ตอนที่ 3/1 ค่ำคืนแห่งการฉลอง

1014 Words
ราตรีกล้ำกราย แสงจันทร์นวลผ่อง ภายในป่าลึกภายใต้อาณาเขตโจรหมาป่าภูเขา ค่ายหลอมจันทร์บรรยากาศรอบด้านล้วนสว่างไสวไปด้วยแสงคบเพลิงและโคมไฟประดับทั่วทุกมุมค่าย บรรยากาศชื่นมื่น การรวมตัวกันของบรรดาสตรีและบุรษที่เป็นประชากรภายในค่ายโจรแห่งนี้นับพันชีวิต ยังไม่รวมกับอีกหลายหมื่นชีวิตที่ตั้งค่ายสาขาย่อยไว้ในแต่ละจุดภูมิศาสตร์ต่างๆ ของหมู่บ้านหลิ่งเหอ บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายวสันต์ร่วมกับเสียงดนตรีคลาคล่ำ ทำให้ค่ายหลอมจันทร์แห่งนี้ดูครึกครื้นมีชีวิตชีวานัก เจียงหลีในชุดอาภรณ์บุรุษสีขาวคอยเดินตามหลังเฟยอวี่ด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตาคู่งามลอบสำรวจไปทั่วบริเวณลานค่ายหลอมจันทร์เพื่อเก็บรายละเอียดต่างๆ ตอนนี้นางยังไม่มีแผนการที่แน่ชัดสำหรับชีวิตภายในอนาคต แต่การรู้จักสังเกตและเก็บรายละอียดเป็นสิ่งพื้นฐานที่หญิงสาวล้วนได้ฝึกฝนมาครั้งเมื่ออยู่จวนเสนาบดี เพียงไม่นานภายในห้องโถงใหญ่ที่ดูโอ่อาและกว้างพอที่จะบรรจุคนนับพันคนอยู่ได้ก็พลันปรากฏสู่สายตาหญิงสาว ดวงตาคู่งามลอบสำรวจบุคคลและสถานที่เบื้องหน้า ก่อนจะพยายามเก็บรายละเอียดทุกอย่างให้ได้มากที่สุด เบื้องหน้านางมีที่นั่งที่เป็นประธานเพียงหนึ่ง มีบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่บนนั้น ดูจากรูปร่างคนผู้นั้นยังเป็นชายหนุ่มราวอายุยี่สิบห้าถึงสามสิบ ใบหน้าหล่อเหลาคล้ายเหล็กกล้าที่ถูกหลอมจนคม นัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นลอบกวาดสายตาจ้องมองผู้คนเบื้องล่างจากที่นั่งตำแหน่งประธาน แต่เขาผู้นั้นกลับยังคงฉายรังสีคมเข้มเงียบนิ่งสงบดุจกระบี่ที่อยู่ในฝักที่ไม่เผยความงดงามและอำนาจการทำลายล้างของคมกระบี่ออกมา เจียงหลีรู้สึกขนลุกซู่อย่างฉับพลันยามเมื่อดวงตาสีอำพันคู่นั้นกวาดผ่านร่างของนางมาแล้วหยุดตรงร่างกายบึกบึนทรงภูมิของผู้เป็นนายของนางนามว่าเฟยอวี่ “ท่านอา ท่านมาแล้วรึ?” เสียงเรียบนิ่งหากแต่เจือไว้ด้วยความอบอุ่นสายหนึ่งพลันเอ่ยถามขึ้นในตำแหน่งประธาน ทำเอาใบหน้าคนที่ถูกเรียกว่าท่านอาของเฟยอวี่เปื้อนยิ้ม “หลิงเอ๋อร์ งานเลี้ยงบุปผาของเจ้าราตรีนี้จะขาดข้าไปได้อย่างไร” น้ำเสียงเฟยอวี่เจือแววเย้าแหย่อยู่หลายส่วน ดวงตาคู่คมพลันกวาดไปตามลำดับที่นั่งเบื้องล่างที่ลดหลั่นกันลงไปจากลำดับของประธาน สาวงามดุจดอกท้อแย้มบานต่างก็พากันนั่งเรียงรายฝั่งละห้านางขนาบซ้ายและขวาเบื้องล่างถัดจากที่นั่งของเฟยอวี่ไปหนึ่งระดับ “เริ่มงานได้!” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น และแล้วเสียงบรรเลงเพลงพิณของเหล่านักดนตรีประจำค่ายโจรก็ดังขึ้น เหล่าลูกสมุนโจรนับพันภายในห้องโถงใหญ่ต่างก็พากันเริ่มดื่มกินสุราและอาหารคำโต ด้านเจียงหลียืนอยู่ด้านหลังคอยรับใช้เฟยอวี่ด้วยใบหน้าสงบนิ่ง อาหารภายในค่ายยังคงเน้นหนักไปที่สุราและเนื้อสัตว์เสียเป็นส่วนใหญ่ กิริยาที่คล้ายกับถูกอบรมมาจากตระกูลของหญิงสาวดูคล่องแคล่วและมีสง่าราศีนัก เปรียบดั่งแกะขาวในหมู่แกะดำ แม้แต่เหล่าสตรีจากเผ่าอวี้ยังไม่สามารถเทียบกับสง่าราศีของคุณหนูตระกูลใหญ่อย่างเจียงหลีที่แผ่ออกมาเองโดยการปลูกฝังตั้งแต่กำเนิด การกระทำของนางคล้ายกับคุณชายมีตระกูล สามารถจัดแจงบริการเฟยอวี่ด้วยความเอาใจใส่และเป็นระบียบ และการกระทำเช่นนี้ก็พลันไปสะดุดกับสายตาของใครบางคนบนตำแหน่งประธานเข้าอย่างจังเงียบๆ เช่นเดียวกัน “เจ้าหนุ่มน้อย ไยเจ้าถึงได้รู้ใจข้านักว่าข้าไม่ชอบกินเนื้อติดมัน แต่ชอบดื่มสุราเสียมากกว่า ฮ่าๆ นับว่าสายตาข้ายังพอมีแววที่เลือกเจ้ามาอยู่ข้างกาย นับว่าไม่ผิดหวังจริงๆ” เฟยอวี่พูดพลางลอบมองไปบนตำแหน่งประธานเงียบๆ ราวกับรู้ว่าดวงตาสีอำพันคู่นั้นก็ลอบแอบมองมาที่ตำแหน่งของตนเป็นระยะๆ “นายท่านเรียกข้าว่าเสี่ยวเจียงเถอะขอรับ” เจียงหลีก้มหน้าหลุบตาต่ำคล้ายไม่เข้าใจในสิ่งที่เฟยอวี่พูด “ฮ่าๆ เสี่ยวเจียง เด็กน้อยเช่นเจ้าถึงกล้าสั่งเจ้านาย ฮ่าๆ ไม่เลวๆ ข้าชอบ…” ใบหน้าเฟยอวี่เริ่มมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาบ้างแล้ว “ท่านอา...” “นายท่านไยเอาแต่นั่งเงียบๆ อยู่เล่า สาวงามเบื้องล่างรอให้ท่านมาร่วมสนุกด้วยอยู่นะขอรับ” ยังไม่ทันที่เฟยหลิงจะเอ่ยพูดคุยกับท่านอาของเขา จื่อลู่ที่คล้ายกับเมาขึ้นมาบ้างร้องตะโกนจากเบื้องล่างก่อนจะชี้ไปที่บรรดาสาวงามทั้งสิบด้วยท่าทางคุกรุ่น “ใช่แล้วนายท่าน!” “ข้าก็เห็นด้วย!” “ใช่!...ใช่!...ใช่!...” เสียงตะโกนจากบรรดาลูกสมุนในรังโจรพร้อมกับเสียงผิวปากอย่างชอบใจของเหล่าบรรดาชายฉกรรจ์หลายร้อยเบื้องล่างร้องขึ้นด้วยความชอบใจ อาการดิบเถื่อน สายตาหยาบโลนที่เผยซึ่งอาการหื่นกระหายคล้ายฝูงหมาป่าหิวโซล้วนกวาดจ้องมองไปยังโฉมงามผุดผ่องที่นั่งตัวสั่นเทาเบื้องหน้าอย่างปิดไม่มิด หากห้องโถงนี้ไม่มีเฟยหลิงนั่งเป็นประธานแล้วล่ะก็ เกรงว่าสาวงามดุจบุปผาแรกแย้มคงต้องถูกฝูงหมาป่าหื่นกระหายพวกนี้จ้องกลืนกินไปแล้วเป็นแน่ ความรู้สึกเช่นนี้เล่นเอาสันหลังของเจียงหลีถึงกับเย็นวาบในทันทียามเมื่อลอบมองลงไปยังตำแหน่งเบื้องล่าง ดูท่าหากข้าถูกจับได้ว่าเป็นสตรี จุดจบคงไม่แคล้วเป็นเช่นดั่งเหล่าโฉมงามเหล่านั้นเป็นแน่ “ส่งพวกนางไปที่ห้อง!” เฟยหลิงพูดด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น ดูท่าแล้วคำพูดของจื่อลู่รวมไปถึงเหล่าชายฉกรรจ์เหล่านั้นจะไปกระตุ้นต่อมโมโหของชายหนุ่มเสียแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD