ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หลังจากอาบน้ำสระผมเสร็จเรียบร้อย อลิชานั่งเช็ดผมหน้าโต๊ะกระจก สายตาจับจ้องเงาสะท้อนของตัวเองนิ่ง ภายในใจครุ่นคิดวกวนอยู่แต่เรื่องของเจย์เดน
เมื่อไหร่กันนะ… เมื่อไหร่กันที่เธอปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นเข้ามามีอิทธิพลทางความคิดได้ขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาคือผู้ชายคนแรกที่เธอให้ความสนิทสนมด้วย
อย่างที่บอกว่าเจย์เดนไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่อลิชาเคยใกล้ชิด สมัยเรียนเธอก็เคยคบเพื่อนผู้ชายอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเพื่อนจริง ๆ ไม่ใช่แฟน เธอยังไม่เคยมีแฟนเลยด้วยซ้ำ ส่วนมากที่เข้ามาสานสัมพันธ์ เธอก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น เพราะเธอไม่ค่อยโฟกัสเรื่องความรักเท่าไหร่ เธอคิดว่ามันไม่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตเลยสักนิด
แต่สำหรับเจย์เดน… เขาทำให้เธอรู้สึกแตกต่าง
ช่วงแรกที่เธอได้รู้จักกับเขา เธอก็แค่หัวใจเต้นแรงเป็นธรรมดาตามประสาผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายหล่อ ๆ และเสน่ห์เหลือร้ายอย่างเขาเท่านั้น
และใช่… เธอเคยคิดอย่างนั้น… แม้ตอนนี้จะเริ่มไม่ค่อยแน่ใจแล้วก็เถอะ!
“บ้า ๆๆ เลิกคิดสักทียัยลิชา! เขาเป็นเจ้านายเธอนะ! ห้ามไปคิดอะไรบ้า ๆ เด็ดขาด ถ้าไม่อยากโดนครหาว่าเอาตัวเข้าแลก!” มือบางยกขึ้นทุบหัวตัวเองแรง ๆ หนึ่งทีแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะหยิบยาแก้หวัดที่พกติดตัวมาด้วยเพราะกลัวจะป่วยระหว่างเดินทาง เธอหยิบมันใส่ปากแล้วดื่มน้ำตามจนหมดแก้ว จากนั้นเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ในใจเผลอขบคิดถึงเขาคนนั้นอีกครั้ง…
เจย์เดนจะพกยาแก้หวัดมาด้วยหรือเปล่านะ…
“โอ๊ยให้ตาย! ฉันคิดถึงเขาอีกแล้ว เขาจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของเขาสิ จะป่วยจะอะไรก็ช่างเขา เลิกสนใจเขาสักทียัยลิชา!”
.
.
.
สิบนาทีต่อมา
นี่เธอมายืนทำบ้าอะไรตรงนี้กัน…
อลิชาบ่นกับตัวเองในใจขณะเดินวนไปวนมาหน้าห้องของเจย์เดนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของเธอ มันบ้ามากที่จู่ ๆ เธอก็ถือยาแก้หวัดออกมายืนหน้าประตูห้องเขาแบบนี้ แต่เพราะเธอเป็นคนดีไง เห็นเขาตัวเปียกเดินตากลมแบบนั้นก็เลยกลัวว่าเขาจะไม่สบาย มันไม่ผิดใช่ไหมถ้าเธอจะเป็นห่วงเจ้านายตัวเอง
เฮ้อ! เอาก็เอา! เธอแค่เอายามาให้เขาเฉย ๆ นี่ ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นสักหน่อย!
ออด… ออด…
นิ้วเรียวกดออดหน้าห้องของเขา… บ้าจริง… ทำไมต้องมือสั่นด้วยล่ะ ไม่ใช่มืออย่างเดียวนะ หัวใจก็ด้วย โอ๊ยอยากจะบ้า เกิดมายี่สิบสามปีไม่เคยมีอาการแปลก ๆ แบบนี้มาก่อนเลย!
กริ๊ก…
ประตูถูกเปิดออกช้า ๆ พร้อมกับผู้ชายรูปร่างสูงที่โผล่พ้นออกมาจากหลังประตูบานนั้น และร่างบางจะไม่นิ่งค้างขนาดนี้เลย ถ้าเขาคนนั้นอยู่ในสภาพที่แต่งกายเรียบร้อย ไม่ใช่…
พันผ้าขนหนูผืนเดียวรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่ออกมาแบบนี้!
“อลิซ? คุณมีอะไรหรือเปล่า?”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกวาดสายตาคมเข้มมองไปทั่วร่างกายที่สวมชุดนอนแล้วทับด้วยเสื้อคลุมอีกทีของหญิงสาวร่างบาง เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เห็นอลิชามายืนอยู่หน้าประตูห้องยามดึกดื่นเช่นนี้
“คะ คือ…” เสียงหวานสะดุดไปเสียดื้อ ๆ เธอรู้สึกประหม่าและอายอย่างบอกไม่ถูก พยายามจะละสายตาขึ้นมาจากบริเวณกล้ามหน้าท้องอันแข็งแกร่งของเขาแต่มันกลับทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เธอแทบจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ ให้หายฟุ้งซ่านเลยทีเดียว
“คือ? แล้วนี่กำลังมองอะไรอยู่น่ะ คุยกับผมก็มองหน้าผมสิครับ”
เจย์เดนก้มหน้าลงมาตรงตำแหน่งสายตาของอลิชา พอได้สบกับสายตาแพรวพราวและรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของเขา สติสัมปชัญญะของเธอถึงได้กลับเข้าที่เหมือนเดิม เธอรีบดึงสายตากลับพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ ไล่อาการแปลก ๆ เมื่อครู่ออกไป
“เอ่อ… ยาน่ะ! คือฉันเอายาแก้หวัดมาให้คุณค่ะ!”
ร่างบางหลับหูหลับตาพูดแล้วรีบยัดยาแก้หวัดใส่มือเจย์เดน จากนั้นก็รีบหมุนตัวเตรียมจะวิ่งหนีกลับห้อง หากทว่ามันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดน่ะสิ
เพราะอะไรน่ะเหรอ… ก็เพราะเจย์เดนไม่ยอมปล่อยมือเธอยังไงล่ะ!
“นะ นี่คุณ! ปล่อยมือฉันสิคะ!”
“ปล่อยง่าย ๆ ก็ไม่ใช่ผมสิ”
“อ๊ะ!”
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนอลิชาตั้งตัวไม่ทัน เมื่อจู่ ๆ เจย์เดนทำเรื่องน่าตกใจโดยการดึงเธอเข้ามาในห้องของเขาก่อนจะปิดประตูลง เธอทำท่าจะเปิดประตูหนีแต่ถูกเขาใช้ร่างกายสูงใหญ่บดบัง สายตาของเธอจึงหยุดอยู่ที่แผงอกเปลือยเปล่าและซิคแพคอันแข็งแกร่งของเขา ทำให้ร่างกายและสติของหญิงสาวเหมือนปิดสวิตช์ลงทันทีเลย
“จะ… จะทำ… อะไร?”
ดวงตาหวานพยายามดึงสายตาขึ้นมองหน้าเขาแทน เพราะไม่อยากสติกระเจิดกระเจิงไปมากกว่านี้หากมองส่วนอื่นบนร่างกายเขาต่อไป นี่มันเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมากสำหรับเธอ อันตรายจริง ๆ และถ้าเธอไม่รีบย้ายตัวเองออกไปจากห้องนี้โดยเร็วที่สุด มันอาจจะเกิดเรื่องบ้า ๆ ขึ้นก็เป็นได้
เจย์เดนไม่น่าไว้ใจสักนิด!
“เจย์เดน… คุณคิดจะทำอะไรคะ” อลิชารวบรวมสติและเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขายังคงยืนนิ่งไม่พูดอะไร แถมยังไล่ต้อนจนเธอถอยหลังชิดกับผนังห้อง เขากำลังทำให้เธอหวาดระแวงอย่างมาก และก่อนความคิดของเธอจะตะเหลิดไปมากกว่านี้ น้ำเสียงแหบแห้งแสนเซ็กซี่ค่อย ๆ กระซิบถามแผ่วเบา
“คุณมาทำไม…”