คุณเลวมาก

1465 Words
“แดดดี๊กับหม่ามี้อย่าเพิ่งเถียงกันค่ะ ตอบหนูก่อน” เสียงเล็กๆ บอก “อืม เอาไงดีเวย์ ถ้าจะให้น้องของแองจี้มาเร็วที่สุด เราก็คงต้องลงมือคืนนี้เลย” ชาร์ลส์เอ่ยเหมือนลืมสัญญาฉบับนั้นไปแล้ว “ได้ไงล่ะ ก็เราสองคน…” เวณิกาเกือบจะหลุดปาก แต่ดีที่ยั้งไว้ทัน เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง “แต่แองจี้อยากเจอน้องนะ” “แล้วจะทำยังไงล่ะคะ” “เราก็ต้องทำตามที่แกต้องการสิ เพื่อความสุขของแองจี้ จริงไหมเกร็ก มิลลี่” เมื่อเจ้าสาวเงียบ ชาร์ลส์ก็ใช้มุกเดิมคือขอเสียงสนับสนุนจากลูกน้อง “จริงครับ” “จริงค่ะ” ผู้ช่วยหนุ่มและพี่เลี้ยงสาวตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด “ฉันว่าเราไปตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าค่ะ” เวณิกาลุกขึ้นจากเก้าอี้ “แดดดี๊กับหม่ามี้อย่าทะเลาะกันนะคะ หนูจะใจเย็นๆ ค่ะ น้องมาถึงเมื่อไหร่ก็ได้ไม่มีปัญหาเลย” คนตัวเล็กบอกอย่างรู้ความ “จ้ะ เราจะไม่ทะเลาะกัน” หญิงสาวรับปาก “แต่ยังไงพี่… เอ้อ หม่ามี้ก็ต้องคุยกับแดดดี๊จ้ะ ขอตัวสักครู่นะคะคุณเกร็ก คุณมิลลี่ ส่วนคุณชาร์ลส์ ตามฉันมาข้างใน” เวณิกาเดินนำไปก่อน ชาร์ลส์ยังยิ้มได้ ร่างสูงหนาลุกขึ้นก่อนจะตามเข้าไปในห้องนั่งเล่นของเพนท์เฮาส์ “ซีเรียสอีกแล้วนะเวย์” ซีอีโอหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ “คุณไม่ควรบอกแองจี้แบบนั้น เด็กความจำดีนะคะ แกจะรอ และถ้าน้องไม่มาสักที แองจี้ก็จะผิดหวัง เกิดเป็นแผลลึกๆ ในใจ คุณอาจมองว่ามันเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเด็ก การให้ความหวังแล้วไม่ทำให้เป็นไปตามนั้น มันมีผลกระทบต่อจิตใจมากนะ” จริงๆ เรื่องที่ให้เธอเป็นหม่ามี้ของแองจี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนสิ้นสุดสัญญา หนูน้อยจะเสียใจมากแค่ไหนที่ครอบครัวหรรษาจะจบลงไปด้วย แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น เพราะชาร์ลส์จ้องแบล็กเมล์อยู่ เธอผิด ผิดมากจริงๆ และไม่อยากทำร้ายจิตใจแองจี้ไปมากกว่านี้ แต่ก็ยกเลิกสัญญาไม่ได้ เพราะชื่อเสียงของเธอก็สำคัญ โอ๊ย! คิดแล้วก็อึดอัดที่ทำอะไรอย่างใจต้องการไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คงเป็นแค่ ไม่ให้ความหวังหนูน้อยมากขึ้นไปกว่านี้ “วิธีแก้ไม่เห็นยากเลย” ชาร์ลส์ยักไหล่ “ไม่ยากเหรอ? ไหนบอกมาซิว่าจะแก้ยังไง” เวณิกายกมือเท้าสะเอวอย่างเอาเรื่อง “เราก็ทำลูกกันจริงๆ เลยสิ!” ดวงตาสีควันบุหรี่เป็นประกายกรุ้มกริ่ม ขณะเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ “นี่ คุณพูดเล่นใช่ไหม” หญิงสาวในชุดแต่งงานเกาะอกสีขาวก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ แม้ห้องโถงจะกว้างแค่ไหน แต่สุดท้ายก็หมดทางหนีเมื่อแผ่นหลังชนกับกำแพง และชาร์ลส์ก็ใช้มือสองข้างเท้ากำแพงล็อกตัวเธอเอาไว้ในวงแขนจนไม่อาจหลบหนีได้นอกจากจะหายตัววับไป “พูดเล่น แต่ทำจริง” ชายหนุ่มยิ้มร้าย ใบหน้าหล่อเหลาตระการตาอยู่ห่างจากใบหน้าหวานเพียงไม่กี่นิ้ว ดวงตาสองคู่สบประสานกันในระยะใกล้ทำให้ต่างฝ่ายต่างเห็นแววตากันชัดเจน ดวงตาสีเทาเปล่งแสงพราวระยับอย่างผู้เหนือกว่า ดวงตาสีดำมีรอยหวาดหวั่นเล็กน้อย ทว่าใบหน้าหวานเชิดขึ้นพร้อมต่อสู้ “ตาคุณสวยมากรู้ไหม มันเป็นประกายระยิบระยับเหมือนตาของกวางสาวในเทพนิยายเลย โดยเฉพาะไฝเล็กๆ สามเม็ดที่เรียงกันอยู่ใต้ดวงตาข้างซ้าย มันทำให้ตาคุณดูเซ็กซี่และดึงดูดมาก” ชาร์ลส์จะชมหลายครั้งแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้บอก ดวงตาคมที่ล้อมรอบด้วยวงแหวนแพขนตาของชาร์ลส์เป็นประกายลึกล้ำ ยิ่งมองยิ่งเหมือนถูกสะกดให้หลงใหล เวณิกาจึงหลุบสายตาลงมองแผ่นอกหนาใต้เสื้อสูทเนื้อดีแทน “ฉันไม่เคยคิดว่ามันดูเซ็กซี่ตรงไหน” แพขนตางอนยาวกะพริบขึ้นลงถี่ๆ ความใกล้ชิดทำให้หญิงสาวสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่ ลมหายใจอุ่นจัดที่เป่ากระทบใบหน้าบวกกับกลิ่นโคโลญและอาฟเตอร์เชฟปลุกความเร่าร้อนขึ้นในตัวเธอได้อย่างประหลาด เวลานี้เวณิกาจึงรู้สึกประหม่าและวูบหวิวสุดๆ “งั้นก็รู้ไว้ว่ามันเซ็กซี่ที่สุด” เขาละมือข้างหนึ่งมาแตะปลายคางมนแผ่วเบาและดันขึ้น “หลบตาทำไมฮึ ผมมีอะไรน่ากลัว ออกจะหล่อขนาดนี้” ชาร์ลส์บอกอย่างหลงตัวเอง หญิงสาวสะบัดหน้าไปอีกทาง “ฉันไม่อยากมองคนที่ฉันเกลียด” ดวงตาของเขาเองก็สวยมากเหมือนกัน มันเป็นประกายระยิบระยับชวนมอง และมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ชวนให้หลอมละลาย แต่เธอจะไม่ชมให้อีกฝ่ายได้ใจหรอกนะ “คำก็เกลียด สองคำก็เกลียด ยังกับผมเป็นคนเลว” “ใช่ คุณเลวมาก คุณฉวยโอกาสล่วงเกินตอนฉันไม่มีสติ!” เมื่ออารมณ์โกรธอันร้อนกรุ่นเข้ามาแทนที่ความประหม่า เวณิกาก็หันมาประสานสายตากับเขาอย่างแค้นเคือง “ผมจำเป็นต้องช่วยคุณถอนพิษยาปลุกเซ็กส์ และผมก็พร้อมรับผิดชอบการกระทำของตัวเองด้วย” ใบหน้าคมคร้ามจริงจัง แม้ข้างในจะขำสุดๆ อยากบอกเหลือเกินว่าตัวตนของเขาไม่ได้สัมผัสส่วนที่เธอหวงแหนเลยแม้แต่น้อย ส่วนอย่างอื่นที่ทำในคืนนั้น เขาคิดว่ามันแค่ระดับอนุบาล ไม่ได้ถึงขั้นทำให้เธอเสียความบริสุทธิ์หรอกน่า “ฉันไม่ต้องการความรับผิดชอบหรอกนะคะ ฉันจะไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดเพียงคืนเดียวกลายเป็นบ่วงผูกมัดไปชั่วชีวิต พอจบสัญญา เรื่องทุกอย่างจะจบลงเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น” เวณิกาย้ำอีกครั้ง “คุณจะไม่เรียกร้องให้ผมรับผิดชอบหน่อยเหรอ ผมพร้อมมากเลยนะเนี่ย” ผู้หญิงอะไรอยากหนีเขาตลอด แปลกคนจริง “ไม่ละค่ะ กว่าจะครบสองอาทิตย์ ฉันคงได้เงินจากคุณหลายสิบล้าน แลกกับที่เสียไปก็คุ้มแล้ว” ถ้ามัวแต่ยึดติดกับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ คงเครียดจนหัวระเบิด เวณิกาเลยตัดสินใจว่าเสียแล้วก็เสียไป แค่เยื่อบางๆ มันไม่ได้เป็นตัวกำหนดชีวิตคนเราว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลงได้สักหน่อย แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เธอเสียไปก็ไม่ได้เสียฟรี เพราะเธอจดบันทึกไว้ตลอดเมื่อชาร์ลส์ทำเกินข้อตกลงสัญญา กว่าจะกลับเมืองไทย เธออาจเป็นเศรษฐินีร้อยล้านก็ได้ ใครจะไปรู้ ที่สำคัญที่สุด เธอจะได้เป็นอิสระจากหนี้บุญคุณของใครบางคนซึ่งผูกมัดมานานหลายปีสักที! เสียไปแต่ได้กลับมาแบบคุ้มค่า นี่ถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสอย่างชาญฉลาดแล้ว เวณิกาคิดเข้าข้างตัวเอง “งั้นผมจะช่วยให้คุณได้เงินอีกหลายๆ ล้านดีไหม” ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้อีก เวณิกาเบี่ยงหน้าหลบ แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย “อย่านะ” “อย่าอะไรครับที่รัก อย่าช้า อย่ามัวพูดมาก หรืออย่าหยุด” ริมฝีปากหยักลึกสีระเรื่อโดยธรรมชาติยิ้มพราย “อย่าทำสิ ถามได้!” หญิงสาวเอ่ยเสียงสะบัด “ผมไม่ได้จูบคุณมาตั้งหลายวัน คิดถึงปากนุ่มๆ หวานๆ เต็มที จะอดใจไหวไหมเนี่ย” ชาร์ลส์เอ่ยเสียงแผ่วต่ำชวนสะท้าน “เราเข้ามาตกลงเรื่องที่จะมีน้องให้แองจี้นะคะ ไม่ใช่มาทำอะไรแบบนี้” หญิงสาวเตือนสติ “ใช่ แต่ทำอย่างอื่นด้วยก็ไม่เห็นแปลก เราแต่งงานกันแล้วนี่นา” เขายังไม่ยอมเลื่อนใบหน้าออกไป หัวใจของเวณิกาสั่นระรัว แถมแก้มยังร้อนวูบวาบไปหมดด้วยความประหม่าระคนหวาดหวั่น หญิงสาวพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น เพราะเดี๋ยวเขาจะยิ่งได้ใจ “แต่งหลอกๆ ต่างหาก” “แต่ผมไม่อยากแต่งแค่หลอกๆ นี่!” ชาร์ลส์เอ่ยอย่างเอาแต่ใจ มือหนาจับปลายคางของหญิงสาวให้หันกลับมาหาและทาบริมฝีปากหยักอุ่นร้อนลงบนเรียวปากนุ่มนิ่มโดยไม่พูดพร่ำไปมากกว่านี้ ลิ้นสากละเลียดรสหวานละมุนบนริมฝีปากสีชมพูอย่างใจเย็น เพราะยังไงอีกฝ่ายก็ไม่มีทางวิ่งหนีไปได้ มือหนาข้างหนึ่งลูบไล้เอวคอดผ่านชุดแต่งงานและลากเลื่อนลงไปยังสะโพกผาย พาให้เจ้าสาวหวั่นไหวมากขึ้นหลายเท่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD