EPISODE 04-01
บังเอิญเจอ
วันศุกร์เวียนมาถึง เจเดนก็ยังใช้ชีวิตเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ไม่ใช่วันที่พิเศษ ไม่ใช่วันที่หวือหวาอะไร แม้ในใจยังคงจำได้ว่าไออุ่นบอกว่าตอนเย็นจะมาหา แต่เขาไม่ได้รอคอยมากมายขนาดนั้น เพราะความเป็นไปได้ก็แค่ครึ่ง ๆ ไออุ่นอาจจะมาหรือไม่มาก็ได้
ฉะนั้นช่วงสายของวันนี้เจเดนจึงนัดหนุ่มหน้าหวานคนหนึ่งมามีอะไรด้วยไปก่อนแล้ว เป็นคนที่เคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง จำได้ว่าหน้าตาดี หุ่นดี ตรงกับสเป็กของเขา จึงชวนมาซ้ำเพื่อเก็บโควตาให้ครบสามครั้งไปทีละคน
เขาไม่อยากทำความรู้จักคนใหม่ ช่วงนี้รู้สึกอยากมีความสัมพันธ์กับคนที่มันเคย ๆ
กิจกรรมเร่าร้อนในช่วงสายวันนี้เร้าใจเจเดนมาก เขาโอบอุ้มเด็กดีคนนี้แล้วก็มีอะไรกันไปทั่วห้อง ขยับเอวถี่ยิบราวกับพายุคลั่ง และแน่นอนว่าเมื่อไรที่เจอคนถูกใจเขามักจะถ่ายวิดีโอเก็บไว้ลงในแอ็กลับเสมอ โดยจะขออนุญาตอีกฝ่ายก่อนทุกครั้ง ซึ่งก็ยังไม่มีใครปฏิเสธการกระทำแบบนี้
อาจเพราะทุกคนที่มาหาเขาที่นี่คือคนที่รู้จักเขาผ่านแอ็กลับ เคยทักมาพูดคุยกันอยู่แล้วสักพักหนึ่งจนพอจะรู้จักนิสัยใจคอ ถึงจะยอมบอกสถานที่และให้มาหาที่บ้านได้ เขาจะนัดสถานที่เป็นบ้านตนเองเสมอ ไม่ไปที่อื่น
แต่ก็จะมีคนอื่นที่ไม่เคยเข้ามาพูดคุยกันผ่านแอ็กลับแล้วมาที่นี่ด้วยเหมือนกัน อาจจะเป็นการพูดถึงปากต่อปากของคนที่เคยมา เมื่อบอกต่อว่าเจ้าของบ้านนี้เด็ดอย่างไร คนที่ได้ฟังจึงอยากมาลองของ
ซึ่งการมาของคนเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจเดนว่าผ่านเกณฑ์ในใจเขาหรือไม่ ถ้าผ่านก็รับเข้ามาทำเรื่องเร้าใจในบ้าน ถ้าไม่ผ่านก็ขอให้กลับไป
หลังจากจัดการกิจกรรมส่วนตัวกับคนที่นัดมาเรียบร้อยแล้ว ต่างคนจึงต่างแยกย้ายกันทันที ไม่ต้องเสียเวลาร่ำลานาน ไม่ต้องอ้อยอิ่งหรือนึกเสียดาย เพราะต่างฝ่ายก็ต่างมาเพื่อมีเซ็กซ์กันเท่านั้น
โดยมากทุกคนที่มาจะมีเป้าหมายเหมือนกันหมดคือต้องการมีเซ็กซ์กับ KingsXXL พอสาสมใจแล้วก็กลับ
นั่นทำให้เวลาช่วงบ่ายของเจเดนว่างมาก เขาเดินผิวปากกลับมาที่บ้านใหญ่ด้วยท่าทางอารมณ์ดี สีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
พอได้ปลดปล่อยด้วยความรู้สึกเสียวขั้นสุด พร้อมทั้งกิจกรรมมันเร่าร้อนรุนแรง ก็เปรียบเสมือนว่าได้ออกกำลังกายยามเช้าไปโดยปริยาย พาให้อารมณ์ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา
“คุณเจคะ รับมื้อเที่ยงเลยไหม?”
“อ่า... รับครับป้าเพียง ขอเยอะ ๆ เลยนะ ผมหิวมาก”
ร่างสูงเดินมาทิ้งตัวนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ครู่ต่อมาก็มีสาวใช้คนอื่นยกอาหารมาให้ ตามมาด้วยป้าเพียงที่เดินออกมารินน้ำเปล่าให้แก้วหนึ่ง น้ำส้มคั้นสดอีกแก้วหนึ่ง
“ทานเยอะ ๆ นะคะ”
“ขอบคุณครับป้าเพียง”
ป้าเพียงจะเป็นแม่บ้านคนเดียวที่ได้ดูแลเจเดนอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นคนเดียวที่เจเดนสนิทใจมากที่สุดในบ้าน มากกว่าพี่ชายเสียอีก นอกจากป้าเพียงแล้ว สาวใช้หรือคนอื่นในบ้านก็เป็นคนของเจียร์หมด คอยเป็นหูเป็นตาแล้วส่งข่าวให้พี่ชายเขาเสมอ นั่นทำให้เจเดนไม่เคยไว้ใจคนอื่นเลย
“วันนี้คุณเจจะไปเยี่ยมคุณผู้ชายไหมคะ ป้าจะทำอาหารไปให้คุณผู้ชายด้วย”
“ทำเลยครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้”
อาหารที่ว่าก็ไม่ใช่อะไรหรูหรา เป็นเพียงน้ำแกงหรืออาหารอ่อนที่ปรุงรสแบบลดความจัดจ้านลง เพราะพ่อของเขาเคี้ยวอาหารได้เล็กน้อย
อย่างที่บอกว่าร่างกายท่อนบนไม่มีแรงช่วยเหลือตนเองเท่าไรนัก หากทำอาหารให้ก็ทำได้แค่นี้ แค่ให้ได้กินอะไรที่มีรสชาติจากที่บ้านแก้เบื่ออาหารของโรงพยาบาลเท่านั้น
และแล้วเจเดนก็มาหาพ่อของเขาพร้อมปิ่นโตติดมือมาหนึ่งเถา ป้าเพียงทำน้ำแกงเทโพมาให้ พร้อมทั้งกล้วยบวชชีแบบกล้วยนิ่ม พ่อของเขาสามารถเคี้ยวได้อย่างแน่นอน
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ร่างสูงก็เดินเข้ามาในห้องขณะที่พ่อนอนดูทีวีอยู่ พยาบาลคงมาเปิดทิ้งไว้ให้ เมื่อเห็นว่าลูกชายคนเล็กมาหาก็ดีใจจนสีหน้าเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม
เจเดนเข้าไปปรับเตียงให้อยู่ในลักษณะนั่งเอนหลัง จากนั้นเขาก็เปิดปิ่นโตออก ทำให้กลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั่วห้อง
“อื้อออ”
เสียงจากลำคอผู้เป็นพ่อดังเบา ๆ ราวกับจะถามว่านั่นอะไร
“ป้าเพียงทำอาหารมาฝากพ่อ เดี๋ยวผมป้อน แต่ทำมาไม่เยอะนะ พ่อกินเยอะไม่ดีหรอกเดี๋ยวอาหารไม่ย่อยอีก”
พ่อลูกใช้เวลาร่วมกันอยู่พักใหญ่ อาหารที่ใส่ปิ่นโตมาหมดเกลี้ยง ที่จริงเจเดนจะป้อนไม่หมด แต่เหมือนพ่ออยากกินไม่หยุดเลย พอเจเดนจะไม่ป้อนต่อก็ทำเสียงอื้ออึงในลำคอเหมือนบ่น คนเป็นลูกชายก็ใจอ่อน ยอมป้อนให้ต่อจนหมด จากนั้นพ่อของเขาก็อารมณ์ดีอย่างมาก
พอพยาบาลเข้ามาดูแลต่อก็โดนดุกันเล็กน้อยที่ทานอาหารนอกเวลา อาจทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก และเพราะคนป่วยไม่ได้ขยับร่างกายไปไหนระบบเผาผลาญจึงทำงานไม่ปกติ
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเขาก็นั่งคุยกับพ่ออีกพักหนึ่งก่อนจะปล่อยให้พ่อพักผ่อน เจเดนจึงออกจากโรงพยาบาลแล้วมาห้างสรรพสินค้าเพื่อเดินเล่น
ห้างฯ นี้อยู่ระหว่างทางกลับบ้านพอดี เขาเข้าช็อปนั้น ออกช็อปนี้ ซื้อของที่อยากได้ติดไม้ติดมือมาหลายอย่าง ติดนิสัยใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ไปเสียแล้ว
เจเดนพยายามใช้เงินให้เกินจากที่ได้รับจากเจียร์ ทุกเดือนเจียร์จะให้เงินน้องชายเดือนละสองแสนบาท ราวกับเป็นเงินเดือนว่าจ้างให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัท
ซึ่งนอกจากเงินส่วนนี้ยังมีบัตรเครดิตที่วงเงินสูงอยู่อีกใบ เขาสามารถรูดซื้อของได้เลย และยอดเงินจะไปเก็บเอากับพี่ชายอีกที เป็นการยียวนกวนประสาทกันทางอ้อม
ชีวิตในแต่ละวันของเจเดนก็จะเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่อยู่บ้านเล่นเกมทั้งวัน ก็นัดเยที่บ้านเล็กทั้งวัน หรือไม่ก็ออกไปเยี่ยมพ่อ ไปใช้เงิน แล้วตอนเย็นค่อยกลับเข้าบ้านอย่างเช่นวันนี้
ตึก ตึก ตึก
ฝ่าเท้าย่ำเต็มน้ำหนักเดินตามแม่บ้านที่เข้ามาช่วยถือของ เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน เขาเปลี่ยนรองเท้าเสร็จสรรพก็ได้ยินเสียงคนคุยกันแว่วมาจากด้านใน
“ใครมา?”
เจเดนถามแม่บ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วยความสงสัย
“คุณเจียร์เอางานกลับมาทำที่บ้านค่ะ มีพนักงานมาด้วย น่าจะเลขาฯ นะคะ”
“เอาของขึ้นไปไว้บนห้องนอนผมได้เลย เดี๋ยวผมตามไป”
เจเดนไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเรื่องงานของเจียร์อยู่แล้ว ตั้งใจว่าจะเดินไปดื่มน้ำในครัวแล้วจะขึ้นไปพักในห้องนอนสักหน่อย แต่เมื่อเขาเดินเข้ามากลับเจอใครอีกคนที่เขาไม่คิดว่าจะเจอที่นี่
ไออุ่น...
ดวงตาสองคู่สบเข้าหากันแล้วจ้องมองกันอยู่อย่างนั้น เจเดนตกใจมากจนปิดสีหน้าไม่มิด นี่เป็นครั้งแรกหลังเรียนจบที่พวกเขาได้อยู่ใกล้กันเพียงไม่กี่เมตร
“เอ๊ะ เอ่อ... ใช่เจเดนไหม ที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน”
เสียงหวานเอ่ยทักออกมาก่อน ไออุ่นและเจเดนเรียนคณะเดียวกัน แน่นอนว่าต้องคุ้นหน้ากันดีอยู่แล้ว ยิ่งเจเดนที่นับว่าเป็นหนุ่มฮ็อตของคณะเลยก็ว่าได้ ไม่มีใครไม่รู้จักเขา เพราะถูกตั้งฉายาว่าเสือจำศีล
เขาได้ฉายานี้มาเพราะมีคนมารุมจีบเจเดนเยอะมากแต่เขาไม่คบกับใครเลย เอาแต่บอกว่ามีคนในใจแล้วจนถึงตอนเรียนจบ
เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันในคณะแถมคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาถึงเหตุผลที่แท้จริงที่เจเดนไม่ยอมรับรักใคร ไออุ่นเองก็เคยร่วมวงสนทนาเรื่องพวกนี้กับเพื่อนบ้างเหมือนกัน
“ไออุ่นมาทำอะไรที่นี่?”
“เจเดนจำเราได้ด้วย? ฮ่า ๆ ดีใจจัง เรามาทำงาน นี่คุณเจียร์เจ้านายเรา เราเป็นเลขาฯ คุณเจียร์”
พอรู้ว่าไออุ่นทำงานกับพี่ชายตัวแสบก็ยิ่งทำให้เจเดนร้อนใจเข้าไปใหญ่ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ไม่สนใจทั้งเรื่องส่วนตัวของเจียร์และเรื่องในบริษัทจนเหมือนเขาจะพลาดอะไรไป แล้วเรื่องนี้คุณกรเลขาฯ ของพ่อก็ไม่ได้บอกเขาด้วยว่าเจียร์เปลี่ยนเลขาฯ มาเป็นคนนี้
“คุณรู้จักกับน้องชายผมด้วยเหรอ?”
เจียร์ยกมือขึ้นนวดขมับพลางถามออกไป ใบหน้าคมคายหันมองเลขาฯ และน้องชายสลับกัน
“ฮะ นะ... นี่คุณเจียร์เป็นพี่ชายของเจเดนเหรอครับ ผมไม่รู้เลย เอ่อ คือผมกับเจเดนเคยเรียนคณะเดียวกัน ชั้นปีเดียวกันน่ะครับ”
“อ้อ แบบนี้นี่เอง แต่ไม่ต้องสนใจอย่างอื่นหรอก ทำงานที่ผมสั่งให้เสร็จก่อน ทำเสร็จจะได้รีบกลับ ผมจะได้พักผ่อน ทำงานเสร็จแล้วต้องทำให้ถูกด้วยนะคุณไออุ่น อย่าให้ผมต้องสั่งแก้ทีหลัง มันเสียเวลา”
“ครับคุณเจียร์ ขอโทษทีครับ นาน ๆ ทีผมจะเจอเพื่อนในคณะเลยดีใจไปหน่อย”
ไออุ่นหันมายิ้มแห้งให้เจเดนเพราะถูกเจ้านายดุต่อหน้า ทว่าเจเดนส่งยิ้มกลับแล้วก็ดึงหน้าตึงเหมือนเดิม เขารีบเดินหนีขึ้นมาอยู่บนห้องพักเพราะกลัวจะหลุดปากทะเลาะกับพี่ชายเข้าอีก
‘ไอ้เหี้ยเจียร์ กล้าดียังไงดุไออุ่นแบบนั้นวะ จะให้ทำงานแบบไม่พักเลยหรือไง แค่หันมาคุยกับกูสองประโยคงานมึงไม่ได้เสร็จช้าขึ้นหรอกนะ แม่ง!’
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
มือใหญ่ยกขึ้นลูบอกด้านซ้ายของตัวเองที่หัวใจเต้นแรงจนหน้าอกสะเทือน เขาคงจะโกรธมากที่เจียร์พูดหักหน้าไออุ่นอย่างนั้น แต่แล้วก็รู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าด้วย หรือนี่เขาจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้าไปแล้วกันแน่
เจเดนรู้สึกว้าวุ่นจนไม่มีเวลามาวิเคราะห์อาการของตัวเอง เขาอยากใส่ใจเรื่องอื่นมากกว่า อยากรู้ว่าทำไมไออุ่นไปทำงานเป็นเลขาฯ ของเจียร์ได้ แล้วมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร
ในเมื่อสองปีก่อนเขาสร้างแผนการเพื่อให้ไออุ่นได้มาทำงานที่บริษัท ฝากฝังอย่างดีว่าให้รับเข้ามาเลย ทำงานแผนกไหนก็ได้ ขอแค่ให้ไออุ่นมีงานทำก่อน ไม่อยากให้อีกฝ่ายเครียดแล้วตระเวนหางานไปทั่ว เกรดเฉลี่ยต่ำเตี้ยเรี่ยดินของไออุ่นมันเป็นส่วนหลักที่ทำให้หางานยากด้วย เจเดนจึงอยากช่วยเหลือ
เขาอุตส่าห์จ้างเพื่อนให้ไปหลอกล่อไออุ่นมาสมัครงานที่บริษัทให้ได้ โดยเขานำเรื่องนี้ไปร้องขอกับพ่อว่าให้รับเพื่อนคนหนึ่งเข้าทำงาน พ่อก็บอกให้มาฝากเรื่องกับคุณกรให้ใช้เส้นสายรับไออุ่นเข้าทำงานในบริษัทได้เลย ตำแหน่งเล็ก ๆ ตรงไหนว่างให้ทำตำแหน่งนั้น
หลังจากนั้นมาคุณกรก็รายงานว่ารับไออุ่นเข้าทำงานที่แผนกการตลาดเรียบร้อยแล้ว ได้ยินแบบนั้นเจเดนก็สบายใจ แล้วเขาก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีกเลย ถือเป็นเยื่อใยสุดท้ายจากคนที่ถูกไออุ่นปฏิเสธอย่างเขาที่พอจะช่วยเหลือได้
แต่แล้ววันนี้ทำไมจู่ ๆ ถึงนั่งข้างพี่ชายเขาในตำแหน่งเลขาฯ ?
เจเดนตัดสินใจโทรไปหาคุณกรทันที สอบถามแล้วได้ความว่า หลังจากที่เจียร์เข้าไปทำงานก็แต่งตั้งคนของตัวเองขึ้นมา ซึ่งตำแหน่งเลขาฯ ก็หาคนที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานมาแข่งขันกัน ช่วยกันทำงานประมาณสามเดือน แล้วก็ประเมินรับหนึ่งคน
คนแรกที่รับเข้ามายังไม่ใช่ไออุ่นแต่เป็นคนอื่น ทำงานได้ไม่ถึงปีก็ลาออก คนที่ได้คะแนนประเมินรองลงมาแล้วยังทำงานอยู่ที่บริษัทก็คือไออุ่น เขาจึงดึงไออุ่นมาเป็นเลขาฯ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ใช่คนของพ่อ เป็นเด็กใหม่ที่เจียร์จะควบคุมได้ แถมยังขยันทำงานอีกต่างหาก ถึงหัวจะช้าไปหน่อยก็เถอะ
ทั้งหมดนี้คุณกรรู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้รายงานเจเดน คิดว่าไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร แล้วตัวเจเดนก็ไม่เคยถามถึงไออุ่นเลย เมื่อไม่ถาม คุณกรจึงไม่ได้บอก
เจเดนถอนหายใจยาวพรืดก่อนจะวางสายไป เขาก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ควรใส่ใจเรื่องงานของไออุ่นหรือไม่ แต่ต่อให้อยากสนใจก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ไออุ่นทำงานเป็นเลขาฯ ให้เจียร์มาปีกว่าแล้ว ถ้าทนไม่ไหวคงลาออกไปเอง คนนอกที่มีสิทธิ์แค่แอบรักอย่างเขามันจะไปทำอะไรได้ ทำได้แค่ห่วงอยู่ห่าง ๆ อย่างนี้แหละ
ก๊อก ก๊อก
“คุณเจ ป้าเอาของว่างขึ้นมาให้ค่ะ”
“เข้ามาได้ครับ”
“รับอะไรเพิ่มเติมอีกก็บอกป้านะคะ”
“ไม่รับครับ อ้อ แล้วเลขาฯ ไอ้เจียร์กลับไปยังครับ?”
“กำลังเตรียมตัวกลับนะคะ ตอนป้าจะเอาของว่างไปให้เขาก็ไม่รับ บอกมีนัดเลยต้องรีบไป คุณเจียร์ก็เพิ่งเดินขึ้นมาพักบนห้องเมื่อครู่เหมือนกันค่ะ คงจะทำงานเหนื่อยกันแย่เลย”
ป้าเพียงพูดตั้งยาว แต่เจเดนกลับฟังได้แค่ ‘มีนัดเลยต้องรีบไป’ เพิ่งนึกขึ้นได้อีกครั้งว่าวันนี้เป็นวันศุกร์ที่ไออุ่นบอกเขาไว้ว่าจะมาหา
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว ป้าเพียงทำของว่างให้ผมอีกชุดหนึ่งผมจะเอาไปกินที่บ้านเล็ก”
“ได้ค่ะ”
ร่างสูงลุกพรวดขึ้นยืนเต็มความสูง จู่ ๆ ก็ร้อนรนขึ้นมา เขาเร่งเร้าให้ป้าเพียงจัดขนมอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของว่างที่ทำวันนี้ เพราะกลัวไออุ่นจะจำขนมได้ แม่บ้านคนสนิทจึงลงมาอบคุกกี้ให้ใหม่ตามคำสั่ง พร้อมกับชงโกโก้ร้อนใส่กาไว้ให้ด้วย เป็นอาหารว่างสำหรับสองคน
“เสร็จหรือยังครับ ผมรีบ”
“รอขนมอีกห้านาทีนะคะคุณเจ”
คำนวณเวลาที่ออกจากซอยบ้านใหญ่แล้วต้องอ้อมไปถนนอีกเส้นเพื่อเข้าซอยบ้านเล็ก ก็น่าจะใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที ถ้าไออุ่นมาหาเขาจริงป่านนี้อาจจะถึงแล้วก็ได้
เจเดนผุดลุกผุดนั่งอยู่ในห้องครัว ทั้งที่ปกตินอกจากเข้ามารินน้ำดื่มก็ไม่เคยมาขลุกอยู่ในนี้นานเกินสามนาทีเลยด้วยซ้ำ พฤติกรรมแบบนี้ทำให้ป้าเพียงเองก็แปลกใจเช่นกัน
หลังจากป้าเพียงเตรียมของว่างที่เขาสั่งเสร็จสิ้น เขาก็รีบร้อนไปที่บ้านเล็กทันที เมื่อเข้ามาถึงก็วางของกินที่หอบมาไว้บนโต๊ะชั่วคราวในห้องโถง โต๊ะที่ขนมาเพื่อนั่งกินข้าวกับไออุ่นครั้งก่อนยังคงอยู่
สองเท้าเดินตรงไปในห้องนอนเพื่อดูจออินเตอร์โฟน พบว่าไออุ่นยืนกอดอกรอเขาอยู่หน้าบ้านแล้วจริง ๆ
“ไออุ่น มานานหรือยัง?”
“สักพักครับ ไม่นานมาก”
“เข้ามาได้”
เขากดแผงควบคุมเพื่อปลดล็อกประตูรั้ว จากนั้นก็รีบคว้าหน้ากากมาใส่ ยืนรอเพียงอึดใจเดียวประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา ร่างเล็กของไออุ่นปรากฏขึ้นด้วยสภาพเหมือนคนหมดแรง
“ฮือออ วันนี้ผมเหนื่อยมากเลยครับเจ งานเยอะมาก ผมหมดแรงเลย”
บ่นเสร็จก็ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาเหมือนคนหมดแรงจริง ๆ ทั้งแววตาและสีหน้าอ่อนล้าจนปิดไม่มิด เจเดนเลยเดินไปยอบตัวนั่งยอง ๆ อยู่หน้าโซฟา ก่อนยื่นหน้าไปหอมแก้มนุ่มถึงสองครั้งติด
“เจ้านายใจร้ายจัง ให้คนตัวเล็กแค่นี้ทำงานหนักแน่เลย”
“งานที่บริษัทเยอะมากครับ ยิ่งรับงานของต่างประเทศมาทำก็ยิ่งต้องละเอียดมากขึ้นอีก ผมนอนน้อยมาสามวันแล้วเนี่ย แต่เจ้านายผมเขาก็เคร่งเรื่องงานแบบนี้แหละ คงอยากให้งานออกมาดี”
“แล้วกินอะไรมาหรือยัง ผมเตรียมขนมให้ไออุ่นด้วยนะ คุกกี้อบใหม่อร่อยมาก แล้วก็มีโกโก้ร้อนด้วย”
“ผมกินข้าวบ้านเจ้านายมาบ้างแล้ว แต่พอเจพูดผมก็อยากกินขึ้นมาเลย”
“ออกไปนั่งกินข้างนอกเถอะ”
“เฮ้อ พอได้เอนหลังนอนแล้วไม่มีแรงลุกเลยครับเจ อุ้มผมหน่อยนะ”
ตาคมหลุบมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกแปลกใจ เขาไม่เคยเห็นไออุ่นในบทบาทคนขี้อ้อนแบบนี้เลยสักครั้ง
‘น่ารักฉิบหายเลย’