“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ คุณอลิชา”
“เช่นกันค่ะ ฉันมาตามที่คุณแนะนำแล้วค่ะ แต่ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจนะคะว่าจะสามารถทำงานที่คุณต้องการได้หรือเปล่า”
เธอพูดตามความรู้สึกจริง เพราะเธอต้องเห็นการทำงานของตัวเองก่อน ถึงจะตัดสินใจได้ว่าควรจะทำดีหรือไม่ และยังต้องคุยรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนที่จะร่วมงานกันอีกด้วย
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นผมขออาสาพาคุณเดินชมการทำงานของแผนกต่าง ๆ ภายในบริษัทเราก่อนดีไหม จะได้สะดวกต่อการตัดสินใจของคุณด้วย” เจย์เดนรับอาสายิ้ม ๆ เขารู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้พบกับเธออีกครั้ง เขาคิดไม่ผิดจริง ๆ ว่าอลิชาจะต้องสนใจมาร่วมงานกับเขาอย่างแน่นอน และก็เป็นจริงดังนั้น…
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่คุณช่วยแนะนำฝ่ายบุคคลให้กับฉันก็พอ”
อลิชาปฏิเสธข้อเสนอเขาอย่างสุภาพ เธอไม่ชอบการใช้เส้นสาย ถ้าเธอจะได้เข้าทำงานที่นี่จริง ๆ เธอก็อยากจะเข้าด้วยความสามารถของตัวเองเหมือนกับคนอื่น ๆ ไม่ใช่ได้งานเพราะเขาฝากฝังให้
“ถ้าผมพาคุณไปฝ่ายบุคคลเกรงว่าคุณอาจจะต้องทำงานกับเราเลยนะครับ เพราะที่นี่ไม่มีการดูงานก่อนตัดสินใจทำนะ แต่ถ้าให้ผมพาไปเยี่ยมชมแผนกต่าง ๆ แทน คุณก็ยังมีเวลาในการตัดสินใจ มันย่อมดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ” เจย์เดนแย้งกลับสีหน้าเจ้าเล่ห์ ท่าทางมั่นอกมั่นใจของเขามันทำให้อลิชารู้สึกหมั่นไส้เล็ก ๆ ซึ่งอาการหมั่นไส้ของเธอมันแสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อย เจย์เดนลอบยิ้มให้กับท่าทางน่ารักนั่น
“คุณว่างเหรอคะ? ฉันคิดว่าโปรแกรมเมอร์อย่างคุณน่าจะงานยุ่งมากซะอีก”
“ใครบอกคุณกัน โปรแกรมเมอร์อย่างผมน่ะว๊างว่างจะตายไป” เขายิ้มกลับแถมยังไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
อลิชามองเจย์เดนอย่างชั่งใจเล็กน้อย เพราะไม่แน่ใจว่าจะเชื่อใจเขาได้มากน้อยแค่ไหน แต่ในเมื่อเธอยอมก้าวเข้ามาที่นี่เพราะคำพูดของเขาตั้งแต่แรกแล้ว เธอก็คงต้องเชื่อในคำพูดของเขาต่อไปสินะ
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
เมื่ออลิชาตอบตกลง เจย์เดนคลี่ยิ้มให้เธอทันที มันเป็นรอยยิ้มพราวระยับ ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจสักนิด ทำให้เธอรู้สึกลังเลขึ้นมาแล้ว เธอจะไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้สักแค่ไหนกันนะ!
.
.
.
“คุณเหนื่อยไหม” น้ำเสียงทุ้มน่าฟังดังขึ้นจากด้านหลัง อลิชาหันกลับมามองร่างสูงที่กำลังยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้ เธอมองแก้วน้ำเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองเขาอีกรอบ “รับไปสิ ผมไม่ใส่ยาอะไรในน้ำหรอก”
“ฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อยค่ะ” เธอรับแก้วน้ำมาถือพลางทำหน้ายุ่ง หญิงสาวยังรู้สึกเคืองเล็กน้อยเพราะเพิ่งรู้มาไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เองว่าจริง ๆ แล้วเขาคนนี้มีชื่อเต็มว่า เจย์เดน เพราะบังเอิญได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเขาพอดี ในตอนนั้นทั้งสองกำลังยืนอยู่ในแผนกควบคุมแผงผังเกมออนไลน์ อลิชาจึงไม่ทันสังเกตว่าเธอคนนั้นเข้ามากระซิบกระซาบอะไรกับเขา ได้ยินเพียงแค่เสียงเรียกชื่อเจย์เดนเท่านั้น
“สีหน้าคุณเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรผมอยู่เลยนะ”
“คะ? ไม่นี่คะ ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ” อลิชาตอบโดยเสสายตาไปทางอื่นแทน จะให้เธอบอกไปตรง ๆ ได้ยังไงว่ารู้สึกไม่พอใจที่เขาไม่ยอมบอกเรื่องชื่อจริงกับเธอ ทั้งที่มันเป็นสิทธิ์ของเขา เขาจะบอกหรือไม่บอกมันก็เรื่องของเขานี่
“คุณตัดสินใจได้หรือยังครับว่าจะร่วมงานกับบริษัทเราหรือเปล่า”
เจย์เดนนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างหญิงสาว ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ในสวนย่อมบนดาดฟ้าตึกหนึ่งของบริษัทซึ่งจัดเอาไว้ได้อย่างสวยงาม หลังจากได้เที่ยวชมแผนกต่าง ๆ ภายในบริษัท ทำให้อลิชารู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูก การทำงานของทุกคนที่นี่ดูเป็นสัดส่วนและไม่ค่อยวุ่นวาย อีกอย่างในส่วนงานของอลิชาก็แทบไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับใครในบริษัทเลยด้วยซ้ำ
เพราะงานของเธอคือการแต่งคอสเพลย์และออกทริปโปรโมทเกมทั่วประเทศน่ะสิ!
หน้าที่ของอลิชาคือต้องออกทริปไปต่างจังหวัดกับทีมงานบางส่วนเพื่อจัดบูธโปรโมทเกมในหลายพื้นที่ ทุกภาคของประเทศไทย เธอต้องเดินสายไปทุกภาค มันดูน่าสนุกมากก็จริงเพราะได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ แต่มันไม่ค่อยจะดีตรงที่เธอต้องร่วมทริปนี้เป็นเวลาเก้าสิบวันนั่นหมายความว่าอลิชาจะต้องใช้ชีวิตร่วมกับทีมงานทุกคนตลอดระยะเวลาสามเดือนเต็ม ๆ เลยทีเดียว
“ขอถามอะไรสักอย่างได้ไหมคะ” ดวงตาหวานเลื่อนสบกับดวงตาคมเข้ม แม้อลิชาจะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยกับการต้องสบตากับผู้ชายหล่อเหลือร้ายอย่างเขา แต่เพราะต้องการฟังคำตอบจากใจจริง เธอจำเป็นต้องยอมสบตากับเขาตรง ๆ เพื่อค้นหาความจริงใจจากแววตาของเขา
“ถามหลายอย่างก็ได้นะ ผมยินดีตอบ”
“แค่อย่างเดียวก็พอค่ะ ฉันแค่อยากจะรู้ว่าทำไมคุณถึงเลือกฉัน… ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันมาเป็นอลิซละคะ?”
“...” เจย์เดนเงียบไป เขาสบตากับอลิชานิ่ง ๆ นัยน์ตาสีเขียวมรกตนั่นช่างสั่นหัวใจเธอได้ดีจริง ๆ เขาหล่อและมีเสน่ห์มาก ทั้งดวงตาเรียวรีคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาน่าจูบ…
ให้ตายสิ! เธอกำลังคิดอะไรกันอลิชา!
“เอ่อ… ถ้าคุณตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ ฉันแค่…”
“เพราะคุณคือแรงบันดาลใจของผม”