“มีกระเป๋าใบอื่นอีกไหมครับคุณอลิชา”
“ไม่มีแล้วค่ะ ฉันเตรียมมาแค่สองใบนี้แหละค่ะ” หญิงสาวตอบรับพร้อมรอยยิ้มให้กับทีมงานคนหนึ่งซึ่งรับหน้าที่ขนกระเป๋าต่าง ๆ ขึ้นรถบัส เขาโค้งให้เธอเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
วันนี้เป็นวันแรกของการเดินทางโปรโมทเกมออนไลน์ตามโปรแกรมที่ทางบริษัทกำหนดเอาไว้หลังจากจบการทำ Workshop
ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมดยี่สิบสี่คน แบ่งเป็นทีมงานสิบสี่คน ทีมคอสเพลย์แปดคน และมีเอเจนซี่ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของเกมตามมาด้วยอีกสองคน
“วันนี้คุณสวยเหมือนอลิซเลยแฮะ”
ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดต้นคอ เมื่อหันมองก็พบกับดวงตาคมกริบแพรวพราวของเจย์เดนซึ่งเธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับเขาในวันนี้ เพราะเวลานี้ทุกคนที่จะร่วมเดินทางไปกับทริปกำลังยืนรวมตัวกันอยู่หน้าบริษัทเพื่อรอขึ้นรถบัส แถมยังเช้ามากจนไม่น่าจะมีใครมาทำงานเช้าได้ขนาดนี้ นอกจากพวกที่จะเดินทางไปด้วยกันเท่านั้น
“คุณมาได้ยังไงกันคะ อย่าบอกนะว่าจะมาร่วมทริปครั้งนี้ด้วยน่ะ”
อลิชาถามขณะหันกลับมามองรถบัสสองชั้นสุดหรูระดับวีไอพีตรงหน้า อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกไม่อยากมองหน้าเขาขึ้นมาเสียดื้อ ๆ รู้สึกไม่ค่อยดีกับหัวใจดวงน้อยสักเท่าไหร่ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ ยิ่งมองยิ่งหล่อ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งทำหัวใจเธอสั่นไหว แถมวันนี้เจย์เดนยังแต่งตัวมาแบบสบาย ๆ มาก เหมือนเป็นชุดไปรเวทมากกว่าชุดทำงานเสียอีก
“แล้วถ้าผมตอบว่าใช่ล่ะ”
“ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ โปรแกรมเมอร์อย่างคุณคงไม่จำเป็นต้องไปร่วมทริปโปรโมทด้วยมั้งคะ คุณจะทิ้งงานของคุณที่ต้องคอยดูแลระบบออนไลน์ตลอดเวลาได้ยังไงกัน”
“แหม… บังเอิญว่าผมเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ไม่ธรรมดาซะด้วยสิ”
เจย์เดนยิ้มเจ้าเล่ห์ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ ถึงแม้เธอจะแอบคิดว่าเขาทำตัวไม่เหมือนโปรแกรมเมอร์ธรรมดาทั่วไปก็เถอะ เพราะนอกจากความหล่อระเบิดระเบ้อแล้ว ยังมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมบนร่างกายของเขานั่นอีก อย่าว่าแต่เสื้อผ้าเขาเลย แค่นาฬิกาข้อมือเรือนเดียวก็ปาเข้าไปหลักล้านแล้ว หรือถ้าเจย์เดนเป็นโปรแกรมเมอร์จริง ๆ เขาจะต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ที่หล่อและรวยมากเป็นแน่
“คุณดูน่าสงสัยอีกแล้วนะคะ”
“อะไรกัน ผมดูน่าสงสัยตรงไหนกันครับ?” เจย์เดนยิ้มถามพลางกางแขนทั้งสองข้างออก กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อน ๆ ลอยมาตามสายลม มันช่างหอมชวนหลงใหลอะไรขนาดนี้
นี่เขากำลังอ่อยเธออีกแล้วหรือ ร้ายกาจเกินไปแล้วนะ!
“ทุกอย่างเลยค่ะ” อลิชาตอบเสียงเรียบ จังหวะเดียวกับสายตาเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางนี้ เธอคนนั้นก็คือแพรวา เลขาของประธานบริษัทนั่นเอง
“สวัสดีค่ะคุณอลิซ”
“สวัสดีค่ะคุณแพรว คือ… ฉันจะรู้สึกดีมากเลยถ้าคุณเรียกฉันว่าลิชาแทนอลิซแบบนั้นนะคะ” เธอพูดขำ ๆ เพราะยังรู้สึกไม่ชินกับชื่ออลิซ ซึ่งปกติจะมีเพียงเจย์เดนเรียกเท่านั้น “ว่าแต่คุณแพรวมาทำอะไรที่นี่กันคะ? หรือว่ามาตรวจความเรียบร้อยก่อนจะออกทริป”
“เอ่อ… ก็ไม่เชิงค่ะ” แพรวายิ้มเจื่อนก่อนจะเหลือบตามองร่างสูงด้านข้างอลิชาเล็กน้อย “คือจริง ๆ แล้วฉันจะมาร่วมทริปนี้กับบอสด้วยน่ะค่ะ”
“อะไรนะคะ มาร่วมทริปกับบอส? หมายถึงประธานบริษัท JDWorld น่ะเหรอคะ?”
อลิชาถามกลับเสียงสูง รู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ ประธานบริษัทจะร่วมเดินทางไปด้วย เธอไม่เคยได้ยินชื่อหรือเห็นหน้าคร่าตาประธานบริษัทเลยสักครั้ง เพราะปกติไม่ค่อยสนใจเรื่องข่าวในแวดวงธุรกิจสักเท่าไหร่ และประธานบริษัทในความคิดของเธอก็คือผู้ชายวัยกลางคนท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง เขาถึงได้เป็นนักธุรกิจที่สามารถสร้างบริษัทเกมชื่อดังระดับเอเชียได้ขนาดนี้
“ใช่ค่ะ”
“น่าแปลกจัง ทำไมบอสถึงอยากจะไปออกทริปด้วยล่ะคะ ปกตินักธุรกิจระดับนี้มักจะงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาทำอะไรเลยด้วยซ้ำนี่นา”
“นั่นสิคะ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันว่าทำไมบอสถึงว๊างว่างมาร่วมทริปนี้ได้ทั้งที่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยุ่งมากที่สุดเลยล่ะค่ะ”
“จริงด้วยค่ะ ยิ่งเปิดตัวเกมใหม่ทางบริษัทก็จะยิ่งยุ่งกว่าเดิมสินะคะ”
“ใช่ค่ะ ช่วงนี้มีประชุมทุกวันเลยค่ะ เวลาทานข้าวยังแทบจะไม่มีเลยนะคะแต่บอสก็ยัง…”
“แค่ก ๆ”
ระหว่างทั้งสองสาวกำลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของประธานบริษัทอย่างออกรส จู่ ๆ ผู้ชายเพียงคนเดียวในกลุ่มก็สำลักออกมาเสียงดังคล้ายกำลังกลบเกลื่อนอะไรบางอย่าง
แหม จะไม่ให้เขาสำลักได้ยังไงในเมื่อบอสที่พวกเธอกำลังพูดถึงกันนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอนี่เอง แบบนี้เรียกนินทาระยะเผาขนเลยเชียวนะ!
ท่าทางของเจย์เดนเรียกความสงสัยให้อลิชาไม่น้อย เขาดูมีพิรุธแปลก ๆ เธอขมวดคิ้วมองเขา แต่ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรก็ถูกใครอีกคนเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“สวัสดีครับคุณเจย์เดน ไม่คิดเลยนะครับว่าคุณจะสละเวลามาร่วมทริปครั้งนี้ด้วย”