2

1292 Words
ชัชออกไปทำงานแล้ว มยุรินจึงได้มีเวลาพักผ่อน ช่วงเวลาที่เขาออกไปทำงานคือช่วงเวลานอนของเธอพอดิบพอดี ที่นอนอุ่น ๆ ทำให้มยุรินหลับลงอย่างง่ายดาย เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะโดนปลุกตอนใกล้รุ่ง วันนี้ชัชกลับมาตอนตีสี่ เธอเหลือบไปมองนาฬิกาที่ผนังห้อง เมื่อรู้สึกตัวว่าโดนลามเลียตรงร่องสาว “อื้อ...” เธอกัดปาก หลุดเสียงครางบางเบาออกมา รับรู้ได้ถึงการรุกรานที่แสนเสียวซ่าน ลมหายใจฟืดฟาดของเขาบ่งบอกได้ถึงความปรารถนาที่คุกรุ่นรุนแรง “ตื่นแล้วเหรอ ดูดให้หน่อยสิ” เขาทิ้งตัวลงไปนอนเคียงข้าง หลังจากจัดการปลดกางเกงออกไปจากสะโพกเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขยับไปหาเขาอย่างรู้งาน จัดการทั้งรูดทั้งดูดให้เขาจนได้ยินเสียงแหบพร่าดังออกมาจากริมฝีปากหยักหนา “พอแล้ว ขึ้นมาขย่มเร็ว ๆ ฉันไม่ไหวแล้ว” มยุรินปีนขึ้นไปบนตัวของเขาก่อนที่จะคร่อมทับแล้วประคองแก่นกายของเขาสอดเสียบเข้าไปในร่องสวาทจนมิดเม้น “อ๊า...” เธอได้ยินเสียงครางของเขาดังขึ้นเมื่อกดสะโพกผายลงไปหาจนหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน อุ้งมือใหญ่จับสะโพกผายของเด็กสาวเอาไว้ก่อนที่ชัชจะกระแทกขึ้นไปหา เพียงไม่นานร่างน้อยก็สั่นคลอน เธอกดมือกับหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบทรักแสนเร่าร้อนของชัช เธอเป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจ หากยังอยู่ด้วยกันเธอก็อยากที่จะเก็บความรู้สึกดี ๆ ที่ได้ดูแลกันและกันให้ดีที่สุดเอาไว้แบบนี้ หากวันใดเขาเอ่ยปากขับไสไล่ส่งเธอออกไปจากชีวิต วันนั้นเธอก็คงไม่มีโอกาสได้แนบชิดและดูแลเขาแบบนี้อีก ร่างกายของเธอเร่าร้อนและเสร็จสมอย่างรุนแรง เธอหวีดร้องสุดเสียง ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อเขาจับเธอพลิกลงด้านล่างก่อนที่จะกดแทรกคร่อมทับและจัดหนักอีกครั้ง มยุรินตื่นเช้าในขณะที่ชัชนอนหลับต่อ เธอตื่นมาทำงานบ้านและเตรียมอาหารให้เขา หวังว่าวันนี้เขาจะกินอาหารของเธอบ้าง “คุณชัชจะไปแล้วเหรอคะ” เธอทำงานบ้านหัวหมุน พบว่าเขาลุกจากเตียงมาอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมออกไปข้างนอก “ใช่” “กินอะไรสักหน่อยไหมคะ หนูเตรียมเอาไว้ให้” “ฉันจะออกไปกินข้างนอก เธอกินไปคนเดียวแล้วกัน” เขาตอบเสียงราบเรียบ เวลาอยู่บนเตียงเขาเร่าร้อน แต่พอเวลาปกติเขาช่างเย็นชาอย่างเหลือร้าย มยุรินไม่กล้าเซ้าซี้เพราะรู้ถึงความร้ายกาจของเขา ขืนเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจอาจจะโดนจัดการแหลกคามือเลยก็เป็นได้ เธอเคยเห็นเขาโมโหสั่งคนกระทืบลูกน้องที่ทำผิดกฎมาแล้ว เธอไม่ควรเสี่ยงจะดีที่สุด มยุรินแอบมองชัชเงียบ ๆ เก็บความรู้สึกแอบรักเอาไว้ในใจอย่างมิดชิด เขาดูดีเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า อาจจะขี้หงุดหงิด โมโหไปบ้าง ปากร้ายไปบ้างแต่รวม ๆ แล้วเธอก็รักเขา รักคนร้าย ๆ แบบเขานี่แหละ ชัชออกไปจากห้องแล้ว เธอก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเหงา ๆ ชีวิตของเธอเงียบเหงา หรือจะพูดให้ถูกก็คือชีวิตของเธอมีแค่ชัช ทำงานบ้านและรอเขากลับมา การได้เห็นหน้าเขาทำให้เธอมีความสุข แต่พอเขาออกไปทำงาน เธอก็ไม่รู้จะทำอะไรนอกจากนั่งอ่านหนังสือเพราะงานบ้านเสร็จหมดแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า เสียงกริ่งหน้าห้องพัก ทำให้เธอไปเปิดประตู เธอคิดว่าชัชลืมของแต่ปรากฏว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอสวยมากและทันทีที่ได้ประจันหน้ากันมยุรินก็จำได้ว่าหล่อนคือใคร “คงไม่ต้องแนะนำนะว่าฉันเป็นใคร” ปานวาดมองมยุรินตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาวแล้วไขว้ห้าง “คุณชัชไม่อยู่ค่ะ” มยุรินสูดลมหายใจเขาปอดแรง ๆ ลึก ๆ ก่อนจะพูดออกไป “ฉันรู้แล้วว่าเขาไม่อยู่เลยมาหาเธอไง แขกมา ไม่คิดจะเอาน้ำมาต้อนรับแขกหน่อยเหรอ” ปานวาดเอ่ยเสียงเข้มข่มขวัญ “ค่ะ” มยุรินรีบไปนำน้ำเย็น ๆ มาเสิร์ฟให้คู่หมั้นคนสวยของชัชในทันที เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลยเมื่อต้องสบประสานสายตากับตัวจริงของเขา “เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับเขา” ปานวาดเอ่ยถามตรงประเด็น “ค่ะ” “รู้แล้วก็ยังจะเป็นเมียเก็บในบ้านของเขาแบบนี้ไปตลอดอย่างนั้นเหรอ” ปานวาดรุกต้อน เพราะไม่เคยเห็นชัชเก็บผู้หญิงคนไหนเอาไว้ใกล้ตัวแถมยังอยู่ในเพนเฮ้าส์ฯ สุดหรูส่วนตัวแบบนี้มาก่อน ใจของหล่อนจึงรุมร้อนราวไฟแผดเผา จึงต้องมาให้เห็นกันจะ ๆ คา ๆ ตาว่านังเมียเก็บนั่นมันเด็ดแค่ไหน คู่หมั้นของเธอกินแล้วเขี่ยทิ้ง แค่ขึ้นเตียงไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงก็พร้อมตีจาก แต่เด็กสาวตรงหน้ามันช่างจืดชืด แต่งตัวเชยแสนเชย ธรรมดาเหลือเกิน ทั้งเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นยิ่งกว่าเด็กกะโปโลเสียอีก แต่เขากลับเอาไว้ใกล้ตัว “อายุเท่าไหร่” ปานวาดขมวดคิ้วเข้าหากัน หรือว่าชัชเปลี่ยนรสนิยมไปชอบเด็ก เธอประเมินจากสายตาแล้วคนตรงหน้าไม่น่าอายุเกินสิบห้าเสียด้วยซ้ำ “สิบแปดค่ะ” ประโยคของคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาทำให้ปานวาดต้องขมวดคิ้วเข้าหากันคล้ายไม่เชื่อถือ “สิบแปดอย่างนั้นเหรอ” คนพูดทวนประโยคของเด็กสาว กวาดสายตามองผมสั้นเพียงแค่ติ่งหูแล้วถอนใจพรืด การกระทำของปานวาดทำให้มยุรินรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก “ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่ง ออกไปจากชีวิตของพี่ชัชซะ ฉันกำลังจะแต่งงานกับเขา เธอคงเข้าใจใช่ไหมว่าฉันไม่อยากให้เขามีเมียเก็บเอาไว้ในบ้านหลังจากเราแต่งงานกัน” ปานวาดเข้าเรื่อง มองเด็กสาวตรงหน้าอย่างประเมิน “หนูไปไหนไม่ได้หรอกค่ะ” “ทำไม” เสียงเข้มเอ่ยถาม คิ้วขมวดเข้าหากันเหมือนไม่สบอารมณ์ “หนูเป็นหนี้คุณชัชค่ะ ถ้าหนีไปต้องโดนเอาตายแน่ ๆ เลย” “หนี้อะไร” “พี่สาวของหนูขโมยเงินกับเครื่องเพชรคุณชัชแล้วหนีไปค่ะ คุณชัชโกรธมากแทบฆ่าให้ตาย หนูเลยต้องชดใช้หนี้ก้อนนั้นแทน” “ก็ฉันจะใช้หนี้ให้เธอไง ให้เธอออกไปจากชีวิตของพี่ชัช” “เป็นสิบล้านเลยนะคะ คุณจะใช้หนี้ให้หนูจริง ๆ น่ะเหรอคะ” “สิบล้านอย่างนั้นเหรอ” ปานวาดคิดว่าเป็นเงินแค่เล็กน้อย แต่ที่ไหนได้ “ใช่ค่ะ ถึงหนูเอาเงินคุณมาจริง ๆ ถ้าคุณจะจ่ายให้น่ะค่ะ หนูก็ต้องเป็นหนี้บุญคุณคุณอีก ชดใช้ยังไงก็ไม่หมด” “สรุปว่าเธอจะหน้าด้านเป็นเมียเก็บของเขาไปแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานอย่างนั้น” “หนูไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ ค่ะ ถ้าหนูหนีไปเสี่ยต้องฆ่าหนูแน่ ๆ เลย” “ฉันมีข้อเสนอที่จะทำให้เธอหนีไปโดยที่เขาตามหาไม่เจอ เธอสนใจไหมล่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD