“สวัสดีค่ะทุกคน”
“สวัสดีค่ะน้องลิชา”
“สวัสดีครับคุณลิชา”
ร่างบางเดินเข้ามาในห้องนันทนาการชั้นยี่สิบของบริษัทพร้อมส่งเสียงทักทาย ทุกคนภายในห้องต่างพากันหยุดทำกิจกรรมและหันมาส่งเสียงตอบรับอย่างอัธยาศัยดี สองวันมานี้อลิชาได้มาร่วมทำ workshop กับทางบริษัทก่อนเริ่มทริป ทำให้เธอเริ่มสนิทกับทีมงานคนอื่นมากขึ้น ช่วยคลายความกดดันในใจเธอได้อย่างมาก ทุกคนอัธยาศัยดี น่ารักและเป็นกันเองกับเธอมาก ๆ
“วันนี้เราจะมาเริ่มเล่นเกมกันนะครับ อย่างที่ทุกคนทราบว่าเราต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครในเกม ฉะนั้นเราก็ควรจะรู้จักคาแรคเตอร์และประโยคคำพูดหลัก ๆ ของตัวละครนั้น ๆ ด้วย โดยเฉพาะสกิลและความสามารถพิเศษต่าง ๆ ซึ่งเรื่องนี้มันจำเป็นต่อการทำงานมากเลยนะครับ”
พีรภัทร หัวหน้าทีมพัฒนาเกม AIW คือผู้รับหน้าที่ทำ workshop ให้กับทุกคนในวันนี้ เขากวาดสายตามองทีละคนก่อนจะหยุดลงที่ใบหน้าสวยหวานของอลิชา เขานิ่งมองเธอชั่วครู่จนคนถูกมองรู้สึกประหม่า เธอยิ้มบาง ๆ ตอบกลับ ทำให้เขาได้สติกลับมา
“อะแฮ่ม เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรามาเริ่มจากการสร้างตัวละครกันก่อนเลยนะครับ ทุกคนหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาคนละเครื่องเลยครับ แล้วทำตามจอมอนิเตอร์นี้นะครับ”
จอมอนิเตอร์ขนาดกลางฉายภาพหน้าของโทรศัพท์เครื่องหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่ามาจากเครื่องของใคร ภาพบนจอเริ่มทำการสร้างตัวละครโดยมีพีรภัทรคอยอธิบายประกอบคลิปไปด้วย
“ทุกคนกดสร้างตัวละครตามบทบาทที่ได้รับเลยนะครับ”
ภาพบนหน้าจอกดเลือกตัวละคร Mad hatter และตั้งชื่อตัวละครว่า Jay
Jay… งั้นเหรอ?
อลิชาชะงักมือเหม่อมองจอมอนิเตอร์นิ่ง เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ ๆ คนที่กำลังสาธิตการสร้างตัวละครบนจอมอนิเตอร์นั่นจะต้องเป็นเขานั้นแน่ ๆ
ว่าแต่ทำไมถึงไม่เจอเขาเลยนะ…
ดวงตาหวานมองไปทางประตูกระจก ตั้งแต่ทางบริษัทจัดทำ workshop เธอยังไม่เคยเจอเจย์เดนเลยสักครั้ง แม้ว่าโปรแกรมเมอร์อย่างเขาจะไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม workshop ด้วยก็ตาม แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าอาจจะได้พบเขาบ้าง
อย่างเช่นวันนี้… ตอนแรกเธอคิดว่าคนที่จะมารับหน้าที่ทำ workshop อาจจะเป็นเขาก็ได้ ทว่ากลับไม่ใช่…
แล้วทำไมจู่ ๆ เขาถึงโผล่มาร่วมสาธิตบนจอมอนิเตอร์แทนได้ล่ะ?
“ติดปัญหาตรงไหนหรือเปล่าครับคุณอลิชา?”
“คะ?” เธอดึงสายตากลับจากจอมอนิเตอร์เพื่อมองพีรภัทร เขาเห็นเธอนั่งเหม่อจึงคิดว่าเธอไม่เข้าใจฟังก์ชั่นเกม
“ต้องการความช่วยเหลือตรงไหนไหมครับ?”
“อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่กำลังคิดว่าควรจะตั้งชื่อยังไงดี”
พีรภัทรขยับมายืนด้านหลังพลางมองหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ เขาเว้นระยะห่างไม่ใกล้ชิดจนเกินพอดี ท่าทางเขาดูมีมารยาทกับเธอมาก ซึ่งเธอก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าเขาเป็นแบบนี้กับทุกคนเช่นกัน
“ตั้งชื่อ Alice เลยก็ได้นะครับ”
“อ่า… นั่นสินะคะ” เธอยิ้มตอบ ก้มมองจอโทรศัพท์ในมือและพิมพ์ชื่อตัวละครลงไป ทว่าในตอนที่เธอเงยหน้าจะถามบางอย่างจากพีรภัทรก็พบว่าเขาขยับออกไปยืนห่างจากเธอแล้ว คิ้วเรียวขมวดน้อย ๆ ด้วยความงุนงงว่าทำไมเขาต้องยืนไกลเธอขนาดนั้นด้วย “คือว่า… ตั้งชื่อแล้วต้องทำยังไงต่อเหรอคะ พอดีว่าฉันไม่เคยเล่นเกมมาก่อนเลยค่ะ”
คำถามของอลิชาเรียกสายตาหลายคนรอบข้างพอสมควร แววตาที่มองมาล้วนเจือไปด้วยความประหลาดใจ เพราะทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ต่างก็ต้องเคยมีประสบการณ์ในการเล่นเกมกันทั้งนั้น นี่เป็นคุณสมบัติในใบสมัครและยังเป็นคำถามสำคัญตอนสัมภาษณ์งานด้วย
แล้วทำไมเธอที่ได้รับบทบาทสำคัญอย่างเช่นตัวละครอลิซถึงไม่เคยเล่นเกมมาก่อนล่ะ?
อลิชารับรู้ได้ถึงสายตาของทุกคน เธอก้มหน้าลงรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย นี่ไม่ต่างอะไรกับการที่เธอใช้เส้นสายในการได้รับงานนี้เลยไม่ใช่หรือไง ไม่สบายใจเลยจริง ๆ
“คุณอลิชาคงจะหมายถึงไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อนสินะครับ” พีรภัทรช่วยแก้ไขคำพูดของเธอด้วยรอยยิ้มสุภาพ และไม่รอให้เธอตอบรับ เขารีบพูดต่อทันที “จริงสิครับ ผมลืมบอกคุณอลิชาว่าคุณควรฝึกเล่นคนเดียวก่อนน่าจะดีกว่านะครับ ถ้ายังไงเชิญคุณเข้าไปใช้ห้องรับแขกห้องสุดท้ายของทางเดินได้เลยนะครับ”
“คะ? ฉันต้องฝึกเล่นคนเดียวเหรอคะ?” อลิชาชี้หน้าตัวเองอย่างงุนงง
เธอไม่เคยเล่นเกมมาก่อนเลยนะ แล้วจะให้เธอฝึกเล่นคนเดียวได้ยังไงกันล่ะ
“ครับ คนอื่น ๆ พอจะมีพื้นฐานเกมแนวนี้กันแล้ว ทางผมจะสอนโดยรวมให้พวกเขาเอง ส่วนคุณอลิชาผมจะส่งทีมงานไปช่วยสอนแบบส่วนตัวให้นะครับ เชิญคุณไปรอที่ห้องก่อนได้เลยครับ”
สอนแบบส่วนตัว?
อลิชาลุกขึ้นยืนด้วยความงุนงงไม่หาย เธอหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าและเดินออกจากห้องนันทนาการมาท่ามกลางสายตางุนงงไม่แพ้กันของคนอื่น ๆ
ก็เข้าใจอยู่ว่าเธอไม่มีพื้นฐานการเล่นเกมมาก่อน แต่คาดไม่ถึงว่าจะต้องถึงขนาดส่งทีมงานมาสอนแบบตัวต่อตัวแบบนี้ รู้สึกเหมือนตนเองได้รับสิทธิพิเศษยังไงก็ไม่รู้แฮะ
ไม่สบายใจเลย…