ได้เสมอ

1670 Words
“ผมให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้ง ถ้ายังหอมแบบเดิม เงินที่ผมตกลงว่าจะให้ถือว่ายกเลิก” ดวงตาเขาเป็นประกายวิบวับ “ฉันจะเชื่อใจคุณได้ไหมเนี่ย” บอกตรงๆ ว่าชาร์ลส์ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด “ได้เสมอ เอาละ หอมแก้มผมอีกข้าง แล้วต่อไปจะได้บอกข่าวดีให้แองจี้รู้” น้ำเสียงเขามีแววสั่งเหมือนเคย เพราะคงสั่งใครต่อใครจนเคยชิน เวณิกามองใบหน้าคมแกร่งกร้าวที่มีหนวดเคราขึ้นตามแนวสันกรามแล้วรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ความหล่อเหมือนพระเอกฮอลลีวู้ดของเขาทำให้เธอใจสั่นได้ตลอดเลย ให้ตายเถอะ “หอมเลยค่าพี่เวย์ หนูอยากรู้ข่าวดีแล้ว” นางฟ้าตัวน้อยยิ้มเผล่ “หอมเลยที่รัก” หญิงสาวลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหอมแก้มชาร์ลส์กลับแบบที่เขาแสดงตัวอย่างให้ดู “พอใจยังคะ” กลิ่นอาฟเตอร์เชฟของเขาเย้ายวนและรัญจวนใจอย่างประหลาดจนเธอต้องห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกวูบวาบ แต่ห้ามความรู้สึกนั้นยากพอๆ กับห้ามไฟไม่ให้มีควัน “ดีขึ้นกว่าครั้งแรก แต่ยังไม่ดีเยี่ยม ไว้คราวหน้าเอาใหม่นะ” ริมฝีปากหยักลึกแย้มยิ้มขัน ไม่รอให้เธอต่อปากต่อคำ ชาร์ลส์หันไปหาลูกสาวและเอ่ย “ข่าวดีที่แดดดี๊จะบอกแองจี้ก็คือ เย็นนี้แดดดี๊กับพี่เวย์จะแต่งงานกันค่ะ และต่อไปแองจี้ก็เรียกพี่เวย์ว่าหม่ามี้ได้เลย” “นี่คุณพูดจริงเหรอ?” เวณิกาอุทานเสียงสูง ตอนแรกเธอนึกว่าแค่ล้อเล่น นี่มันเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าแลบเสียอีก! คนอื่นมีแต่ปุ๊บปั๊บรับโชค แต่สำหรับเธอคงต้องเรียกว่าปุ๊บปั๊บรับสามี แถมยังพ่วงลูกสาวมาด้วยอีกตั้งหนึ่งคน โอ้พระเจ้า เธอมาไกลกว่าที่คิดมากเหลือเกิน จากทริปท่องเที่ยวในฝัน จบลงตรงนี้ได้ยังไงกัน นี่เธอต้องกำลังฝันไปแน่ๆ ใครก็ได้ช่วยปลุกที หลังส่งแอนเจลิน่าให้ผู้เป็นพ่อ คามิลล่าก็ลงมานั่งดื่มกาแฟพลางทานเบเกอรี่ที่ร้านแห่งหนึ่งบนถนนสตริป และบังเอิญเหลือเกินที่เกร็กมาร้านนี้เหมือนกัน ทั้งสองจึงได้ร่วมโต๊ะอีกครั้ง “มาร้านนี้ประจำเหรอคะ” สาวผมบลอนด์ทักเจ้าของร่างสูงที่เพิ่งนั่งลงตรงข้าม “ใช่ครับ กาแฟร้านนี้รสชาติเยี่ยมมาก คุณล่ะ ไม่นึกว่าจะเจอกันที่นี่” มันคงไม่ใช่ความบังเอิญเท่านั้น แต่คนบนฟ้าขีดเส้นให้เขาและเธอมาเจอกันแน่ๆ เกร็กคิดเข้าข้างตัวเอง “ฉันมาร้านนี้ครั้งที่สามแล้วค่ะ ติดใจรสชาติกาแฟเหมือนกัน แถมเบเกอรี่ยังอร่อยด้วย” พี่เลี้ยงสาวยิ้มกว้าง ปกติช่วงเช้าประมาณแปดถึงเก้าโมงแล้วแต่ตาราง หลังพาแองจี้ไปส่งให้ชาร์ลส์แล้ว คามิลล่าจะมีเวลาว่างประมาณชั่วโมงเศษ สิบโมงจึงไปรับหนูน้อยกลับมาดูแล เพื่อให้เจ้าของโรงแรมหนุ่มทำงานต่อ หกโมงเย็นเป็นเวลาเลิกงานของเธอ ยกเว้นวันไหนชาร์ลส์งานยุ่งหรือติดธุระ หญิงสาวก็รับหน้าที่ดูแลแองจี้ตลอดทั้งวัน โดยเด็กน้อยจะค้างกับคามิลล่าเลยที่ห้องพักของเธอในโรงแรมดิ แอชตัน วินเทอร์ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ที่ชาร์ลส์พาลูกสาวกลับบ้านที่แคลิฟอร์เนียเป็นวันหยุดของพี่เลี้ยงสาว “แล้วทำงานเป็นไงบ้างครับ มีปัญหาไหม” เกร็กชวนคุย “ไม่มีเลยค่ะ คุณแองจี้น่ารักมาก ว่านอนสอนง่าย แกเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย โชคดีจริงๆ ที่ได้งานนี้” ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายพราวพร่าง นอกจากความสุขในการทำงานแล้ว ค่าจ้างก็ไม่น้อยทีเดียว “ผมดีใจที่เห็นคุณสนุกกับการทำงาน หวังว่าจะได้เจอกันอีกนานๆ นะครับ” “แน่นอนค่ะ ว่าแต่คุณเถอะ คิดจะเปลี่ยนงานบ้างไหม” เกร็กส่ายหน้าและตอบอย่างไม่ลังเล “ไม่เลยครับ คงทำงานกับบอสจนแก่กันไปข้างนึงนั่นละ เราเป็นเหมือนเพื่อนมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง และผมก็ได้โอกาสดีๆ ในชีวิตเยอะตั้งแต่ทำงานกับบอส คงไม่ไปไหนแล้วครับ” “ฉันก็อยากเป็นพี่เลี้ยงคุณแองจี้ไปจนแก่เหมือนกัน แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพอเธอโตขึ้น คงไม่ต้องการพี่เลี้ยงอีกแล้ว” เมื่อได้ยิน ชายหนุ่มก็ฉุกคิดขึ้นมาว่างานของเขากับคามิลล่าไม่เหมือนกัน เพราะงั้นเขาต้องพิชิตใจเธอให้สำเร็จ ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนไปดูแลเด็กคนอื่นเมื่อแอนเจลิน่าเติบโต ถ้าไม่รีบ คราวนี้อาจไม่มีโอกาสแก้ตัวอีก ครู่ต่อมากาแฟของเกร็กก็ถูกยกมาเสิร์ฟ สองหนุ่มสาวนั่งจิบเครื่องดื่มพลางพูดคุยกันอย่างถูกคอ ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือของเกร็กดังขึ้น เมื่อเห็นชื่อบอส เขาก็รีบแตะหน้าจอรับสาย “ครับบอส” “ตอนนี้นายอยู่ในโรงแรมหรือเปล่า” ชาร์ลส์ถาม เพราะบางครั้งเกร็กก็ออกไปติดต่อประสานงานนอกสถานที่ “ผมอยู่ร้านกาแฟไม่ไกลจากโรงแรมครับ” “งั้นอีกครึ่งชั่วโมงมาหาฉันที่ห้องทำงานหน่อย” “ได้ครับบอส” เกร็กตอบรับแข็งขัน แล้วเจ้านายของเขาก็วางสายไป “เดี๋ยวอีกสิบนาทีผมต้องไปแล้วนะครับ” ชายหนุ่มบอกคนนั่งตรงข้าม “ตามสบายค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งต่ออีกพักก็ต้องไปรับคุณแองจี้เหมือนกัน” คามิลล่าพูดจบ เครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงยีนก็ส่งเสียงดัง “บอสแหง” เกร็กหัวเราะครืน แล้วก็เป็นตามที่คิดจริงๆ “ค่ะคุณชาร์ลส์ อ๋อ… ฉันอยู่ร้านกาแฟค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างสุภาพ “ค่ะ… ได้ค่ะ” หลังจากวางสาย คามิลล่าก็ตวัดสายตากลับไปมองเกร็กและพบว่าดวงตาสีสนิมของชายหนุ่มกำลังจับจ้องใบหน้าของเธอนิ่ง เมื่อถูกจับได้ เขาก็ยกมือขึ้นลูบท้ายทอยพลางหัวเราะกลบเกลื่อน “ร้านนี้สวยดีนะครับ” บ้าเอ๊ย ทำไมเขาต้องเขินด้วยวะ สาวผมบลอนด์กวาดตามองรอบร้านและหัวเราะแหะๆ “ค่ะ ก็… สวยดี” ประกายประหลาดในดวงตาของฝ่ายนั้นทำให้เธอประหม่าขึ้นมาเฉยๆ “เมื่อกี้บอสโทร.มาเหมือนกันเหรอครับ” เกร็กชวนคุยเรื่องอื่น “ใช่ค่ะ” “มีธุระกับเราสองคนพร้อมกัน?” คิ้วหนาเลิกสูงขึ้นด้วยความสงสัย แต่เดาไม่ออกว่าเรื่องอะไร เกร็กและคามิลล่าได้คำตอบเมื่อมาถึงห้องทำงานอันโอ่อ่าเรียบหรูของชาร์ลส์ แอชตัน วินเทอร์ ตอนนี้เจ้าของโรงแรมหนุ่ม เวณิกา และแอนเจลิน่าอยู่กันพร้อมหน้าตรงมุมโซฟานั่งเล่น โดยชาร์ลส์นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยว ส่วนเวณิกานั่งอยู่กับแองจี้บนโซฟายาว “เย็นนี้ฉันจะแต่งงานกับเวย์ นายกับมิลลี่ช่วยกันเตรียมงานด้วย” น้ำเสียงของชาร์ลส์ไม่มีแววล้อเล่น “อะไรนะครับ!?” “อะไรนะคะ!?” คนถูกไหว้วานทั้งสองแทบจะอุทานออกมาพร้อมกัน “มันจะทันเหรอครับบอส ไหนจะการ์ดเชิญ ไหนจะเตรียมสถานที่ อาหาร และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย” แม้จะเป็นผู้ช่วย แต่เกร็กมีสิทธิ์แย้งได้เสมอถ้าไม่เห็นด้วย และชาร์ลส์ก็พร้อมรับฟังเหตุผล เพราะต้องการผู้ช่วยที่มีไหวพริบ ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่รับคำสั่งแล้วทำตามไปแบบทื่อๆ “นั่นสิคะ งานของคุณชาร์ลส์ต้องไม่ใช่งานเล็กๆ แน่” คามิลล่าเสริม “แล้วใครบอกว่าผมจะจัดงานใหญ่” ชาร์ลส์หันไปสบตาเวณิกาและกระตุกยิ้มมุมปาก “ระดับบอสแต่งงานทั้งที จะไม่ใช่งานใหญ่ได้ไงครับ” “นายคิดว่าฉันสั่งแบบไม่คิดหรือไงวะเกร็ก ถ้าฉันจะจัดงานใหญ่ขนาดนั้น คงไม่สั่งให้นายกับมิลลี่เตรียมงานล่วงหน้าไม่กี่ชั่วโมงแบบนี้" “ไม่ใช่งานใหญ่เหรอครับ?” “อืม เป็นแค่งานเล็กๆ ภายใน” ริมฝีปากหยักลึกของคนพูดแย้มพราย ด้านเวณิกานั่งฟังเงียบๆ รอแย้งหากเขาไม่พูดตามตกลงกัน ส่วนแองจี้นั้นนั่งตาแป๋วมีความสุข เพราะกำลังจะมีหม่ามี้เหมือนเพื่อนคนอื่น “แล้ว… บอสวางแผนว่าจะเชิญแขกกี่คนครับ” เกร็กขมวดคิ้วแปลกใจ คามิลล่างงพอกัน เพราะชาร์ลส์เป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก นับคร่าวๆ แล้วจำนวนแขกที่มางานไม่น่าต่ำกว่าหนึ่งพันคน แม้ว่าจะเป็นงานแต่งงานครั้งที่สอง แต่ใครต่อใครก็อยากร่วมยินดีทั้งนั้น “งานนี้มีแขกแค่สามคนเท่านั้นคือแองจี้ นาย และมิลลี่” “สามคน!” “สามคน!” เป็นอีกครั้งที่เกร็กและคามิลล่าอุทานพร้อมกัน เพราะจำนวนแขกน้อยกว่าที่คาดมาก “ไม่ต้องแปลกใจหรอก งานนี้เป็นความต้องการของเจ้าสาวฉัน และแน่นอนว่าฉันจะไม่ขัดใจคนที่ฉันรักมากที่สุด” ผู้บริหารหนุ่มหันไปสบตาเวณิกาด้วยแววตาแสนลึกซึ้ง ทว่าสาวเจ้าแกล้งหันไปหยอกล้อกับลูกสาวเขาโดยไม่ใส่ใจเสียอย่างนั้น “แล้วพ่อแม่ของบอสกับญาติๆ ล่ะครับ” ผู้ช่วยหนุ่มคิดว่างานแต่งงานคงไม่สมบูรณ์ หากขาดสมาชิกในครอบครัว “งานนี้ขอให้รู้แค่พวกเราก็พอ” นั่นคือสิ่งที่ชาร์ลส์ตกลงกับเวณิกา “แล้วฉันจะจัดงานฉลองใหญ่อีกครั้ง” เจ้าของโรงแรมหนุ่มเอ่ยเพื่อตัดปัญหาไม่ให้เกร็กและคามิลล่ามีคำถาม แม้เกร็กและคามิลล่าคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้ออกจะแปลกไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ “ถ้าอย่างนั้น ผมกับมิลลี่จะช่วยกันเตรียมงานเลยครับ” “อย่าลืมนะ เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้ นอกจากฉัน เวย์ นาย มิลลี่ และแองจี้” ชาร์ลส์ย้ำเตือน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD