ในตอนนี้เจียงหลีเริ่มจะเข้าใจคำว่าเล่นกับไฟอย่างถ่องแท้ ตัวนางนั้นเป็นเหมือนเชลยหลงกลผู้อื่น จนตัวนางในตอนนี้รู้สึกตกที่นั่งลำบาก ให้ตายสิท่านลุง ถ้าหากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าท่านจะตกม้าตายเพราะอุบายของตนเองเช่นนี้ ตัวข้าผู้เป็นคนนอกจะไม่ยอมหลับหูหลับตาทำเรื่องไม่อายฟ้าดินเช่นนี้เป็นแน่! ทว่าโลกใบนี้ไม่มีคำว่าถ้าหาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ สิ่งที่เจียงหลีทำได้ในตอนนี้คือต้องหาทางแก้ปัญหาตรงหน้า เพราะหากอาการของนายท่านอวี่ไม่สามารถสงบลงได้ทันเวลา คนที่จะต้องประสบเคราะห์กรรมหลังจากนี้ไม่ใช่ตัวนางเองหรอกรึ? “นายท่านจะให้ข้าทำอย่างไร?” เจียงหลีเอ่ยถามขณะที่ใบหน้าเคร่งเครียด “อุ๊บ! อร๊าย...ซี๊ดดด...” ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้เตรียมตัว เสียงระทมครวญสายหนึ่งก็ครางขึ้นอีกครั้งคั่นบทสนทนาของทั้งสองทันที เหล่าคนงามสะบัดเปลื้องความอายจนหมดสิ้น นวลหยกงามไร้อาภรณ์ต่างลูบไล้ผิวกายของตน บ้างก็แข่งกันคอยปลุกเร้านายท่านแห่งค่ายหลอมจันทร์ผู้เกรียงไกรตรงหน้าด้วยความคะนึงหา ปลายลิ้นเล็กของเฉล่าโฉมสะคราญต่างไล้ผ่านแผงอกกำยำชวนน้ำลายไหล ส่วนสาวงามอีกหนึ่งนางก็ก้มต่ำตรงหว่างขาอันแข็งแกร่งคอยร่วมกันสร้างความหฤหรรษ์ไม่รู้จบ “อ่ะ...” เจียงหลีอ้าปากค้างร่างแข็งทื่อในทันที “เอื๊อก! ข้าไม่ไหวแล้ว...” ส่วนผู้เป็นนายของนางอย่างนายท่านอวี่ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นยืน เจ้าท่อนกึ่งกลางลุกชันพร้อมเข้าสนามรบเบื้องหน้าทันที “ดะ...เดี๋ยวก่อนนายท่าน!” มือเล็กรีบคว้าข้อมือเฟยอวี่ทันที หากนายท่านผู้เสเพลผู้นี้ต้องการเข้าไปร่วมแจมสงครามดอกท้อนี้ เกรงว่านางจะรับโทษทัณฑ์นั้นไม่ไหวแน่ “ข้าจะเข้าไปร่วมวงกับหลิงเอ๋อร์เจ้าอย่าได้ห้ามข้า!” จู่ๆ นัยน์ตาคู่คมคู่นั้นของนายท่านอวี่พลันเปล่งประกายสีแดงดุจปีศาจก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว มือเล็กที่กำแขนของเจ้านายของตนพลันคลายออกทันที ความรู้สึกกดดันของคนตรงหน้าทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัว พรึ่บ! เงาร่างของเฟยอวี่ได้หายไปต่อหน้าเจียงหลีในพริบตา และตอนนั้นเงาร่างของเขาก็พลันปรากฏกายตรงหน้าหลานชายเพียงคนเดียวของเขาภายในครรลองสายตาของเจียงหลีที่แอบมองอยู่เงียบๆ คล้ายกับรับรู้ถึงการคงอยู่ของผู้เป็นอาอยู่แล้วตั้งแต่แรก ดวงตาสีอำพันคู่นั้นเพียงแค่ปรายหางตาไปที่เฟยอวี่พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าหากแต่ว่าทรงเสน่ห์นัก “ท่านอาอยากจะร่วมสนุกพร้อมกับหลานอย่างนั้นรึ?” “ฮ่าๆ ไม่ผิด หลานรักแบ่งมาให้อาสักคนสองคนจะเป็นไร” ไม่รอให้เฟยหลิงอนุญาต อาภรณ์ที่เฟยอวี่สวมใส่ถูกพลังแปลกประหลาดของเขาฉีกขาดออกจากร่างกำยำไม่มีเหลือ “อ่า...” เจียงหลีรีบเอามืออุดปากของตัวเอง “นายท่านอวี่ช่างอหังการนัก เพียงขยับกาย...อ๊ะ!” มือเล็กรีบปิดบังงสายตาของตนเองด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะค่อยๆ แง้มนิ้วออกจากกันพลางหรี่ตาจ้องมองภาพเบื้องหน้าด้วยอาการใจสั่น หนึ่งในสาวงามที่กำลังส่ายสะโพกเย้ายวนอยู่บนเรือนร่างกำยำของเฟยหลิงถูกฉุดกระชากจากพลังไร้รูป ก่อนที่ร่างของนางจะลอยมาอยู่ใต้ร่างกำยำของนายท่านอวี่แทน “อ๊าห์!...อย่า...นายท่าน” เสียงหัวเราะอย่างชอบใจของโฉมงามหาได้หวาดกลัวในพละกำลังไร้รูปไม่ ในทางตรงกันข้ามเรียวขาคู่งามพลันเบิกอ้ารัดตรึงเอวแกร่งของเฟยอวี่อย่างใจกล้า ไม่ไหวแล้ว ข้าจะไม่ทนดูภาพบาดตาบาดใจของพวกเขาอีกแล้ว…แม้ว่าจะเป็นคำสั่งก็เถอะ เจียงหลีรีบขยับกายออกจากรูมุมกำพังทันที หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อข่มกลั้นอาการปากสั่นใจสั่นกับภาพที่นางเพิ่งจะประสบเมื่อครู่ “ข้ามาทำอะไรที่นี่กันแน่?” เมื่อเอ่ยออกไปแล้วหญิงสาวก็รู้สึกไม่เข้าใจตัวของเช่นกัน คำถามนี้นางไม่รู้จะไปถามใคร “เข้ามา!” ไม่รอให้ร่างบอบบางได้ทันได้ตั้งตัว พลังกดดันบางอย่างคล้ายกับแรงผลักไร้รูปดึงร่างของเจียงหลีลอยเข้าไปในห้องทันที “โอ๊ย!” ทันทีที่ก้นของนางกระแทกกับพื้นห้องจนคล้ายกับกระดูกทั่วร่างจะแหลกสลาย ณ มุมหนึ่งของห้องที่ห่างจากฉากสงครามดอกท้อเพียงสิบก้าว “อ่า...” มือเล็กรีบยกขึ้นมาปิดบังดวงตาของนางทันที ร่างบอบบางของเจียงหลีสั่นราวกับแมวน้อยตกน้ำ “ในฐานะที่เจ้าเป็นคนติดตามของข้า ข้าสั่งให้เจ้าคอยอยู่คุ้มครองข้า!” คำสั่งอันเด็ดขาดของเฟยอวี่ทำเอาเลือดที่ไหลเวียนไปทั่วร่างของเจียงหลีแทบจะแข็งตัว บิดาเจ้าสิ! เห็นอยู่โทงๆ ว่าวรยุทธ์ของเจ้าร้ายกาจขนาดนี้ ยังจะมาบีบบังคับผู้อื่นให้ทำเรื่องไร้ยางอายร่วมกับพวกเจ้าอีก นี่มันรังแกกันเกินไปแล้วนะ! “เสี่ยวเจียงเอ๋อร์เด็กดีอย่าทำให้นายท่านอย่างข้าผิดหวังล่ะ” นัยน์ตาที่คล้ายประกายสีเพลิงจับจ้องมาที่ใบหน้าซีดเซียวของเจียงหลีคล้ายข่มขู่ “ขอรับ...” เจียงหลีเม้มปากแน่นพูดอย่างฝืนใจ ในวินาทีนั้นฉากกลืนบุปผาร่ายเวหาก็พลันดำเนินขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงครางกระเส่าของเหล่าโฉมสะคราญเบื้องหน้าปริ่มจะขาดใจ ร่างบางรีบก้มหน้าต่ำทันที นิ้วมือทั้งสิบรีบปิดใบหูของตนเองเพราะไม่อยากทนฟังเสียงและภาพที่อุจาดตา ให้ตายสิ! ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย สวรรค์! ท่านกำลังจะกลั่นแกล้งข้าอยู่ใช่ไหม?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD