นิทานปรัมปรา

951 Words
หมู่บ้านเล็กๆที่ห่างไกลความเจริญรุ่งเรืองไม่มีไฟฟ้าน้ำประปาถึงแม้โลกนี้จะเจริญมากขึ้นเพียงใดแต่บนโลกใบนี้ก็ยังคงความลึกลับน่าค้นหาหลายสิ่งหลายอย่างวิทยาศาสตร์ไม่อาจตอบได้มันยังคงมีสถานที่ลึกลับที่ผู้คนมากมายยังไม่เคยพบ รวมถึงคนที่อาศัยอยู่ด้านในก็ไม่เคยรู้วันรู้คืนและไม่รู้ถึงความเจริญที่มีในโลกภายนอกหากจะให้กล่าวเรียกหมู่บ้านนี้ว่าหมู่บ้าน"ลับแล"ในอีกมิติหนึ่งก็เป็นไปได้ อย่างพวกเราที่จะเจริญแล้วมักจะได้ยินเรื่องเล่ากล่าวขานต่างๆนานาเกี่ยวกับหมู่บ้านลึกลับผู้คนลึกลับที่อยู่ต่างมิติ แต่ใครจะรู้กันเล่าว่ามันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ส่วนมนุษย์เหล่านั้นที่อยู่ต่างมิติกับเรา ก็ไม่เคยรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเราเช่นกัน ทั้งสองก็ได้แต่เพียงกล่าวขานเป็นนิทานปรัมปรา สืบชั่วลูกชั่วหลานเล่าสู่กันฟังต่อๆมานั่นเอง โมลีหญิงสาวชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านลึกลับต่างมิติเธอมีกระท่อมกลางป่าเล็กๆห่างจากหมู่บ้านเพียงไม่ไกลเธออาศัยอยู่คนเดียวจนเติบโตเป็นสาวเพราะพ่อแม่ของเธอได้จากไปทั้งคู่ก่อนวัยอันควรเธอมีความสวยที่เลื่องลือผู้ชายมากหน้าหลายตาในหมู่บ้านต่างพากันวนเวียนมาจีบเธอ แต่ก็ยังไม่มีใครชนะใจผู้หญิงงามในป่าไผ่คนนี้ได้ ผมดำขับยาวจนถึงหลัง ตากลมโต เอวคอดสะโพกผาย ตัวเล็ก หน้าอกหน้าใจที่ใครๆก็เลื่องลือเรียกเธอว่าแม่โคนมของหมู่บ้านมันใหญ่เกินตัวของเธอไม่ว่าชายใดได้เห็นเธอก็คิดว่านางอัปสราลงมาเกิดเธอมีรูปโฉมที่เป็นทรัพย์ หลาย 10 ปีเธอใช้การหาเลี้ยงชีพด้วยการหาของป่าและผลไม้ป่ามาขายในตลาดชีวิตของเธอก็เหมือนผู้หญิงชาวบ้านทั่วไป เพียงแต่รูปโฉมที่เลื่องลือกันสนั่นไปหลายหมู่บ้าน ใครๆก็อยากเห็นนางอัปสราในพงไพรในตำนาน ผู้ชายมากหน้าหลายตาต่างหลั่งไหลมาเยือนโฉมเธอทั้งนั้น และด้วยความสวยของเธอมันเป็นเหตุทำให้เกิดเรื่องราวหลังจากนี้ที่จะเกิดขึ้นกับเธออีกมากมายเมื่อเธอได้หลงเข้าไปในป่าต้องห้ามที่ใครๆก็มักจะเล่าถึง "อสูรไพร" นิทานปรัมปราผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านต่างพากันเล่าขานถึงอสูรไพรที่อาศัยอยู่ในป่าทางเหนือของหมู่บ้านวันดีคืนดีเมื่อไหร่ที่อสูรภัยต้องการคนไปรับใช้เขาจะเปิดประตูมิติเพื่ออนุญาตให้คนคนนั้นได้เข้าไปและไม่เคยกลับออกมาอีกเลย บางตำนานก็กล่าวว่าทุกๆปีอสูรไพรจะต้องสังเวยเครื่องเส้นให้กับมันโดยการส่งสาวพรหมจรรย์เป็นเครื่องเส้นสังเวยในทุกปีเพื่อไม่ให้เกิดการประยุกต์กับหมู่บ้านอสูรภัยนี้ไม่มีใครเคยเห็นตัวตนมันสามารถแปลงกายเป็นทุกอย่างที่มันอยากให้เห็นผู้เฒ่าผู้แก่ต่างเล่าขานว่ามันมีพลังอำนาจเหนือเทพยดาทั้งปวงมันเป็นผู้ควบคุมทั้งการเวลาและชีวิตไม่มีใครสามารถฆ่ามันได้เพราะมันเป็นอมตะ แต่ใครจะรู้กันเล่าว่านิทานปรัมปราที่ถูกเล่าขานต่อๆกันมาในปัจจุบันเรื่องใดคือเรื่องจริงและเรื่องใดก็เป็นแค่เรื่องพูดก็ป่นเพื่อไม่ให้ผู้คนเข้าไปทำลายธรรมชาติเรียกว่ากลอุบายอย่างหนึ่งทำให้ลูกหลานไม่หลงเข้าไปในป่าที่อันตรายในการล่าสัตว์ยามวิกาลเพราะถนนหนทางเส้นนั้นขนาดพรานป่ามือดีเข้าไปยังหลงจนไม่สามารถออกกับมาได้จึงทำให้เกิดเรื่องราวตำนานอสูรภัยที่กล่าวขานมาหรือเปล่าไม่มีใครสามารถตอบความจริงในเรื่องนี้ได้จึงทำให้เกิดนิทานปรัมปราสืบต่อกันมาในหมู่บ้านแห่งนี้แต่ทุกวันนี้เรื่องการเส้นสังเวยสาวบริสุทธิ์พิธีนี้ได้ถูกยกเลิกมาเนิ่นนานเป็นร้อยปีเหลือเพียงตำนานที่กล่าวขานเท่านั้น ทุกวันนี้ชาวบ้านทุกคนไม่รู้จักการใช้เงินทองไม่รู้จักว่าสิ่งใดที่เรียกว่ามีค่าเมื่อใดที่ทุกคนอยากได้สิ่งใดจะใช้สิ่งของที่มีไปแลกเปลี่ยนกันที่ตลาดหมู่บ้านใครอยากกินปลาเอาข้าวไปแลกใครอยากกินผลไม้เอาเนื้อสัตว์กับผลไม้ไปแลกหากแต่มันเกิดขึ้นกับความพึงพอใจของคนทั้งสองฝ่ายที่จะตกลงกันจึงทำให้เกิดเพียงการแลกเปลี่ยนทุกวันในหมู่บ้านนี้ไร้ซึ่งความโลภหลังจากทุกคนทำการแลกเปลี่ยนค้าขายตามตกลงก็จะแยกย้ายกันไปทำกิจการในครัวเรือนเช่นการปลูกผักทำนาเลี้ยงสัตว์เหมือนผู้คนในยุคโบราณที่ไม่มีแสงสีกิเลสและอบายมุข มันช่างเป็นชีวิตที่ในโลกปัจจุบันของเรานั้นเรียกได้ว่าแทบจะหาไม่ได้แล้วผู้คนมากมายต่างแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นความโลภบังตารบราฆ่าฟันเพื่อแย่งชิงสมบัติตีรันฟันแทงเพราะไร้ซึ่งความรักเมตตาและความอภัย หลังจากวันนี้ไปนิทานปรัมปะรานี้ที่ถูกสืบต่อเล่าขานมันกำลังจะประจักษ์แก่ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นนางอัปสราในพงไพรใครเห็นใครก็หลง ใครเห็นใครก็รัก แม้กระทั่ง"อสูรไพร"เพียงแค่เสี้ยวนาทีเธอก็สยบหัวใจอสูรทั้งดวงเอาไว้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD