มาเฟียหนุ่มรับซองสีน้ำตาลที่บอดีการ์ดคนสนิทส่งให้ มาเปิดดูเอกสารด้านในอย่างไม่รอช้า เขาค่อนข้างแปลกใจที่เธอหายไปโดยไม่เอาค่าตัวเลยสักดอลลาร์แถมยังมาเสียความบริสุทธิ์ให้เขาฟรี ๆ โดยไม่เรียกร้อง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมีแต่จะอ้อนขออย่างไม่เคยพอ แค่อม ๆ แล้วเสร็จ ขออย่างกับเขาเป็นผัวของพวกเธอ
“ลูเซียน่า มาริอาโน” พูดชื่อเธอซ้ำ ๆ ก่อนจะโยนเอกสารประวัติเธอลงบนโต๊ะ
“ตอนนี้เธออยู่เมืองไหน”
“อยู่เมืองกาซันตาโรครับ” มาเฟียหนุ่มเคาะนิ้วลงบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด ก่อนจะโบกมือไล่ให้มือขวาคนสนิทออกไป แล้วหยิบประวัติเธอขึ้นมาไล่สายตาอ่านอีกครั้ง
“อายุ 25 ปี หึ!” เขาพลางยกยิ้มมุมปากเมื่อทราบอายุ สมองก็พลันคิดชมเชยเธอขึ้นมา ถือว่ารักษาเนื้อรักษาตัวมาอย่างดีเพราะอายุยี่สิบห้าปีแต่ยังบริสุทธิ์ เด็กสาวสมัยนี้สิบห้าปี ก็แทบจะไม่เหลือเส้นอะไรให้ตัดผ่านแล้ว
เมื่อไล่สายตาอ่านไปถึงประวัติสัดส่วนของร่างกาย ‘สูง 168 เซนติเมตร น้ำหนัก 55 กิโลกรัม’ มาร์คัสลูบคางมนตัวเองขณะอ่านข้อมูลของเธอ ทุกอย่างที่เขียนไม่มีอันไหนเกินจริงเลยสักอย่าง ร่างสูงเผลอนึกถึงเรือนร่างที่สวยงาม ‘คำว่าหน้าคม นมโต’ คงเหมาะกับเธอที่สุดสำหรับเขา
“พนักงานของ ฟอกเกีย อย่างงั้นเหรอ น่าสนดีนี่”
เขาไล่อ่านประวัติครอบครัวที่เขียนไว้ว่า ‘ถูกฆาตกรรม’
“ถูกฆาตกรรม?” ไล่สายตาอ่านต่อไปถึงการศึกษาที่เขียนระบุว่าจบปริญญาตรี กระทั่งมาถึงที่อยู่ปัจจุบันของเธอ เขาจึงมอบหมายหน้าที่ให้ลูกน้องไปยื่นข้อเสนอให้กับเธอเพื่อมาเป็นผู้หญิงของเขา
สองอาทิตย์ผ่านไป
ณ ฟอกเกียพร็อพเพอตี้
“ลูเซียน่า เข้ามาพบผมที่ห้องหน่อย"
“ค่ะบอส”
ก้อก ก้อก!!
ลูเซียน่าเคาะประตูห้องทำงานที่บุด้วยไม้โอ๊คสีเข้ม ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู ผ้าม่านไหมสีครีมพลิ้วไหวตามแรงลมจากเครื่องปรับอากาศ กลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังลอยอวลในอากาศ บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของห้อง
“เดือนนี้ยอดขายคุณไม่ดีเลยนะ” นั่นไง ผิดที่คิดไว้ที่ไหนล่ะ
“เศรษฐกิจไม่ดี คนซื้อคอนโดมิเนียม ลดน้อยลงแต่เซียก็พยายามเต็มที่แล้วนะคะบอส์”
“คุณต้องพยายามมากกว่านี้ หรือคุณอยากโดนย้ายไปสาขาเล็ก”
“ไม่ค่ะ ๆ เซียจะพยายามให้มากขึ้นค่ะบอส” ใครจะไปอยากย้ายล่ะ เงินเดือนก็น้อยลงน่ะสิ แถมคอนโดมิเนียมสาขาเล็กก็ถูกกว่าสาขาใหญ่ตั้งเกือบครึ่ง เงินเดือนฉันไม่พอจ่ายค่ากินค่าอยู่กันพอดี
“ผมหวังว่าเดือนหน้ายอดขายคุณจะดีขึ้นนะลูเซีย”
“ค่ะ เซียจะพยายามค่ะบอส” พูดจบบอส์ก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้ฉันออกไป
ติ๊ง!! พอฉันเดินผ่านประตูออกมา ข้อความก็ดังเข้ามา
Message | Boss
Boss: ฉันขอโทษที่เสียงดัง พนักงานหลายคนจับตาดูเราอยู่
ไม่เป็นไรค่ะ เซียเข้าใจ :Lucia
Boss: เย็นนี้เธอไปไหนหรือเปล่า
ไปหาลูกค้ามาซื้อคอนโดฯ ไงคะ :Lucia
Boss: เซีย ไม่เอาน่า อย่าประชดฉันเลยนะ
เชอะ งั้นเซียขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ไม่อยากถูกย้าย :Lucia
Boss: แล้วตอนเย็น?
ร้านเดิมก็ได้ค่ะ :Lucia
ฉันเบะปากมองข้อความก่อนจะกดล็อกหน้าจอ แล้วยัดมันเหน็บเข้าที่ขอบกระโปรงตัวเองก่อนจะเดินกลับไปจัดการวางแผนโปรโมทคอนโดมิเนียม เพื่อหาลูกค้าต่อ
เวลา 17:00 นาฬิกา
แสงสีส้มของดวงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องลงมาบนถนนที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงรองเท้าส้นสูงของลูเซียน่าที่กระทบกับพื้นดังก้องในความเงียบ
ขณะที่ลูเซียน่าเดินออกจากบริษัทเพื่อจะไปขึ้นแท็กซี่กลับที่พัก ก็ได้มีชายชุดเทาเข้มลงมาจากรถตู้พร้อมกับฉุดกระชากพยายามจะลากเธอขึ้นรถตู้ หญิงสาวร่างเล็กตกใจกรีดร้อง พร้อมกับกระแทกส้นเข็มลงที่เท้าชายผู้นั้นแล้วหันหลังหวังจะวิ่งหนี แต่ชายชุดเทาก็คว้าแขนของเธอไว้ได้ก่อนจะตะโกนเรียกเพื่อนให้ลงมาช่วย
“มาช่วยกันสิวะนั่งมองอยู่ได้ไอ้เวร”
อีกคนรีบลงมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
“กระจอก แค่ผู้หญิงคนเดียวก็เอาไม่อยู่”
ชายอีกคนก้าวขายาวไปรวบร่างเธอไว้ ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งต่างจากอีกคนที่สีหน้าบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดจากรองเท้าส้นเข็มของเธอ
ลูเซียน่าพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการจับกุมแต่ไม่เป็นผล แรงชายผู้นั้นเยอะเกินกว่าเธอจะสะลัดออกได้ แถมสกิลการหลบส้นเข็มจากเธอก็ดีไม่แพ้กัน
“ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ” พยายามร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่ถูกอุ้มไปขึ้นรถ แต่บริเวณนั้นค่อนข้างเงียบ เนื่องจากเลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับบ้านกันไปหมด มือหนายกขึ้นมาปิดปากลูเซียน่าไว้แน่น ก่อนเขาจะกัดกรามอดทนกับเรียวฟันสวยที่งับกัดเข้าที่มือเต็มแรง
“พะ พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไรจากฉัน”
“ผมมีข้อเสนอมายื่นให้กับคุณ ผมไม่ได้จะมาทำร้ายคุณครับ”
“ขะ ข้อเสนออะไร ทำไมไม่คุยกันดี ๆ จับฉันมาทำไม” น้ำเสียงสั่นกลัวถามขึ้นพร้อมกับสายตาที่มองไปยังชายหนุ่มหน้าตาหล่อเข้มที่นั่งปิดหน้าปิดหลังเธออยู่ ล่าสุดเพิ่งไปเอากับหมาที่ไหนมาก็ยังไม่รู้เลย แล้วถ้าต้องมาโดนรุมสองอีก เธอคิดว่าเธอไม่ไหวแน่
“นายต้องการซื้อตัวคุณไปเลี้ยง”
“จะบ้าหรอ ฉันคนนะ ไม่ใช่หมา”
“พวกเราไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นครับ” อัลโดหันไปด่าเพื่อนทางสายตา เมื่อเพื่อนสนิทหลุดหัวเราะออกมา
“คือนายต้องการให้คุณไปเป็นเด็กเลี้ยงของนาย” ลุยจิอธิบายเสริม
“ไม่ ฉันไม่สนใจ ฉันไม่ชอบเสี่ยแก่ ๆ ขยะแขยงฉันไม่ชอบให้คนเอาพุงมาฝากไว้กับฉัน” ลูเซียน่าคลายความกังวลลงเล็กน้อยเมื่อเห็นทั้งสองหนุ่มมีท่าทีที่สุภาพขึ้น
“ลองไปเจอนายดูก่อนไหมครับ” อัลโดยื่นข้อเสนออีกครั้ง ถึงในใจจะคิดท้วงอยู่บ้างว่านายเขาน่ะหน้าอ่อนยิ่งกว่าเด็กอายุยี่สิบปีอีก แต่ด้วยอายุที่มากกว่าหญิงสาวตรงหน้าหลายปี ก็อาจจะใช้คำว่าแก่ได้อยู่เช่นกัน
“ไม่ ฉันไม่สนใจข้อเสนอ”
“ถ้าไปเป็นเด็กนาย คุณจะได้เดือนละหนึ่งแสนดอลลาร์”
“ฉันไม่สนใจ รบกวนจอดให้ฉันลงด้วยค่ะ” ลูเซียน่ายืนยันน้ำเสียงหนักแน่น ‘คิดว่าจะมาหลอกฉันได้เหรอ ใครกันจะมาให้เงินเดือนละตั้งมากมายขนาดนั้น ขนาดฉันทำงานสายตัวแทบขาด ปีหนึ่งยังได้ไม่ถึงที่ชายพวกนี้ยื่นข้อเสนอให้ด้วยซ้ำ’
บอดีการ์ดทั้งสองมองหน้ากันเพื่อถามความเห็นว่าจะเอายังไงต่อ เพราะทั้งสองก็ไม่แน่ใจว่านายของเขาจะอยากได้ผู้หญิงคนนี้มากน้อยเพียงไหน แต่ถ้ารู้ว่าเธอปฏิเสธ นายไม่ตามตื้อแน่ ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นอัลโดก็บอกให้คนขับหยุดรถทันที
“งั้นผมไม่ส่งนะครับ” ลูเซียน่าอ้าปากค้างทันที ตอนรับเธอมา มาอย่างกับโจรลักพาตัว แต่พอตอนปล่อยตัว กลับปล่อยอย่างกับหมาถูกเจ้าของทิ้ง ยังไม่ทันได้อ้าปากด่า ลุยจิก็ดันร่างเธอลงไปแล้วปิดประตูรถหนี
เมื่อรถตู้ขับแล่นออกไป หญิงสาวได้แต่ยืนกระทืบเท้าสบถคำสาปแช่งทั้งสองอย่างไม่ให้ผุดให้เกิด
“บ้าจริง เอาฉันมาทิ้งแบบนี้ได้ยังไงกัน” เมื่อยกนาฬิกาข้อมือดู หน้าบอสของเธอก็ลอยเข้ามาทันที
“ตายแล้วลืมเลย” รีบล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาคนเป็นหัวหน้าที่ควบตำแหน่งพี่รหัสในมหาวิทยาลัย
คฤหาสน์อัลกราเซียโน
“เป็นยังไงบ้าง” เมื่อบอดีการ์ดคนสนิทกลับมาถึงก็เข้ามารายงานเรื่องของหญิงสาวที่เจ้านายให้ไปยื่นข้อเสนอเพื่อมาเป็นเด็กเลี้ยงของเขาทันที
“เธอปฏิเสธครับ”
“แล้วพวกมึงยอม?”
“เธอไม่สนข้อเสนอเลยครับ เธอบอกไม่ชอบคนแก่ครับนาย เธอกลัวว่านายจะเอาพุงไปฝากเธอครับ” มาเฟียหนุ่มกุมขมับทันทีเมื่อได้ยินคำว่าแก่ แต่ที่สงสัยเขาไม่เข้าใจคือเรื่องของพุง
“พุงอะไรของมึง”
“เธอคงหมายถึงคนแก่พุงอ้วนที่เวลาเอา แล้วพุงค้ำท้องเธอครับ”
“ไอ้เวรเอ้ย แล้วมึงได้บอกหรือเปล่าว่าเป็นกู ได้เอารูปกูให้ดูไหม”
“เอ่อ…ผมบอกแค่ว่านายให้มายื่นข้อเสนอครับ”
“มึงขับรถ นั่งเรือไปกลับสี่ ห้าชั่วโมง พวกมึงกลับมามือเปล่า?”
“เอ่อ ผมคิดว่าถ้าผู้หญิงปฏิเสธ นายก็คงไม่เอา ผมเลยไม่ได้ตามตื้อเธอต่อครับ” อัลโดตอบก่อนจะก้มหน้างุดมองปลายเท้าตัวเอง เมื่อเห็นคนเป็นนายเริ่มจะอ้าปากด่า
“พวกมึงนี่เก่งแต่ฆ่าคนจริง ๆ ไอ้เวรเอ้ย เธอไม่รับข้อตกลง ทำไมพวกมึงไม่อุ้มมา มาเป็นคนดีห่าเหวอะไรตอนนี้”
มาเฟียหนุ่มปัดมือไล่ให้ทั้งสองออกไปอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โต้ะทำงานก่อนจะหยิบวิสกี้ขึ้นมากระดก จากนั้นก็ถลกเสื้อขึ้นดูพุงของตัวเอง “ก็เอาจนส่างจำร่างกูไม่ได้ ได้ไงวะ”
เวลา 20:00 น.
มาเฟียหนุ่มพร้อมลูกน้องอีกสิบนาย เดินลัดเข้าไปทางด้านหลังโกดังดี ที่เป็นทางลับเพื่อลงไปยังชั้นใต้ดิน เมื่อสแกนม่านตา ประตูก็ปลดล็อกออก เงินจำนวนมหาศาลพร้อมกับทองคำแท่งวางเรียงรายเต็มห้องขนาดใหญ่ที่ถูกควบคุมอุณหภูมิเอาไว้
“เข้าไปนับใส่กระเป๋าใบละหนึ่งล้านดอลลาร์ พรุ่งนี้เอาเข้าไปฟอกที่บ่อน” เขาสั่งมือขวา มือขวาหันไปสั่งเหล่าลูกน้องที่ไว้ใจได้อีกที
เครื่องนับเงินถูกเปิดใช้งานพร้อมกับเหล่าชายฉกรรจ์ช่วยกันจัดเงินลงกระเป๋าสี่เหลี่ยมสีดำหรู ด้านในเป็นผ้ากำมะหยี่สีทอง
“แยกมาให้กูใบหนึ่ง ใส่ลงไปล้านห้า แล้วหยิบทองคำใส่ลงไปด้วย”
“ครับนาย”
เงินพวกนี้ล้วนเป็นเงินที่ได้มาจากสิ่งผิดกฎหมายทั้งหมด เขาไม่อยากให้ตำรวจมาเยี่ยมที่คฤหาสน์บ่อย ๆ จึงเลือกที่จะเก็บไว้แบบนี้
มาเฟียหนุ่มมักจะทยอยส่งไปฟอกตามบ่อน ซื้อสิ่งของ ทรัพย์สินต่าง ๆ พร้อมกับเปิดบริษัทตามแต่ละเมืองเพื่อบังหน้า แล้วเอาเงินเข้าไปใช้หมุนเวียนให้กลายเป็นเงินสะอาด