Vekin & Prime 4 - 2

1045 Words
Past Vekin หลายวันที่ผ่านมา ผมทำงาน เคลียร์งานจนเสร็จสิ้น และยื่นหนังสือลาออก แม้ว่าผู้จัดการจะเสียดายแค่ไหน แต่เขาก็ร่วมยินดีกับผมที่จะได้ทุกอย่างกลับคืนมา แม้ว่าผมจะไม่ต้องการก็ตามแต่ วันนี้จึงเป็นวันแรกที่ผมมาทำงานที่บริษัท ซึ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเอกสารอะไรก็ตามแต่ คุณเวนัยได้ให้อาทนายมาจัดการให้ผมแล้ว ตอนนี้ผมเข้ามาในบริษัทก็เดินตรงไปที่ประชาสัมพันธ์เพื่อสอบถาม "สวัสดีค่ะ ติดต่อเรื่องอะไรคะ" พนักงานก็ต้อนรับผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถือว่าเขาก็จัดการเรื่องคนได้ดีอยู่ พอถูกถามแบบนั้น ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง จึงยื่นบัตรให้กับเธอไป "ท่านรองประธานคนใหม่!!" ซึ่งพอเธอรับบัตรผมไปดู ก็รีบเงยหน้าขึ้นมามองผมเหมือนคนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น "ครับ" ผมพยักหน้ายืนยัน "คุณคิน" แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ ก็มีเสียงเรียกผมดังขึ้นเสียก่อน "อาทนาย" ผมหันไปมองก็เห็นว่าเป็นอาทนายนั่นเอง ที่เร่งรีบเดินมาหาผม "ผมลงมารับขึ้นไปเจอบอร์ดบริหารครับ" อาทนายกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่านดูมีความสุขมากตั้งแต่รู้ว่าผมจะมาช่วยงานที่บริษัท และดำเนินการทุกอย่างแทนผม "ขอบคุณนะครับอา" ผมเอ่ยขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้งใจ แม้จะไม่ใช่ญาติ แต่ท่านก็รักและหวังดีกับผมและน้องสาวเสมอ "ขอบัตรคืนด้วยครับ" ผมหันไปขอบัตรคืนจากพนักงานคนนั้น "เอ่อ นี่ค่ะๆ ขอโทษนะคะ" เธอจึงรู้สึกตัวและรีบยื่นบัตรคืนมาให้กับผม "ไปกันเถอะครับ" อาทนายรีบเชิญผมไปที่ลิฟต์ และเราก็ขึ้นมาบนชั้นผู้บริหาร ซึ่งวันนี้มีการประชุม เพื่อเปิดตัวเขาอย่างเป็นทางการ "รู้สึกยังไงบ้างครับ" ระหว่างนี้อาทนายก็ชวนผมพูดคุยเพื่อผ่อนคลาย "ก็แปลกดีครับ นี่เป็นอีกครั้งที่ผมแต่งตัวเป็นทางการ" ผมเค้นหัวเราะออกมา ไม่ตอบความรู้สึกที่ได้มาเหยียบที่นี่ แต่พูดเรื่องการแต่งตัวในตอนนี้แทน "หากคุณคินมีอะไรสงสัย ปรึกษาผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ" อาทนายคงเข้าใจผม และอาสาที่จะช่วยเต็มที่ มาถึงชั้นผู้บริหาร อาทนายก็พาผมเดินไปที่ห้องประชุม แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนดักรออยู่หน้าห้อง ผมจำได้ว่าเธอคือเลขาของคุณเวนัย "มีอะไร" อาทนายถามด้วยความสงสัย.เพราะเหมือนว่าเธอจะมารอพวกเรา "ท่านประธานให้คุณคินไปพบที่ห้องทำงานก่อนค่ะ" เลขาจึงตอบขึ้นและหันมามองผม ผมหันไปมองหน้ากับอาทนายด้วยความสงสัยทันที ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่ ถึงได้เรียกผมไปพบส่วนตัวก่อนการประชุมแบบนี้ "นำทางเลยครับ" ผมกล่าวกับเลขาให้นำทางไป และผมก็เดินตาม จนมาถึงหน้าห้องที่ติดป้ายว่าท่านประธาน "ท่านประธานคะ คุณเวคิณมาแล้วค่ะ".เลขาก็เดินไปกดเครื่องมือสื่อสารที่ส่งเข้าไปในห้องทำงาน "ให้เขาเข้ามา" เสียงอนุญาตดังขึ้น "เชิญค่ะคุณเวคิน" เลขาของเขาจึงหันมาเชิญผมให้เข้าไป ซึ่งพอเดินเข้ามาก็พบกับคุณเวนัยที่นั่งอยู่โต๊ะทำงาน ส่วนตรงโซฟาก็มีภรรยาของเขานั่งอยู่ "นี่มันอะไรกันคะคุณ ลูกชายคุณมาอยู่นี่ได้ยังไง" ซึ่งพอเธอหันมาเห็นผมก็ทำหน้าตกใจ รีบหันไปถามสามีทันที "อ้าว ยังไม่ได้บอกภรรยาสุดที่รักก่อนเหรอครับ" ผมเห็นอาการแล้วก็รู้ได้ในทันทีว่าที่เขาให้ผมมาที่นี่ก่อน เพื่อบอกกล่าวให้กับภรรยาของเขาได้รับรู้ "ต่อไปเวคิณจะมาเป็นรองประธานของบริษัท" คุณเวนัยกล่าวขึ้นพร้อมกับหันมามองผมนิ่ง "อะไรนะคะ" ส่วนคุณมล ภรรยาของเขาก็ผุดลุกอย่างตกใจในสิ่งที่ได้ยิน "คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ" เธอรีบห้ามสามีและแย้งเรื่องนี้อย่างไม่ยอม "คุณมล เวคิณคือลูกของผม มาสืบทอดกิจการจากผมก็ถูกต้องแล้ว" คุณเวนัยจึงย้ำสถานะของผมให้เธอได้รู้ และตระหนัก "ฉันไม่ยอมค่ะ" คุณมลทำท่าไม่ยอมอย่างเด็ดขาดที่จะยอมให้ผมมาทำงานที่นี่ "ไปเคลียร์กันก่อนไหมครับ" ทำให้ผมต้องขัดขึ้น วันนี้ผมตั้งใจมาทำงาน ไม่ได้มาดูคนอื่นทะเลาะกัน ฉะนั้นพวกเขาควรจะไปคุยกันก่อนที่ผมจะมาด้วยซ้ำไป "ไม่จำเป็น" คุณเวนัยปฏิเสธ ว่าไม่จำเป็น "คุณเวนัย!!" ทำให้ภรรยาของเขาเดือดดาลเป็นอย่างมาก "นี่มันบริษัทผม จะทำยังไงมันก็เรื่องของผม" แต่คนอย่างคุณเวนัย ยอมให้ภรรยามาทำให้เสียหน้าที่ไหน เขาตะคอกใส่หน้าคุณมลเสียงดังลั่น ทำให้เธอหน้าเสียไปทันที "แกจะกลับมาทำไมฮะ ทั้งแกและน้องสาวของแก" พอเห็นว่าสามีเองก็ไม่ยอมเด็ดขาด คุณมลก็หันมาต่อว่าผมแทน คำพํดของเธอทำให้ผมกำหมัดแน่น "คุณมล" แต่คุณเวนัยกลับห้ามปรามภรรยาไว้เสียก่อน "นี่พูดอะไรของคุณ" เขาเองได้ยินอย่างนี้ก็คงจะโมโหไม่น้อย "ลูกชายคุณกำลังจะมาทำให้เราแตกแยกนะคะนัย" คุณมลเห็นว่าเขาเอาจริง จึงทำเสียงอ่อน อ้อนวอนให้เขาพิจารณาอีกสักครั้ง "เลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว ผมต้องไปประชุม" เขาพูดตัดบทภรรยาของตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ "ตามฉันมา" จากนั้นก็หันมาพูดกับผม พร้อมกับเดินนำออกไป ผมหันไปมองภรรยาของเขาเล็กน้อย หึ บางทีการกลับมาของผมครั้งนี้อาจจะทำให้ใครบางคนอกแตกตายไปเลยก็ได้นะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD