ตอนที่ 1
สาวใหญ่ข้างห้อง
‘น้ำผึ้ง’ สาวใหญ่สุดสวยวัยใกล้หลักสี่ พี่เขาเป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ที่โรงแรมในซอยข้าง ๆ นี่เอง ส่วนผมชื่อ ‘ทอย’ อายุยี่สิบห้าย่างยี่สิบหกปีนี้แหละ ผมกับพี่ผึ้ง เราเช่าห้องอยู่ข้างกันนี่เอง
วันแรกที่พี่ผึ้งย้ายมาอยู่ห้องข้าง ๆ ผมได้มีโอกาสรู้จักพี่เขาเพราะเขาขอให้ผมช่วยขนของเข้าห้องให้ ผมถึงได้รู้ว่าพี่เขาเป็นสาวโสด แต่ก็ไม่ถึงกับสดหรอกนะ ที่พี่เขาต้องย้ายมาอยู่ห้องเช่าใหม่ ก็เพราะเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมาสามปี
ผมเองก็ทำอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์อยู่แถว ๆ นี้ ทุกวันพี่ผึ้งจะมาจ้างผมไปส่งที่ทำงานทุกวัน นี่ก็เข้าเดือนที่หกแล้วที่ผมรู้จักกับพี่เขามา การที่ผมได้ไปรับไปส่งพี่เขาเกือบทุกวันแบบนี้ มันทำให้ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในใจผมบ้างแล้วเหมือนกัน
“ทอยจ๊ะ วันนี้ไปรับพี่เร็วหน่อยนะ” พี่ผึ้งบอกผมในขณะที่เธอกำลังขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของผมไปทำงาน
“ทำไมอ่ะ วันนี้พี่เลิกงานเร็วเหรอ” ผมถามเธอกลับด้วยความสงสัย
“อื้ม...ใช่ วันนี้วันเกิดหัวหน้าแม่บ้านน่ะ เขาจะพาไปกินเลี้ยงหมูกระทะ ก็เลยจะเลิกงานกันเร็วหน่อย”
“อ๋อ...โอเคครับพี่ งั้นให้ผมไปรับกี่โมงดีล่ะ”
“สักประมาณ สี่โมงครึ่งก็ได้”
ผมพยักหน้ารับคำ ก่อนจะสตาร์ทมอเตอร์ไซค์พาพี่ผึ้งไปส่งที่หน้าโรงแรมที่พี่เขาทำงานอยู่ พอถึงตอนเย็นผมก็รีบไปรับพี่ผึ้งตามเวลาที่เรานัดกันไว้
พี่ผึ้งกลับมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ที่ห้อง ผมเองก็เลยถือโอกาสเข้าห้องมานอนหลับสักงีบ ช่วงนี้คนยังไม่ค่อยเยอะ ผมว่าจะออกไปขับวินอีกทีก็ตอนห้าโมงครึ่งเกือบ ๆ หกโมงเย็น เพราะช่วงนั้นคนกำลังเลิกงาน ได้รอบวิ่งหลายเที่ยว มันคือนาทีทองของคนขับวินอย่างผมเลยล่ะ
ก๊อก ๆ ๆ ๆ แต่ในขณะที่ผมกำลังจะเคลิ้มหลับ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น และเมื่อผมลุกไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นพี่ผึ้ง เธออยู่ในชุดเสื้อกล้ามรัดรูปสีดำกับกางเกงยีนส์ขาสั้นฟิตเปรี๊ยะ บอกตามตรงนะว่าตั้งแต่รู้จักพี่ผึ้งมา วันนี้พี่เขาแต่งตัวกระชากใจผมชิบเป๋งเลย
“เอ้า...ทอยหลับอยู่เหรอ ขอโทษทีนะ ทอยช่วยไปส่งพี่ที่หน้าปากซอยหน่อยได้มั้ยอ่ะ พวกเพื่อน ๆ พี่เขานัดกันจะนั่งแท็กซี่ไปร้านหมูกระทะกันน่ะ”
“อ๋อ...ได้ครับพี่ พอดีผมก็จะออกไปรับลูกค้าช่วงเลิกงานเหมือนกัน”
ผมรีบตบปากรับคำพี่ผึ้งไปทั้งที่มันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะออกไปรับผู้โดยสารจริง ๆ เราสองคนเดินลงมาที่ชั้นล่างตึกห้องเช่า ผมยื่นหมวกกันน็อคให้พี่ผึ้งใส่เพราะทางผ่านไปหน้าปากซอยมีตำรวจคอยดักจับอยู่
“พี่ไม่ใส่ได้มั้ยอ่ะ พี่พึ่งหนีบผมมา ใส่แล้วเดี๋ยวผมมันงอ”
“แต่ทางผ่านไปหน้าปากซอยมันมีตำรวจดักจับคนไม่ใส่หมวกอยู่นะพี่”
“ว้า...ทำไงดีอ่ะ งั้นมีทางอื่นมั้ยที่ไม่มีตำรวจอ่ะ”
“มันก็มีอยู่นะ มีทางลัดหลังซอยเนี่ย แต่ทางมันไม่ค่อยดีนะ”
ผมบอกพี่ผึ้งไปตามตรง แต่เธอก็โอเค ขอแค่ไม่ต้องใส่หมวกผมจะได้ไม่เสียทรงเธอเลยยอมให้ผมพาไปทางที่ลำบากกว่า ผมก็ตามใจพี่เขา
“จับผมแน่น ๆ นะพี่ ทางมันขรุขระ”
“โอเค ๆ ค่อย ๆ ขับไป ไม่ต้องรีบ”
ผมพาพี่ผึ้งขับไปตามทางลัดคดเคี้ยวที่แสนจะขรุขระ มีบางจังหวะที่ทางมันเป็นหลุมเป็นบ่อ พี่ผึ้งโอบเอวผมไว้แน่นเพราะกลัวตก มันเลยทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรที่มันทั้งใหญ่ทั้งนุ่มมากระทบเข้าที่แผ่นหลังกว้างของผม
“อุ๊ย...ขอโทษทีจ้ะทอย พี่ไม่ได้ตั้งใจ”
เหมือนพี่ผึ้งจะรู้ว่าหน้าอกพี่เขากำลังถูแผ่นหลังผมอยู่ แต่ในใจผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรเลย กลับชอบด้วยซ้ำ กว่าจะผ่านถนนเส้นนี้ไปได้ นมพี่ผึ้งก็ถูไถกับแผ่นหลังผมไปอีกหลายหนเลยล่ะ
ไม่นานนักผมก็พาพี่เขามาส่งถึงหน้าปากซอยจนได้ พี่ผึ้งเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่ทำงานแม่บ้านด้วยกัน ก่อนจะหันมาโบกมือบ๊ายบายให้ผม ผมเองก็โบกมือให้พี่เขากลับ ก่อนจะแยกไปขับวินต่อ