ตอนที่ 13 ตบมา...ตบกลับไม่โกง!!! (2/2)

1348 Words
เสียงเชียร์เบา ๆ ดังอยู่รอบสนาม ขณะที่ทีมบาสกำลังวอร์มอัพร่างกายก่อนลงซ้อม เมษานั่งไขว่ห้างอยู่บนแสตนด์เชียร์ในร่ม ใบหน้าแต่งจาง ๆ ดูสดใสจนคนมองไม่รู้เลยว่าเธอเพิ่งข้อเท้าพลิกมาไม่กี่วัน “เมษา เท้าเป็นไงมั่ง?” พริ้มนั่งข้าง ๆ เอียงตัวถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เมษาหันไปยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนกระดิกข้อเท้าเบา ๆ โชว์ให้ดู พริ้มตาโตทันที “เฮ้ย! หายแล้วเหรอ!?” “หายสิ! แค่พลิกนิดเดียวเอง ฉันก็...โอเว่อร์แอคติ้งไปงั้นแหละ” เมษาหัวเราะเบา ๆ ตาหยีอย่างคนรู้ตัวว่าตัวเองแสบแค่ไหน “แต่ได้พี่คีตะคอยดูแล คุ้มจะตาย~” “ยัยเมษา!” พริ้มกลอกตา ก่อนดีดหน้าผากเพื่อนเปรี๊ยะเข้าให้ “โอ๊ยยยย! ดีดฉันทำไมล่ะ!?” เมษาทำปากยื่น “ฉันเป็นห่วงจริงจังเลยนะ กลัวเท้าเธอจะเดินไม่ได้” พริ้มบ่น เมษาหันมายิ้มกว้างทันที “พริ้มม~ เธอก็รู้นิสัยฉันป้ะ...แต่ขอบคุณนะ ที่เป็นห่วง” พูดจบก็โถมตัวไปกอดเพื่อนแน่น จนพริ้มทำหน้าตกใจ ก่อนจะแกล้งดิ้นหงึก ๆ พอประมาณ “ยัยตัวป่วนเอ๊ย!” แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้แกล้งกันต่อ—เสียงฝีเท้าดังขึ้นใกล้ ๆ “เมษา…” มุกยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่จริงใจนัก “พี่...ขอคุยด้วยได้มั้ย?” บรรยากาศรอบตัวเหมือนชะงักลงครู่หนึ่ง พริ้มเหลือบตามองคนมาใหม่อย่างระแวง ขณะที่เมษายังคงยิ้มบาง ๆ ราวกับไม่ได้สะทกสะท้าน “ได้สิคะ พี่มุก…” เสียงหวานดังขึ้นเรียบเนียน ก่อนที่เมษาจะยกยิ้มช้า ๆ “อยากคุยเรื่องอะไรเหรอคะ?” มุกส่งยิ้มกลับ แต่แววตากลับอ่านยาก “เราไปคุยตรงอื่นดีกว่า จะได้ไม่รบกวนการซ้อมของทีมบาสน่ะ” เมษาหรี่ตามองเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหันไปสบตาพริ้ม “ไปด้วยกันนะ พริ้ม” น้ำเสียงเธอนุ่ม แต่แฝงความเจ้าเล่ห์ พริ้มพยักหน้าเข้าใจทันที ลุกขึ้นประคองเพื่อนอย่างรู้งาน “นำไปสิคะ” ... หลังอาคารสนามบาสมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ พงหญ้ารกรุงรังกับเงาไม้สลัวปกคลุมพื้นที่ราวกับป่าย่อม ๆ ทำให้แทบไม่มีใครกล้าเฉียดเข้ามาในโซนนี้ ท่ามกลางความเงียบสงัด— พริ้มยืนพิงต้นไม้ใหญ่ กอดอกมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ เมษาย่อตัวลง ใช้มือตบเบา ๆ บนแก้มของหญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่กับพื้น หายใจรวยริน รอบตัวมีร่างของผู้หญิงอีกหลายคนที่นอนเกลื่อนกระจัดกระจาย ใบหน้าบางคนมีรอยฟกช้ำ บ้างเสื้อผ้าหลุดลุ่ยจากการปะทะ “เฮ้อ…เป็นแบบนี้อีกแล้วสินะ” เสียงถอนใจของพริ้มเต็มไปด้วยความเคยชินปนเหนื่อยใจ — ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นสามสิบนาที — “ทำไมต้องมาคุยกันตรงนี้คะ?” เมษาขมวดคิ้วอย่างสงสัย พลางหันไปมองพริ้มที่เดินตามมาด้านหลัง ต้นไม้สูงเรียงราย แสงแดดลอดผ่านไม่ถึงพื้น เงาไม้พาดผ่านพื้นดินชื้น ๆ บรรยากาศชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูก มุกเดินนำเข้ามาในจุดที่ลึกกว่าเดิม ก่อนจะหยุด หันกลับมาพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย “ก็แค่อยากคุยแบบส่วนตัวน่ะ...” ยังไม่ทันที่เมษาจะได้ตอบอะไร— เสียงฝีเท้าหลายคู่ก็ดังขึ้นจากด้านข้าง แพรว, แนน และสาว ๆ อีก 4 คน กรูเข้ามาล้อมวงอย่างพร้อมเพรียง “ว้าว บังเอิญเจอกันจริง ๆ เลยน้า~” แพรวแกล้งแย้มยิ้ม น้ำเสียงหวาน แต่แววตาเหี้ยมเกรียม พริ้มหันซ้ายขวาอย่างระแวง ก้าวขยับมาใกล้เมษาทันที “เล่นอะไรของพวกเธอ?” พริ้มถามเสียงเขียว “จะตบสั่งสอนน่ะสิ” แนนขยับเข้ามาหนึ่งก้าว ยกยิ้มร้าย “ใครใช้ให้ทำตัวใกล้ชิดพี่คีตะเกินหน้าเกินตา” เมษาถอนหายใจเบา ๆ พลางกระซิบกับพริ้มโดยไม่ละสายตาจากกลุ่มตรงหน้า “แกไปยืนหลบตรงต้นไม้ข้างหลังนะ” “หา? เดี๋ยวสิเมษา—” “เร็วพริ้ม” เสียงของเธอเรียบเย็นขึ้นผิดปกติ จนพริ้มชะงัก ก่อนจะถูกเมษาผลักเบา ๆ ออกนอกวง แล้วเมษาก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับสาวทั้งหกคน ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับราวกับสนุกกับเหตุการณ์ตรงหน้า “แน่ใจนะ ว่าพร้อมเล่นกับฉัน?” น้ำเสียงหวานเจือความนิ่งเย็น ริมฝีปากคลี่ยิ้มเจือความน่ากลัว “ปากดี เดี๋ยวก็ได้เลือด” มุกตวาด ก่อนจะปรี่เข้ามาคนแรก แต่ทันทีที่เธอเงื้อแขนขึ้น— เพี๊ยะ! เสียงตบดังลั่นสะท้านไปทั้งป่า ใบหน้าของมุกสะบัดไปตามแรงฝ่ามือเมษา ก่อนร่วงลงไปกองกับพื้นสลบเหมือด “คนแรกไปแล้ว...” เมษาแสยะยิ้ม มือไล้ผมข้างหูเบา ๆ ขณะเอียงคอมองพวกที่เหลือ “ใครต่อดีน้า~?” “ยัยนี่…!!!” แพรวกรีดร้อง ก่อนสาว ๆ ที่เหลือจะกรูกันเข้ามาทันที จากนั้นก็กลายเป็นความชุลมุนวุ่นวาย ทั้งหมัด ทั้งตบ ทั้งถีบที่เมษาใช้จัดการกับทุกคนอย่างแม่นยำและเฉียบขาด ร่างบางเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว หลบการโจมตีด้วยจังหวะอันงดงาม ท่วงท่าพริ้วไหวราวนักเต้น ทว่ามือไม้ที่เหวี่ยงออกไป กลับเฉียบคมดั่งนักสู้ ทุกหมัดและฝ่ามือหนักราวกับก้อนหิน ไม่เกินห้านาที— หญิงสาวทั้งหมดก็นอนเกลื่อนรอบพื้น ใบหน้าแตกต่างกันไปตั้งแต่ฟกช้ำยันสลบคาพื้น พริ้มยืนพิงต้นไม้ ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบา ๆ “ให้ตาย...เห็นแบบนี้ทีไร ฉันจะเป็นลมทุกที” ตัดกลับมาปัจจุบัน— เมษานั่งยอง ๆ ข้างร่างของมุก ใช้ปลายนิ้วตบแก้มเบา ๆ เพื่อเรียกสติ “ตื่นเถอะน้า~ พี่บอกมีอะไรจะคุยกับฉันไม่ใช่เหรอคะ~?” “คุณหนูครับ” เสียงทุ้มเย็นแต่คุ้นหูดังขึ้นจากเงามืดหลังต้นไม้ใหญ่ เมษาเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตากลมโตเป็นประกาย “พี่คิน~!” เธอยิ้มหวานอย่างลั้นลา เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทดำปรากฏตัวออกมาจากเงาไม้ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขรึมตามสไตล์บอดี้การ์ดผู้เงียบขรึม เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนพูดด้วยน้ำเสียงติดเหนื่อยใจ “อีกแล้วเหรอครับ...” เมษาหัวเราะแหะ ๆ แล้วชี้นิ้วไปทางร่างของสาว ๆ ที่นอนระเกะระกะอยู่รอบพื้น “หนูฝากเก็บด้วยนะค้า~ แพรว แนน มุก แล้วก็…ไม่รู้จักชื่อพวกที่เหลือ แฮ่~” เธอยิ้มแหย ๆ พร้อมส่งมือถือของตัวเองให้อคิน “มีคลิปจากกล้องแอบถ่ายไว้ด้วย ฝากจัดการด้วยนะคะ เผื่อมีอะไรผิดพลาด หนูจะกลายเป็นจำเลยสังคมซะก่อน” “รับทราบครับ” อคินรับมือถือไป ก่อนจะหยิบของตัวเองขึ้นมากดส่งข้อความไปยังทีมสนับสนุนทันที ขณะนั้น พริ้มที่ยืนมองอยู่ข้างต้นไม้ก็ออกมาทักทาย “อะ…เอ่อ สวัสดีค่ะ พี่คิน” น้ำเสียงเธอเบาและติดประหม่าเล็กน้อย อคินหันไปสบตาแล้วยกคิ้วเล็กน้อย ก่อนพยักหน้ารับ “สวัสดีครับ คุณพริ้ม” “ฮู้ว~เขินไรยะ” เมษาแซวพร้อมยกศอกสะกิดพริ้มเบา ๆ “หุบปากเลยยัยเมษา!” พริ้มหน้าแดงจัดรีบตีแขนเพื่อนทันที “โอ๊ยย~ แซวเล่นหน่อยก็ไม่ได้ หืม~” เมษาหัวเราะร่า ก่อนจะหันกลับไปหาอคินอีกครั้ง “หนูกลับก่อนนะ เดี๋ยวพี่คีตะหาไม่เจอ” “ครับ เดี๋ยวผมจัดการที่เหลือเอง” เมษายกมือทำท่าตะเบ๊ะเหมือนทหารล้อเลียนอย่างน่ารัก แล้วกอดแขนพริ้ม “ไปค่ะเพื่อน~ เรากลับไปสแตนด์กันดีกว่า~” “เฮ้อ...เธอนี่ ทำยังกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ” พริ้มบ่นอุบ แต่ก็ยอมเดินตาม “ก็ไม่มีอะไรนี่นา~ แค่ยุงหกตัวบินมาแล้วโดนดีดตายแค่นั้นเอง” เมษาว่า พลางหมุนตัวเล่นอย่างสบายใจ พร้อมเดินกลับไปยังสแตนด์เชียร์...ก่อนที่คีตะจะซ้อมบาสเสร็จ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD