ออกจากบ้านแล้ว มุกนิลก็บังคับรถมาที่บริษัทที่ตัวเองทำงานต่อ เธอทำงานที่นี่ได้สองปีกว่าแล้วแต่พอเข้าสู่ปีที่สามบริษัทก็มีปัญหาเกือบจะถูกปิดไปแล้ว แต่โชคดีที่มีนายทุนมาเทคโอเวอร์ต่อ ไม่งั้นทุกคนในบริษัทคงตกงานกันเป็นระนาว
“มุกวันนี้ท่านประธานคนใหม่จะเข้ามา เห็นเจินมันบอกว่าคนนี้จบโทจากฮาวาร์ดเลยนะ” เพื่อนร่วมงานซึ่งอยู่แผนกเดียวกับเธอกล่าวขึ้นขณะที่ช่วยกันจัดเตรียมข้อมูลให้ประธานคนใหม่
“เหรอ?” มุกนิลครางรับ แต่ไม่ได้ออกความเห็นอะไรต่อ เธอไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องคนอื่นเท่าไร ซึ่งเธอก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“แกจะไม่แสดงความเห็นหน่อยเหรอ” เพื่อนสาวกลอกตามองบนเมื่อเห็นเธอยังนิ่งไม่พูดอะไร
“จะให้เราพูดอะไรล่ะ เรายังไม่รู้เกี่ยวกับประธานคนใหม่เลยนะเกล” มุกนิลตอบเพื่อนแล้วตั้งใจกับงานตรงหน้าต่อ
“จ้าแม่คนสันโดษ” เกวลินย่นหน้าไม่จริงจัง ที่ผ่านมาเพื่อนรักก็เป็นแบบนี้แหละไม่ค่อยเสวนาเรื่องของชาวบ้านชาวช่องเหมือนกับเธอและเจตริน
พอเห็นเพื่อนรักเอาแต่สนใจงานตรงหน้า เกวลินเลยย้ายเก้าอี้ทำงานกลับมายังโต๊ะทำงานของตัวเองบ้าง แต่ยังไม่ทันลงมือกับงานที่รออยู่ตรงหน้า เสียงเพื่อนสนิทอีกคนซึ่งรูปร่างเป็นชายเต็มตัว หากแต่หัวใจหวานแหวว ส่งสัญญาณว่าประธานบริษัทคนใหม่เดินเข้ามาแล้ว เกวลินรีบเงยหน้าส่งสายตาไปทางประตูเพื่อดูบุคคลผู้มาใหม่ คนอื่นๆ ก็ย้ายสายตาไปทางเดียวกันกับเธอ
“สวัสดีค่ะบอส” เป็นเกวลินที่กล่าวทักทายหนุ่มหล่อในชุดสูทสีเข้ม อีกฝ่ายรีบส่ายหน้ายิ้มๆ
“ผมชาญเป็นผู้ช่วยของคุณธาวินครับ” จบการแนะนำตัวเองของผู้มาใหม่ เกวลินถึงกับทำหน้าไม่ถูกเล็กน้อยที่ทักทายผิดคน เจตรินผู้ชายคนเดียวในแผนกกลั้นยิ้มจนแทบแก้มแตก เมื่อเห็นเพื่อนหน้าแหก ส่วนมุกนิลได้แต่ลอบยิ้มนิดๆ กับคนหน้าจืดเจื่อน
“วันนี้คุณธาวินติดธุระไม่สะดวกมา ส่งผมมาแทน แต่พรุ่งนี้ท่านมาด้วยตัวเองแน่นอนครับ” ผู้ช่วยกล่าวแล้วก็ผละจากไป พอผู้ช่วยที่ชื่อชาญเดินเข้าห้องประธานใหญ่แล้ว เกวลินรีบหันไปตีแขนเจตรินดังเพี๊ยะ
“แกขำฉันทำไมนังชะนีเถือก”
“อุ๊ยก็ขำที่รอบนี้สายตาของแกทำงานพลาดน่ะสิ ไหนบอกว่าศึกษาประวัติของประธานคนใหม่มาเรียบร้อยแล้วไงยะ แต่ทำไมเข้าใจผิดคิดว่าคุณผู้ช่วย เป็นท่านประธานไปได้คะคุณเพื่อน” ชายร่างใหญ่หัวใจหญิงยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมหัวเราะเสียงแหลม
“คนเราก็มีพลาดได้น่ะ” เกวลินเบะปากใส่เพื่อน ก็อิตาคุณผู้ช่วยที่ชื่อชาญอะไรนั่น ทั้งหล่อล่ำ สมาร์ตหุ่นอย่างกับนายแบบ เธอก็เผลอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นท่านประธานคนใหม่นะสิ
“จ๊ะแม่คุณ ว่างๆ ก็ไปตัดแว่นบ้างนะ”
“นี่นังชะนีเถือกแกว่าฉันสายตาไม่ดีเหรอ”
“แล้วไม่ใช่หรือไง” เจตรินย้อนก่อนจะรีบไปหลบอยู่ข้างหลังของมุกนิลเป็นเกราะกำบังจากฝ่ามือของเกวลิน
“หยุดเล่นแล้วตั้งใจทำงานกันเถอะ” มุกนิลปรามเพื่อนทั้งสอง สองสาวก็ฟังเธอแล้วไปประจำเก้าอี้ของใครของมันแล้วทำงานต่อ
“วันนี้ไปดื่มกันไหม ฉันเลี้ยง” จู่ๆ เจตรินเอ่ยขึ้นกับสองสาว เกวลินสาวสวยสายปาร์ตี้รีบพยักหน้าขณะที่มุกนิลนั้นส่ายหน้าปฏิเสธ เนื่องจากตั้งใจว่าเย็นนี้จะนัดดนัยออกไปคุยเพื่อยกเลิกงานแต่ง
“ทำไมยะมุก แกก็ไปบ้างสิ ปฏิเสธตลอดเลยนะ เดือนหน้าแกก็จะแต่งงานแล้ว ไปปลดปล่อยบ้างเถอะ ก่อนที่แกจะไม่มีโอกาสนะ” เจตรินรีบค้าน
“นั่นสิมุกไปด้วยกันนะ นานๆ จะได้กินของฟรีจากไอ้เจินมันน่ะ”
“เกินไปแล้ว ฉันเป็นเจ้าภาพออกจะบ่อย” เจตรินเถียงกลับไปบ้าง แต่เมื่อเห็นมุกนิลยังทำหน้านิ่งและสีหน้าเพื่อนเริ่มแดงหน่อยๆ สองสาวรีบหันมามองหน้ากัน ก่อนที่จะเป็นเกวลินลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาจับไหล่มุกนิล
“มุกมีอะไรหรือเปล่า?”
“พี่นัยนอกใจเรา” ในที่สุดมุกนิลไม่อาจเก็บกลั้นความรู้สึกได้อีกต่อไป จึงพูดเรื่องที่เพิ่งเผชิญเมื่อวานให้แก่เพื่อนรักทั้งสองฟัง
“หา!” เพื่อนทั้งสองโพล่งเสียงอุทานพร้อมกัน แล้วก็เป็นเจตรินที่ดึงเธอมานั่งถามอย่างจริงจัง
“แกพูดจริงหรือมุก?”
มุกนิลพยักหน้าก่อนที่จะก้มหน้าปล่อยสะอื้นออกมาเบาๆ ต่อมารับรู้ได้ถึงเรียวแขนของเพื่อนทั้งสองโอบกอดเธอไว้ แล้วลูบหัวเธอเบาๆ
“ผู้หญิงคนนั้นคือใคร?” เกวลินถามด้วยความอยากรู้หลังเห็นเพื่อนรักหยุดสะอื้นบ้างแล้ว
“ทับทิม”
“ทับทิม! / ทับทิม!” สองเสียงเล็กใหญ่อุทานพร้อมกันอีกครั้ง หลังจากที่พวกเธอได้ยินชื่อมือที่สามที่ทำลายความรักของเพื่อนรัก
“น้องสาวทรพี กล้าฉกแฟนพี่อย่างหน้าด้านๆ แบบนี้ต้องสั่งสอน!” เจตรินกำหมัดแน่น ส่วนเกวลินรู้สึกแค้นแทนมุกนิลไม่ต่างจากเจตรินเท่าใดนัก
“มุกรู้เรื่องนี้นานหรือยัง?”
“เมื่อคืน” มุกนิลตอบพลางซับน้ำตาด้วยทิชชูเบาๆ
“ผู้ชายนี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆ จะแต่งงานอยู่แล้วยังจะสำส่อนอีก แล้วแบบนี้แกจะเอายังไงต่อล่ะมุก?”
“เราคงต้องยกเลิกงานแต่ง”
“เอาเลยฉันสนับสนุนแกเต็มที่” เกวลินทุบโต๊ะดังปังหนึ่งครั้ง โดยมีเจตริสนับสนุนอีกคน
“ไอ้พี่ดนัยคนเลวนี่น่าผิดหวังจริงๆ ว่ะ เราอุตส่าห์เชียร์มาตลอด นึกว่าจะไว้ใจได้ ที่ไหนได้เลวเหมือนคนอื่นไม่มีผิด”
“ที่แกไม่ไปดื่มกับเราก็เพราะจะไปคุยกับพี่ดนัยใช่ไหม?” เกวลินเข้าสู่โหมดจริงจัง แทนคำตอบ มุกนิลพยักหน้าบางเบา
“งั้นเราไปกับมุก จะไปช่วยมุกกระทืบมันเอง”
“โหเยอะไปแล้วเพื่อน ให้มุกเขาคุยกันด้วยเหตุด้วยผลเถอะ” เกวลินปรามเพื่อนชาย ต่อให้อยากเอาเรื่องไอ้รุ่นพี่หน้าขาวนั่นมากขนาดไหน แต่เธอเชื่อว่ามุกนิลอยากคุยกับมันสองคนมากกว่า”
“ก็มันโมโหนี่ เราอุตส่าห์ไว้ใจแต่สุดท้ายพี่นัยก็หักหลังมุกอ่ะ” เจตรินสะบัดตัวแรงหนักยังมีท่าทีโกรธเคืองเมื่อเอ่ยชื่อรุ่นพี่ที่เคยเรียนด้วยกันแถมยังสนิทกันพอสมควร
“ขอบใจพวกแกทั้งสองมากนะ” ต่อให้เจอเรื่องร้ายๆ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีเพื่อสนิททั้งสองที่พร้อมจะยอมอยู่เคียงข้างเธอ
“มุกแกไปเคลียร์กับไอ้พี่ดนัยแล้ว แล้วไปดื่มกันเถอะ เราต้องมูฟออน ผู้ชายไม่ได้มีเพียงคนเดียวในโลกจำไว้ สวยๆ อย่างแกไม่นานก็หาใหม่ได้แล้ว”
“ใช่ยัยชะนีน้อยแกต้องมูฟออนโดยด่วน” เจตรินจีบปากจีบคอ ออกแรงส่งเสริมอีกเสียง
“จะเสียดายทำไม่ไอ้ผู้ชายห่วยๆ พันธ์นั้น” เกวลินต่อท้ายอย่างคนมีอารมณ์เดือด
การได้ปรับทุกข์กับเพื่อนๆ มันก็ทำให้มุกนิลสบายใจขึ้นไม่น้อย และแรงเชียร์ของเพื่อนมันทำให้เธอมีความกล้าที่จะยกเลิกงานแต่งระหว่างเธอและดนัย
******
คาเฟ่…
“น้องมุกมองพี่แบบนี้มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ดนัยยอมรับว่าเริ่มใจไม่ดี ตั้งแต่ที่เข้ามานั่งในร้าน มุกนิลเอาแต่จับจ้องกัน และบางอย่างบอกกับเขาว่า ระหว่างเขาและเธอกำลังจะเปลี่ยนไป
“เปล่าค่ะ” มุกนิลไหวหน้าเล็กน้อย อาจเป็นเพราะมัวจมอยู่กับความคิดเธอเผลอมองแฟนหนุ่มอยู่อย่างนั้น ตลอดระยะเวลาที่คบหาดูใจกัน ดนัยประพฤติตัวดีมาตลอด ไม่มีเรื่องนอกใจ เวลาเธอมีเรื่องทุกข์ใจก็ได้เขาที่คอยปลอบอยู่ไม่เคยห่างกาย เขาทำหน้าที่ได้ดีมากๆ ในฐานะแฟน เธอและเขาคงจะลงเอยกันด้วยดีหากไม่มีเรื่องเมื่อคืน
“น้องมุกลืมอะไรหรือเปล่าครับ?” ดนัยใจชื้นขึ้นมาบ้างหลังเธอปฏิเสธว่าไม่มีอะไร อาจเป็นเขาที่คิดมากก็ได้
“ลืมอะไรเหรอคะ?” เธอแสร้งถามทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาถามเพราะอะไร เมื่อคืนเธอตั้งใจไปเซอร์ไพรส์เขา แต่เป็นฝ่ายถูกเซอร์ไพรส์เสียเอง
“ก็น้องมุกลืมวัน…”
“พี่นัยคะ เราอย่าแต่งงานกันเลยค่ะ” มุกนิลตัดบทของแฟนหนุ่มด้วยการแทรกเสียงกลางคัน เนื่องจากเห็นหน้าอีกฝ่ายแล้วเธออยากอาเจียนเพราะภาพที่ดนัยและทับทิมทำร่วมกันมันยังติดตามาถึงทุกวันนี้
“น้องมุกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ?” น้ำเสียงดนัยแผ่วลงจนแทบจะไม่ได้ยิน
“มุกก็หมายความอย่างที่พูดแหละค่ะ” กล่าวจบ มุกนิลยกกาแฟร้อนๆ ขึ้นจิบ ความเย็นชาของเธอ ก่อเกิดความกลัวในใจของดนัย
“น้องมุกอย่ามาล้อเล่นสิ พี่ไม่สนุกด้วยนะครับ”
“มุกไม่ได้ล้อเล่น มุกพูดจริงค่ะ”
“แต่งานแต่งก็จะเกิดขึ้นในเดือนหน้านี้แล้วนะครับ”
“พี่นัยก็ยกเลิกไปสิคะ”
“พี่ไม่ยกเลิก พี่จะแต่งงานกับมุก พี่รักน้องมุก พี่จะไม่ยกเลิกงานแต่งเด็ดขาด!” ตอนนี้เขาหาความผิดของตัวเองไม่เจอ นอกจากเรื่องเมื่อคืน… รู้ว่าทำผิดต่อเธอ แต่เมื่อคืนเขาควบคุมตัวเองไม่ได้
มุกนิลแค่นยิ้มออกมา หากไม่มีหลักฐานดนัยก็ยังคงดื้อด้าน และจะไม่ยอมรับคำขอของเธอใช่ไหม โชคดีแค่ไหนที่เธอได้บันทึกหลักฐานสำคัญไว้
“น้องมุกส่งมือถือให้พี่ทำไมครับ?” เห็นสีหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามของแฟนหนุ่มแล้วมุกนิลอยากจะข่วนหน้าอีกฝ่ายยิ่งนัก
“พี่นัยก็ดูสิคะว่าในมือถือมีอะไร รีบดูนะคะ มุกจะได้รีบลบคลิปออกไม่อยากเก็บไว้ในโทรศัพท์นะค่ะ มุกขยะแขยง”
ดนัยรับโทรศัพท์มาดู แต่พอเห็นเนื้อหาในคลิปที่มีเสียงครางระหว่างเขาและทับทิม ชายหนุ่มกดลบแทบไม่ทัน ถึงว่าทำไมวันนี้น้องดูเย็นชากว่าทุกวันเพราะเธอรู้เรื่องเมื่อคืนแล้วนี่เอง
“มาถึงขนาดนี้แล้วหวังว่าพี่นัยจะยกเลิกงานแต่งนะคะ”
“น้องมุกให้โอกาสพี่สักครั้งได้ไหม” ดนัยทอดเสียงวิงวอน ราวกับคนหมดแรง แต่มุกนิลเป็นประเภทเจ็บแล้วจำ เธอไม่สามารถมอบโอกาสแก่คนตรงหน้าได้จริงๆ