1 เดือนต่อมา – โชว์รูมรถยนต์หรู Supercar, กรุงเทพฯ
ชีวิตของ 'กุนนิดา' กลับมาเป็นปกติ... หรืออย่างน้อยเธอก็พยายามบอกตัวเองแบบนั้น
หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอพยายามลบภาพความทรงจำในคืนที่มาเก๊าออกจากหัว พยายามลืมสัมผัสร้อนผ่าวที่เคยแผดเผาร่างกาย ลืมดวงตาสีสนิมเหล็กที่มองเธอเหมือนจะกลืนกิน... แต่มันยากเหลือเกิน ทุกครั้งที่หลับตา ฝันลามกพวกนั้นก็จะตามมาหลอกหลอนจนเธอตื่นมาพร้อมกับช่วงล่างที่เปียกแฉะ
"จี๊ด! เหม่ออะไรอยู่น่ะ?"
เสียงเรียกของ 'พี่สุชาติ' ผู้จัดการโชว์รูมทำให้จี๊ดสะดุ้งสุดตัว เธอรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วปั้นหน้ายิ้มแย้ม
"ขอโทษค่ะพี่สุชาติ มีอะไรเหรอคะ?"
"เตรียมตัวให้ดีนะ วันนี้จะมีลูกค้า VVIP ระดับมหาเศรษฐีเข้ามาดูตัวท็อป ราคา 50 ล้าน เห็นบอกว่าเป็นนักธุรกิจจากฮ่องกง... พี่อยากให้เราไปดูแล ท่านระบุมาว่าอยากได้เซลล์ที่พูดภาษาอังกฤษเก่งๆ"
"ได้ค่ะ จี๊ดจะดูแลอย่างดีเลย" เธอรับคำอย่างแข็งขัน หวังว่าค่าคอมมิชชั่นก้อนโตจะช่วยลบความฟุ้งซ่านได้
ไม่นานนัก รถลีมูซีนสีดำคันยาวเหยียดก็แล่นเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าโชว์รูม บอดี้การ์ดชุดดำสองคนลงมาเปิดประตูรถ บรรยากาศกดดันแปลกประหลาดแผ่ซ่านเข้ามาในร้านจนพนักงานทุกคนเงียบกริบ
รองเท้าหนังราคาแพงมันวาวก้าวลงมาจากรถ ตามด้วยร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทาเข้มสั่งตัดพอดีตัว รูปร่างกำยำที่ดูทรงพลังเกินกว่านักธุรกิจทั่วไปทำให้สาวๆ ในร้านต่างกลั้นหายใจ
ทันทีที่ชายคนนั้นถอดแว่นกันแดดสีชาออก... จี๊ดที่ยืนถือแฟ้มเอกสารอยู่แทบจะทำของในมือร่วง
ดวงตาสีสนิมเหล็กคู่นั้น...
โลกทั้งใบของจี๊ดหมุนคว้าง ขาแข้งอ่อนแรงจนแทบยืนไม่อยู่... เป็นไปไม่ได้! เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!
โลแกน กวาดสายตาคมกริบไปรอบโชว์รูมเพียงครู่เดียว ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ร่างเล็กในชุดยูนิฟอร์มรัดรูปที่ยืนหน้าซีดเผือดอยู่มุมห้อง มุมปากหยักลึกยกยิ้มขึ้น... เป็นรอยยิ้มที่ทำให้จี๊ดรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง
"สวัสดีครับท่าน... ผมผู้จัดการ..."
โลแกนยกมือห้ามพี่สุชาติ สายตาไม่ละไปจากจี๊ดแม้แต่วินาทีเดียว เขาเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเธอเหมือนราชสีห์ที่เจอเหยื่อที่หมายตา
"ผมสนใจรถรุ่นนี้..." เขาพูดเสียงเรียบ แต่แฝงความนัยที่รู้กันแค่สองคน "แต่ผมขอพนักงานคนนี้... ช่วย 'Test Drive' เป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหม?"
ภายในห้องรับรอง VIP (Glass Room)
จี๊ดถูกส่งตัวเข้ามาในห้องรับรองกระจกใส (แต่เก็บเสียง) เพื่อดูแลลูกค้าตามคำสั่งผู้จัดการ ทันทีที่ประตูห้องปิดลงและล็อกกลอน เสียงทุ้มต่ำที่เธอหวาดกลัวก็ดังขึ้น
"ไง... ยัยตัวดี หนีเก่งนักนะ"
จี๊ดถอยกรูดไปจนชิดผนังกระจกด้านในสุด มือไม้สั่นเทา "คะ... คุณโลแกน... คุณมาทำอะไรที่นี่?"
"มาทวงหนี้" โลแกนสาวเท้าเข้ามาประชิด ร่างสูงใหญ่ของเขาบดบังแสงไฟจนมิด เขาล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรใบละพันสามใบออกมา... ใบเดิมที่เธอทิ้งไว้ให้เขา แล้วปามันใส่หน้าเธอเต็มแรง
"เงินสามพัน... เธอตีราคาลีลาของฉันไว้แค่นี้เหรอฮะ!"
เขาตะคอกเสียงดังจนจี๊ดสะดุ้ง แต่โชคดีที่ห้องนี้เก็บเสียง คนข้างนอกเห็นแค่ว่าลูกค้ากำลังคุยกับพนักงานอย่างเคร่งเครียด
"ฉัน... ฉันขอโทษ... ฉันแค่ไม่อยากติดค้าง..."
"ไม่อยากติดค้าง?" โลแกนหัวเราะในลำคอ แววตาเปลี่ยนเป็นความหิวกระหายรุนแรง เขาพุ่งตัวเข้ามากระชากแขนเธอแล้วเหวี่ยงร่างเล็กลอยหวือไปกระแทกกับผนังกระจกใส
ปึก!
"โอ๊ย!" จี๊ดเจ็บจุก แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือแผ่นหลังของเธอแนบชิดกับกระจกใสที่มองออกไปเห็นเพื่อนร่วมงานและลูกค้าคนอื่นเดินกันขวักไขว่ แม้กระจกจะเป็นแบบ One-way (มองจากข้างนอกไม่เห็นข้างในชัดนัก) แต่มันก็สร้างความหวาดเสียวจนหัวใจเต้นรัว
"รู้ไหมว่าฉันต้องทนทรมานแค่ไหนเพราะเธอ..." โลแกนบดเบียดร่างกายกำยำเข้าหาเธอจนแนบสนิท ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดซอกคอ "น้องชายฉันมันไม่ยอมตื่นให้ใครเลย... นอกจาก 'กลิ่น' ของเธอ"
ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนาหยาบกร้านถลกกระโปรงทรงสอบสีดำของเธอขึ้นมาจนถึงเอวทันที
"ยะ... อย่านะ! นี่มันที่ทำงาน!" จี๊ดพยายามปัดป้อง ดันอกเขาไว้ "คนข้างนอกจะเห็น!"
"เห็นก็ดีสิ... พวกมันจะได้รู้ว่าเซลล์คนสวยกำลังโดนลูกค้า 'เอา' จนขาอ่อน"
แคว่ก!
เสียงฉีกขาดของแพนตี้ลูกไม้บาดหู จี๊ดเบิกตากว้างเมื่อปราการด่านสุดท้ายถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย โลแกนไม่เสียเวลาเล้าโลม เขาปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงลง ควักท่อนเนื้อร้อนที่ขยายตัวเต็มที่ออกมา... ขนาดที่ใหญ่โตและเส้นเลือดปูดโปนทำให้จี๊ดขนลุกซู่
"อึก... คุณมันบ้า! ปล่อยฉันนะ!"
"ปากดี... มาดูซิว่าข้างล่างจะปากดีเหมือนข้างบนไหม"
โลแกนจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นพาดบ่า กดหน้าเธอแนบกับกระจกเย็นเฉียบ แล้วกระแทกแก่นกายสวนเข้าไปในช่องทางรักที่ยังแห้งผากทันที
สวบ!
"กรี๊ดดดด! อื้ออออ!"
จี๊ดหวีดร้องเสียงหลงแต่โดนมือหนาตะปบปิดปากไว้แน่น ความเจ็บปวดจากการสอดใส่โดยไม่มีการเล้าโลมทำให้น้ำตาเธอเล็ด แต่เพียงครู่เดียว... ร่างกายที่จดจำสัมผัสของเขาได้ก็เริ่มตอบสนอง น้ำหวานเริ่มหลั่งออกมาหล่อลื่นตามสัญชาตญาณ
"อื้มมมม... แน่นชิบหาย... นี่แหละที่ฉันต้องการ"
โลแกนครางต่ำอย่างสุขสม เขาเริ่มขยับสะโพกกระแทกกระทั้นเข้าใส่รุนแรง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง พั่บ! พั่บ! ประสานกับเสียงครางอู้อี้ของจี๊ด
"ดูข้างนอกสิ..." โลแกนกระซิบข้างหู บังคับให้เธอมองผ่านกระจกออกไป "ไอ้ผู้จัดการหน้าโง่นั่นกำลังเดินมา... มันไม่รู้เลยว่าลูกน้องคนโปรดกำลังโดนกระแทกจนตัวโยนอยู่ตรงนี้"
ความตื่นเต้นหวาดเสียวแล่นพล่านไปทั่วร่างจี๊ด ภาพเพื่อนร่วมงานที่เดินผ่านไปมาห่างไปแค่กระจกกั้น ทำให้ความอายแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์วาบหวามอย่างน่าประหลาด ช่องทางรักตอดรัดแก่นกายเขาตุบๆ จนโลแกนแทบคลั่ง
"อื้อ... อ๊า... คุณโลแกน... เสียว... ไม่ไหว..." จี๊ดเผลอครางออกมาเมื่อเขาบดขยี้จุดกระสันย้ำๆ
"ร่านจริงนะ... ปากบอกอย่า แต่ข้างล่างตอดรัดฉันจนจะขาด"
โลแกนปล่อยมือจากปากเธอ เปลี่ยนมาขย้ำหน้าอกผ่านเสื้อเชิ้ตตึงเปรี๊ยะ จนกระดุมเม็ดบนหลุดกระเด็น เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้น แรงขึ้น เหมือนสัตว์ป่าที่กำลังผสมพันธุ์
ตับ! ตับ! ตับ!
กระจกบานใหญ่สั่นสะเทือนตามแรงกระแทก จี๊ดหวาดเสียวว่ามันจะแตกออก แต่ความเสียวซ่านที่ได้รับมันรุนแรงจนสมองขาวโพลน เธอจิกเล็บลงบนบ่ากว้าง กรีดร้องไร้เสียง แผ่นหลังเสียดสีกับกระจกเย็นๆ ตัดกับความร้อนระอุภายในกาย
"ฉันจะลงโทษเธอ... จำใส่หัวไว้จี๊ด เธอหนีฉันไม่พ้น!"
โลแกนกระแทกเน้นๆ เข้าไปที่จุดลึกสุดสามครั้งรวด ก่อนจะเกร็งกระตุก ปลดปล่อยธารอุ่นร้อนฉีดพ่นเข้าไปในตัวเธอจนล้นทะลักออกมาตามเรียวขา
"อ๊าาาาาาา! / ซี๊ดดดดด!"
ทั้งคู่หอบหายใจหนักหน่วง ร่างกายแนบชิดกันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียว โลแกนค่อยๆ ถอนแก่นกายออก น้ำรักสีขุ่นไหลย้อนออกมาเปรอะเปื้อนกระโปรงและพื้นพรม
เขาจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่ในพริบตา กลับมาดูเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลเหมือนเดิม ในขณะที่จี๊ดทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น สภาพยับเยินเหมือนเพิ่งผ่านสมรภูมิ
โลแกนย่อตัวลงเชยคางมนขึ้นมาสบตา แสยะยิ้มร้ายกาจที่ทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ
"ไปล้างตัวซะ... แล้วออกมาหาฉัน" เขาออกคำสั่งเสียงเข้ม "เราจะไป 'ลองรถ' กันต่อ... ข้างนอกนั่น"