ตอนที่2

826 Words
"ไปบอกคุณท่านเร็ว คุณเหงี่ยมฟื้นแล้วๆ"เสียงดังเอะอะมักเทิ่งปลุกเจ้าเอื้อตื่นรู้สึกตัว มันปวดหัวดังอยู่ในเรือโคลงเคลงทั้งที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม มืออุ่นๆ ของใครต่อใครไม่รู้ จับบีบตามเนื้อตัวมันทั้งเอาน้ำลอยดอกมะลิหอมให้ดื่มแก้กระหาย จนสติเลือนรางกลับเข้าที่ทาง ไอ้เอื้อรู้สึกดีขึ้นมาก จำได้เมื่อคืนฝันว่าใจขาดตายอยู่ในหลุม ไม่ซี! เหตุการณ์แลความรู้สึกแบบนั้นไอ้เอื้อจะลืมลงได้เช่นไร แต่ว่า แล้วตอนนี้มันอะไร อาการบาดเจ็บหรือก็ไม่มี แถมรอบกายมีคนมากมายนั่งล้อมเตียงคอยดูแลอยู่ หรือเมื่อคืนจะถูกช่วยเอาไว้กันหนา “เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะคุณเหงี่ยม เจ็บปวดตรงที่ใดหรือไม่” หญิงร่างท้วมแต่งกายดังเป็นบ่าวเรือนเจ้านายถามด้วยความห่วงใย ไอ้เอื้อขมวดคิ้วยังไม่เข้าใจที่เจ้าหล่อนพูดเรียกเขาด้วยชื่ออื่น หากแต่การปรนนิบัติที่ชวนแปลกใจนี้ทำให้เจ้าเอื้อหันดูเนื้อตัวตนเองโดยพลัน แขนผอมลีบเล็ก ขาวซีดดังคนขี้โรค ร่างกายผู้ใด!! ชายหนุ่มจับคลำทั่วใบหน้าตนเองด้วยตื่นตกอกตกใจเป็นที่สุด “ลูกเหงี่ยม ฟื้นแล้วหรือลูก โถ ใจแม่นี้จะขาดดิ้นเสียให้ได้” สตรีแต่งกายงาม ร่างกายประดับประดาด้วยทองหยองอัญมณี หล่อนเข้ามาในห้องนอนนี้ได้ก็โผเข้ากอดเจ้าเอื้อแน่นแล้วตั้งต้นร้องไห้ร้องห่มเสียงดัง เจ้าเอื้องงงวยกับเหตุการณ์ แต่ไม่ทันไรดวงตาก็เบิกกว้างกว่าเก่า เมื่อคนที่ก้าวเข้ามาคนใหม่ คือชายที่สั่งฆ่ามันเมื่อคืนนั่นเอง ไอ้หลวงศรีบาน!!! “ขวัญเอ๊ยขวัญมาหนาลูก” คุณหลวงศรีบานคนที่เจ้าเอื้อไม่เคยจินตนาการได้ถึงใบหน้าจริงใจที่แท้จริงกำลังมองมาที่มันดังหวงแหนหนักหนา ปากก็พร่ำเรียกขวัญ มือก็ผูกปมฝ้ายสายสิญจน์ เจ้าเอื้อนั่งตัวเกร็งกลัวเขาจับได้ ในร่างคุณหนูเหงี่ยม บุตรชายขี้โรคหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียวของหลวงศรีบานแลคุณหญิงปิ่น ท่ามกลางหมอขวัญแลบ่าวไพร่มากมาย นี่กูตาย…แล้วมาสิงร่างลูกไอ้คุณหลวงหรือวะ ตายห่าล่ะ หากมันล่วงรู้ มีหวังหาหมอผีมาจับกูลงหม้อถ่วงน้ำตายอีกรอบเป็นแน่ คิดได้ดังนั้น เจ้าเอื้อด้วยเป็นคนหัวไว ก็ไม่ยอมพูดจาแลสงวนท่าทีปกปิด มิให้ส่อแววพิรุธให้ผู้ใดจับได้ เจ้าเอื้อหลบตาผู้คนจนจบพิธีเรียกขวัญ เมื่อไล่นางรับใช้ให้ออกไป ได้อยู่ลำพังผู้เดียวในห้อง ไอ้เอื้อก็มาคิดทบทวนว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกับมันกันอีก ก็เพราะเมื่อคืนตอนกูตาย แต่ดังว่ากรรมตามสนองทันมันไอ้คุณหลวง จึงเหตุเชื่อมโยงชนิดบังเอิญอย่างประหลาด ให้ลูกชายมัน คุณหนูเหงี่ยม เจ้าของร่างนี้ นอนใหลตายเป็นหลายชั่วยาม จวบจนใกล้ย่ำรุ่ง เนื้อตัวเขียวซีดก็กลับมีสีเรื่อแดงปลั่ง เลือดหมุนเวียนในร่าง จากนั้นก็อย่างที่เห็น กูนี้ตื่นมาในร่างของลูกมัน แต่กูก็ไม่อาจเข้าใจ ว่ามันเกิดขึ้นได้เช่นไรกัน เจ้าเอื้อหันมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไปที่คันฉ่องบานใหญ่ที่หน้าโต๊ะเครื่องหอม ใบหน้าที่มองตอบมาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาชนิดเรียกได้ว่าเป็นผู้ดีทุกกระเบียด ร่างสันทัดโปร่งบาง สูงกว่าร่างกายเดิมของเจ้าเอื้อหน่อยหนึ่ง แต่เล็กผอมอย่างน่าสงสาร หากหน้าตาก็น่ารักน่าชังดังแบบบุรุษใช้ได้อยู่ ไอ้เอื้อหยิกตีตนเองก็รู้สึกเจ็บ ดังว่าทั้งหมดคือร่างกายมันเองทุกข้อกระดูก “เฮ้ย มึงยังอยู่ในนี้หรือไม่?” เจ้าเอื้อถามเงาสะท้อนคุณหนูเหงี่ยม แต่ไม่มีวี่แววผู้อื่นใดนอกจากมันในห้วงวิญญาณนี้เลย มันคงตายไปแล้วจริงๆ แล้ววิญญาณกูมาเข้าแทนร่าง เจ้าเอื้อคิดไปเรื่อย ในขณะที่ยังคิดไม่ตก ทุกๆ วันชายหนุ่มจึงต้องจำแสร้งทำเป็นป่วย ไม่กล้าพูดหรือแสดงท่าทีอื่นใดออกมา เพราะรู้ว่าหากเพียงพูดแม้สักประโยค อันคนเคยคุ้นย่อมดูออกในสำเนียงว่ามิใช่คนผู้เก่า ไอ้เอื้อใช้ชีวิตกินนอนอย่างสำราญกายแต่ภายในใจก็คุ้นคิดหนักวางแผนแก้แค้น ไม่ได้การ ขืนอยู่เงียบเยี่ยงนี้ต่อไปพวกมันเป็นต้องจับได้เข้าสักวันแน่ เช่นนั้นกูต้องหาทางสวมรอยเป็นคุณเหงี่ยมให้แนบเนียนโดยเร็วไว แต่จักถามคนผู้ใดถึงอากัปกิริยาการพูดการจาของคุณเหงี่ยม ให้ไม่เกิดความระแวดระแวงต่อกูกันเล่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD