EPISODE 01-01
ไม่ได้เรื่อง
ชายหนุ่มสองคนสบตากันนิ่ง คนหนึ่งยืนห่อไหล่อยู่หน้าห้องน้ำ บนเอวบางมีผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดพันอยู่รอบ ดวงตาหวานช้อนมองเจ้าของห้องที่ยืนกอดอกมองเขาอยู่อีกที
เจ้าของผิวเข้มและร่างกายกำยำยืนอยู่กับที่ นิ่งราวกับฝ่าเท้าหนักขึ้นหลายกิโลฯ เพียงเพราะก้าวเข้าห้องมาแล้วเห็นอีกฝ่ายในสภาพเปลือยท่อนบน
‘ผิวขาวฉิบหาย’
เสียงในใจตะโกนยืนยันสิ่งที่สายตาเห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความละโมบโลภมากของเขากำลังเรียกร้องต้องการจะเห็นผิวกายของคนตรงหน้าให้มันมากกว่านี้อีก
“ถอดผ้าเช็ดตัวออก แล้วนั่งลงบนเตียงสิ”
เจ้าของห้องบอกออกไป พลางขยับหน้ากากสีดำที่ใส่อยู่ให้กรอบมันพอดีกับดวงตา จะได้ไม่บดบังการมองเห็นเรือนร่างของอีกฝ่าย เมื่อผ้าเช็ดตัวเจ้าปัญหานั่นถูกถอดออกจนพ้นพันธนาการ
“คือ... ที่นอนมันดูสกปรกน่ะ ผมนั่งไม่ลง”
เสียงเล็กเอ่ยตอบมา เพราะเขาดูจากสภาพบนเตียงแล้วมันยับยู่ยี่ราวกับผ่านศึกหนักมา ตรงขอบมุมที่รั้งผ้าปูที่นอนไว้หลุดลุ่ย กลางเตียงก็มีรอยยับและคราบน้ำที่เปียกเป็นหย่อม ๆ ไม่อยากจะคิดว่าก่อนหน้านี้ต้องขยับตัวแค่ไหน สภาพบนเตียงถึงเป็นแบบนี้
อีกอย่างที่ทำให้เขาไม่อยากก้าวกรายขึ้นไปบนเตียง เพราะเห็นคราบน้ำบางอย่างเปรอะเปื้อนอยู่ ถึงจะซึมไปกับเนื้อผ้าจนไม่รู้ว่าน้ำอะไร แต่จะให้ขึ้นไปทับที่คนอื่นทั้งแบบนั้นเขาก็รู้สึกไม่ดี และไม่กล้าพูดออกไปด้วย ได้แต่มองหน้าเจ้าของห้องอย่างเว้าวอนเพื่อขอความเห็นใจ
“อ้อ เจ้ายศเจ้าอย่างจริง ๆ เลยนะ งั้นมาช่วยเปลี่ยนผ้าปูผืนใหม่หน่อยสิ”
“เอางั้นก็ได้ครับ ถ้าไม่สบายใจผมจ่ายเงินค่าจ้างเปลี่ยนผ้าปูได้นะ”
“ผมดูอยากได้เงินคุณนักหรือไง?”
“แล้วคุณอยากได้อะไรครับ?”
“อยากได้คุณไง เด็กดีคนใหม่ของผม”
เขาพูดจบก็เดินไปเปิดตู้เพื่อนำเครื่องนอนชุดใหม่ออกมา โดยมีร่างเล็กคอยช่วยเปลี่ยนจนเสร็จสรรพ ทุกวินาทีผ่านไปด้วยความเงียบจนกระทั่งทั้งคู่ขึ้นมานั่งเผชิญหน้ากันบนเตียง
“คุณเจ้าของห้อง ผมเรียกคุณว่าอะไรดี เอ่อ ผมอยากคุยจุดประสงค์ที่ผมมาให้ชัดเจนกว่านี้น่ะ”
“แล้วคุณชื่ออะไร?”
“ผมชื่อไออุ่น”
‘ไออุ่น’ คือชื่อของคนตัวเล็กที่ไม่ใช่นามแฝงใด ๆ เจ้าของห้องเบิกตากว้างมองด้วยความประหลาดใจไม่น้อย เดิมทีเขารู้อยู่แล้วว่าอดีตคนที่เขาชอบน่ะทั้งโง่และไม่มีไหวพริบ แต่ไม่คิดว่าจะไม่รอบคอบถึงขนาดเปิดเผยชื่อจริงออกมาโดยไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้
ทว่าคนอย่างไออุ่นน่ะ ต่อให้รู้ชื่อจริงของเจ้าของห้องก็คงไม่รู้อยู่ดีว่าเขาคือใคร จ้างให้ก็คิดไม่ออก เดาไม่ถูกแน่นอนว่าจะได้มาเจอเพื่อนร่วมคณะในสถานการณ์แบบนี้
“งั้นเรียกผมว่าเจ”
“อย่างนั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ คุณเจ”
‘เจ’ นี่ก็ไม่ใช่นามแฝงอะไร แต่มาจากชื่อเล่นของเขาที่ชื่อ ‘เจเดน’
อย่างนั้นเท่ากับว่าพวกเขาสองคนไม่มีใครปกปิดตัวตนกันตั้งแต่แรก และไม่ต้องระวังตัวอะไรมากมายด้วย เพราะมั่นใจเกินล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไออุ่นไม่มีทางรู้ตัวตนของเขาอย่างแน่นอน
ที่มั่นใจเพราะรู้ว่าทุกคนที่แวะเวียนมาที่ห้องนี้จะผ่านมาและผ่านไป กฎที่ว่าทุกคนจะเข้ามามีสัมพันธ์กันได้เพียงสามครั้งยังเหมือนเดิม ไม่เว้นแม้แต่ชายร่างเล็กคนนี้ที่เขาเคยชอบมาตลอดสี่ปีในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย
“ว่าเรื่องของคุณมาเถอะ ไออุ่น มาที่นี่ต้องการให้ผมสอนอะไรไม่ทราบ?”
“ผมไม่ปิดบังนะ ผมถูกคนที่ผมชอบตำหนิเรื่องเซ็กซ์มา ว่าไม่ได้เรื่อง ผมมันจืดชืดจนดึงดูดเขาไม่ได้เลย เขาบอกผมว่าถ้าผมจัดจ้านเรื่องเซ็กซ์ เขาอาจจะใจอ่อนยอมคบกับผมก็ได้ อย่างน้อยก็มีเรื่องที่ผมทำให้เขามีความสุขได้บ้าง”
เจเดนฟังแล้วถึงกับขมวดคิ้วแน่น เขายกมือกระชับหน้ากากแล้วพ่นลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายโตขึ้นแล้วแต่วิธีจัดการความรักของตนเองไม่ได้ดีขึ้นเลยสักนิด ยังจมอยู่กับความรักในรูปแบบของคนโง่อยู่เหมือนเดิม
ชัดเจนว่าไออุ่นแอบรักใครสักคน แต่อีกคนปัดความรู้สึกของเขาทิ้งแล้วยกเรื่องเซ็กซ์มาอ้างชัด ๆ ว่าถ้าเก่งเรื่องนี้ขึ้นจะยอมคบหาด้วย
คนเราถ้ารักใครสักคนจะใช้หัวใจนำทาง ไม่ได้ใช้ไอ้หัวข้างล่างนั่นคิดแทนเสียหน่อย แบบนี้มันโดนหลอกซึ่งหน้ายังไม่รู้ตัวอีก ทำไมไม่เข็ดไม่หลาบกับเรื่องพวกนี้บ้าง
ในอดีตไออุ่นก็เคยถูกผู้ชายหลอกให้ใช้หนี้ให้นับแสนบาท เพราะโดนหลอกให้เซ็นสัญญากู้เงินไปเล่นการพนัน คนโง่ก็ยอมเซ็นเพราะความรัก แต่แฟนเก่าตัวแสบก็เอาเงินไปใช้ในบ่อน พอเล่นเสียจนหมดตัวก็หนี ทิ้งแฟนโง่อย่างไออุ่นใช้หนี้ให้จนหมด
มาวันนี้ก็พาตัวเองไปอยู่ในความสัมพันธ์อะไรก็ไม่รู้อีก แอบรักเขาแต่เขาไม่รัก ยกเรื่องเซ็กซ์มาอ้าง ถามว่าถ้าไออุ่นเก่งเรื่องเซ็กซ์ขึ้นแล้วใครกันที่ได้ประโยชน์ ก็ไอ้เวรนั่นไม่ใช่หรือไง
‘โง่ซ้ำโง่ซ้อน โง่แบบที่ไม่รู้จะเลิกโง่เมื่อไร กูล่ะอยากจับเย็xให้แม่งหายโง่เลย’
“แล้วมาให้ผมสอน รู้ใช่ไหมว่ามาแล้วต้องโดนเอาแน่ พอโดนผมทำ แล้วก็ไปทำกับคนนั้นต่อน่ะเหรอ ไม่ถือตัวหน่อยหรือไง หมายถึงคนนั้นของคุณน่ะ เขาไม่ถือเหรอที่คุณผ่านมือคนอื่นมาแล้วน่ะ?”
“เขาไม่ถือหรอก ผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ ความสัมพันธ์ของผมกับเขาค่อนข้างอธิบายยาก ผมจะมีอะไรกับใครมันคือการตัดสินใจของผม”
“ใจกล้าดีนี่ ผมนึกว่าคุณจะเป็นคนเรียบร้อยซะอีก ไม่คิดว่าจะกล้ามีอะไรกับคนแปลกหน้าด้วย ดูคนภายนอกไม่ได้จริง ๆ ”
“ผมก็ไม่ได้เก่งเรื่องพวกนี้หรอกนะ ประสบการณ์น้อยน่ะ แต่ถ้ามันจะทำให้ผมเก่งขึ้นแล้วมัดใจเขาได้ผมก็ไม่หวงตัวหรอก เขาก็ไม่ว่าอะไรผมด้วย บอกผมว่าฝึกให้เก่งแล้วค่อยไปปรนนิบัติเขา เขาว่ามางี้อะครับ”
“เด็กโง่!”
คนถูกตำหนิไม่ทันได้ประวิงเวลาสำหรับคิดว่าเหตุใดถึงถูกเรียกว่าเด็กโง่ จู่ ๆ มือใหญ่ก็คว้าคอของเขาเข้าหาตัวแล้วกดลงที่กลางกาย สะโพกสอบขยับขึ้นลงถูไถบางสิ่งผ่านผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาด ใบหน้าหวานที่ถูกจับกดลงตรงนั้นตกใจมาก
“เจ อ๊ะ เดี๋ยวก่อน”
“จะทำอะไรก็รีบทำ เสียเวลา”
เจเดนดึงผ้าเช็ดตัวของตนเองออกเมื่อแกนกายใหญ่เริ่มเปลี่ยนรูปร่างแล้ว ทันทีที่มันเผยโฉมออกมานอกร่มผ้า มันก็ดีดผึงตีเข้าที่แก้มนิ่มทีหนึ่งจนเจ้าตัวตกใจกว่าเดิม
“เม็ดอันนี้คืออะไร?”
“ฝังมุกไง ไม่รู้จักเหรอ?”
“อ้อ ผมเคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นเลย”
ไออุ่นผงกหัวขึ้นมองด้วยความสนอกสนใจ จริงอยู่ที่เขาก็เคยผ่านมือผู้ชายมาบ้าง ในชีวิตมีแฟนมาสองคน คนที่กำลังแอบชอบอีกคนหนึ่ง ก็ยังไม่เคยเจอของใครฝังมุกแบบนี้
แท่งเนื้อขยายใหญ่ขึ้นอีกเมื่อถูกตาหวานจับจ้อง มุกสองเม็ดที่ฝังเอาไว้เพื่อสร้างความมั่นใจให้เจ้าของ เหมือนมันจะยังคงได้ผลดีเสมอแม้กระทั่งตอนนี้ เพราะเจเดนมั่นอกมั่นใจขึ้นจริง ๆ ที่เห็นไออุ่นมองมันไม่ละสายตา
“อย่ามองอย่างเดียว เสียของ ลองจับแล้วอมมันด้วยสิ”
“ผมทำไม่เก่งนะ เจอย่าคาดหวัง”
“มีเวลาสามครั้ง ผมจะสอนคุณให้เก่งเอง อ้อ ผมลืมบอกกฎสำคัญไป ว่าผมจะไม่มีอะไรซ้ำกับคนเดิมเกินสามครั้งนะ คุณก็เหมือนกัน ผมมีโควตาจำกัดให้แค่นั้น รีบเรียนรู้เข้าล่ะ”
“งั้นเหรอครับ อ่า งั้นผมจะตั้งใจเรียนรู้นะ”
“ปากเล็ก ๆ นั่นเลิกพูดมากสักที รีบอมมันได้แล้ว”
ตาหวานเหลือบมองแววตาคมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาภายใต้หน้ากากสีดำ มือสั่นเทาค่อย ๆ ยกขึ้นสัมผัสกับความเป็นชายขนาดใหญ่ตรงหน้า เขาทั้งตื่นเต้นและตื่นกลัว
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาทำเรื่องที่คิดน้อยแบบนี้ แค่ได้รู้ว่าเจ้าของบ้านหลังเล็กในซอยเปลี่ยวนี้เก่งเรื่องเซ็กซ์มาก เขานัดทำเรื่องอย่างว่ากับใครก็ได้
ซึ่งจี้จุดปัญหาที่ไออุ่นกำลังแบกรับพอดี เขาจึงลองมาที่นี่ดู มาเพื่อให้รู้ว่ามันจริงสมคำเล่าลือหรือไม่ ถ้าเก่งจริง เขาก็คงจะได้ประสบการณ์ดี ๆ กลับไปทำให้คนที่เขาชอบอย่างแน่นอน
“อ๊ะ มุกของคุณแข็งจัง มันขูดปากผมอะ ผมเจ็บ”
“อมไปสามทีก็บ่นแล้ว ผมยังไม่ทันได้รู้สึกอะไรเลย อมต่อไปสิ มัวแต่บ่นจะไปเก่งอะไร”
ไออุ่นใช้ปลายนิ้วสัมผัสกับเม็ดกลมที่ปูดโปนขึ้นบนแท่งเนื้อเบา ๆ ด้วยความสงสัย จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าน่ากลัวก็น่ากลัว แต่มันมีแค่สองเม็ดเอง ไม่ได้มีมากมายอะไร ถ้าฝังมันเยอะกว่านี้คงน่ากลัวน่าดู
เขาอ้าปากครอบแกนกายใหญ่ตรงหน้าอีกครั้ง รูดริมฝีปากจากส่วนปลายเข้าไปจนถึงครึ่งลำ เท่านั้นก็ลึกสุดคอเขาแล้ว ไม่สามารถจัดการมันให้ถึงโคนได้เลย เขาต้องใช้มือข้างถนัดจับในส่วนโคนที่เขากลืนกินไม่ถึงแล้วขยับขึ้นลงเพื่อให้จังหวะมันสัมพันธ์กับริมฝีปาก
อึก อึก อึก
ทุกการเคลื่อนไหวขึ้นลง จะถูกมุกที่ฝังอยู่ขูดกับริมฝีปากด้านในเสมอ มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยเจอ เหมือนการใช้ปากมันมีลูกเล่นบางอย่างเพิ่มขึ้นมา ไม่ได้มีเพียงพื้นผิวแท่งเนื้อที่ราบเรียบธรรมดาเหมือนอย่างที่เคยเผชิญ
ดวงตาคมหลุบมองกิจกรรมตรงหน้าก็พาให้รู้สึกประหลาด จริงอยู่ที่เขาผ่านเรื่องแบบนี้มาเป็นร้อยครั้งกับคนแปลกหน้า แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คนรู้จักมาทำเรื่องแบบนี้ให้ เป็นคนที่เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสได้ขึ้นเตียงกันด้วยซ้ำ
‘แบบนี้ก็ดี ได้เอากับคนที่เคยชอบโดยที่ไม่ต้องรู้ว่าเราเป็นใคร เย็xเสร็จก็แยกย้ายเหมือนคนอื่น ๆ’
เจเดนเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมสีดำสนิทของคนที่ผงกหัวขึ้นลงอยู่กลางกายเขา ใช้เรียวนิ้วค่อย ๆ ลากลงมาสัมผัสยังแก้มนุ่ม ไล้ไปตามสันกราม เคลื่อนลงมาจนถึงใบหู และลูบมันเล่นอยู่อย่างนั้นเกือบนาที
“อึก อื้อ ผมขนลุกนะ”
ริมฝีปากเล็กผละออกมาบ่นอีกครั้งโดยมีหยาดน้ำลายไหลยืดเป็นทาง เจเดนจับจ้องที่เรียวปากสวยก่อนจะเอ่ยความต้องการออกไป
“ไออุ่น จูบผมหน่อยสิ”
“ผมไม่ชอบจูบกับคนแปลกหน้า”
“ทำไม?”
“การจูบสำหรับผมมันให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช่คนที่รู้สึกดีด้วยมันคงเป็นจูบที่แย่สำหรับผมน่ะ”
เสียงใหญ่หัวเราะหึ ๆ ในลำคอเพราะเขาคิดตรงกันข้ามกับไออุ่นโดยสิ้นเชิง สำหรับเขาการจูบกับคนแปลกหน้าที่ไม่ได้มีความรู้สึกใดมันก็รู้สึกดีเหมือนกัน พอขึ้นเตียงด้วยกันแล้วจำเป็นต้องเอาความรู้สึกมาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์แบบนี้ด้วยหรือไง ไร้สาระสิ้นดี
“กฎอีกอย่างของผม คืออย่าเอาความรู้สึกมาผูกติดกับกิจกรรมบนเตียง ใช้แค่ตัว อย่าใช้ใจ”
“ผมไม่เคย ผมทำไม่ได้หรอก”
“ขอผมลองแค่สิบนาที แล้วผมจะถามใหม่ว่าคำตอบมันยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า การจูบกับคนแปลกหน้าอย่างผมทำให้คุณรู้สึกแย่จริงไหม”
ร่างบอบบางของไออุ่นถูกผลักให้นอนราบลงบนเตียง ก่อนที่เจ้าของห้องคลานขึ้นไปคร่อมอยู่ด้านบนแล้วโน้มหน้าลงมาประกบจูบโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว
“อื้อออ”
เสียงประท้วงในลำคอของไออุ่นไม่ได้รับความสนใจเลย เมื่อเรียวปากหยักทาบทับกลืนเสียงของเขาลงคอ แต่เมื่อตั้งสติได้หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีจึงรู้ว่าเจ้าของหน้ากากมอบจูบและสัมผัสที่อ่อนโยนให้เขาแค่ไหน ความรู้สึกตื่นกลัวจึงกลายเป็นความตื่นเต้นทันที
เขาบดจูบเป็นจังหวะเนิบนาบ เชื่องช้า ใช้ลิ้นอุ่นเลียกลีบปากเล็กจนเปียกชุ่ม ก่อนจะดูดดุนริมฝีปากล่างเล่นเบา ๆ จนเกิดเสียงหลายที
การกระทำที่อ่อนโยนปนหยอกเย้าอย่างนี้ ไออุ่นไม่เคยได้รับมาก่อนแม้กระทั่งจากคนที่เขาเคยเรียกว่าแฟน เป็นสัมผัสที่พาให้เขาเคลิบเคลิ้มตามได้ง่าย และยอมเผยอริมฝีปากรับความลึกซึ้งมากขึ้นในที่สุด
เจเดนเอียงองศาใบหน้าเล็กน้อยเพื่อให้จูบถนัด เขากลัวว่าหน้ากากที่ใส่จะกดทับผิวหน้าอีกฝ่ายจนรู้สึกเจ็บ เขาจึงค่อนข้างระมัดระวังในทุกครั้งที่ต้องจูบไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
เรียวลิ้นนุ่มของคนคู่หนึ่งค่อย ๆ สัมผัสกันอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แต่พอจับจุดได้ว่าไออุ่นชอบความอ่อนโยน เขาจึงมอบสัมผัสที่อีกฝ่ายต้องการให้ทันที
ทั้งเคล้าจูบ ทั้งดูดปลายลิ้น ทั้งใช้ลิ้นกวาดเลียเข้าไปในโพรงปากอีกฝ่าย สัมผัสตั้งแต่กระพุ้งแก้มลากขึ้นไปจนถึงเพดานปาก กอบโกยความหวานมาได้มากโข
‘ไอ้เหี้ยเอ๊ย น้ำลายโคตรหวาน กูหยุดจูบไม่ได้’
เสียงในใจของเจเดนดังก้องขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ทั้งคู่แลกสัมผัสหวานกันอย่างนุ่มนวล มือใหญ่ก็เคลื่อนลงไปกระตุกปมผ้าเช็ดตัวของไออุ่นจนหลุดออก จากนั้นจึงทาบฝ่ามือลงบนกลางกายอีกฝ่ายที่สะดุ้งทันทีเมื่อส่วนอ่อนไหวถูกจับต้อง