เสียงกระโดดเบา ๆ บนสแตนด์ชั่วคราว เสียงตะโกนจังหวะนับจากทีมลีดเดอร์ดังสลับกับเสียงนกหวีดของโค้ชบาสที่ยังสั่งให้ทั้งทีมวิ่งรอบสนามอย่างไม่มีหยุด
เสียงเป่านกหวีดของโค้ชบาสดังถี่ ๆ เป็นจังหวะ
“รอบสุดท้ายแล้ว! ขาสูง! อย่าลาก!”
ทีม R.C.U. Hawks วิ่งเป็นแถวเวียนรอบสนาม เหงื่อท่วมหลังแต่ยังไม่มีใครบ่นสักคำ—โดยเฉพาะคีตะที่ยังรักษาจังหวะวิ่งของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ดวงตาคมมองตรงไปข้างหน้า แต่สังเกตทุกอย่างรอบตัวเสมอ
อีกฟากหนึ่ง—บนแสตนด์เชียร์
ทีมเชียร์ลีดเดอร์ R.C.U. Crown ซ้อมเต้นกันอย่างกระตือรือร้น ท่าประสานของแต่ละคนเริ่มเข้าจังหวะมากขึ้น เสียงนับจังหวะจากหัวหน้าทีมดังขึ้น
“ห้า หก เจ็ด แปด! เตะ! หมุน! ชูมือ!”
เมษาอยู่ในแถวหน้า ท่าทางคล่องแคล่วเช่นเคย เธอเผลอยิ้มเล็กน้อยกับตัวเอง เพราะเมื่อครู่แอบเห็นคีตะวิ่งผ่านขอบสนาม—แม้เขาจะไม่ได้มองกลับมา แต่แค่นั้นก็ทำให้เธอใจฟูแล้ว
ทว่า...ในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ —
“โอ๊ะ! ขอโทษทีเมษา~”
เสียงพร้อมกับแรงกระแทกจากด้านหลังดังขึ้น แรงชนแม้ไม่รุนแรงมากนัก แต่มากพอให้ร่างเล็กเสียหลักบนขั้นบันไดแคบ ๆ ของสแตนด์ที่ต่อชั่วคราว
เสียงกรีดร้องของบรรดารุ่นพี่เชียร์ลีดเดอร์ดังขึ้นด้วยความตกใจ
เมษารู้ว่าแผ่นไม้ใต้เท้าไม่มั่นคง จึงพยายามบิดตัวในอากาศเพื่อเลี่ยงแรงกระแทกใส่จุดสำคัญ
‘ต้องหมุนตัว เพื่อลดแรงกระแทก’
แต่ไม่ทัน
“เมษา!!”
เสียงของเขาดังขึ้นจากด้านล่าง
ตุบ!
วงแขนแข็งแรงคว้ารับร่างของเธอไว้ได้ทันเวลา อ้อมกอดอบอุ่นและมั่นคงทำให้หัวใจเมษาเต้นระส่ำ
“พะ...พี่คีตะ?”
ดวงตาเธอเบิกกว้างอย่างตกใจ มือทั้งสองข้างเผลอกำเสื้อของเขาไว้แน่น ร่างทั้งร่างแนบชิดกับอกแกร่งจนหัวใจของเธอเต้นแรงมาก
คีตะไม่ได้พูดอะไร สายตาคมกริบของเขาเหลือบมองขึ้นไปบนแสตนด์ แล้วเห็นร่างของมุกยืนอยู่ — พร้อมกับรอยยิ้มแห้ง ๆ และแววตาหวาดหวั่นเล็กน้อย
ก่อนเขาจะลดสายตากลับลงมามองคนในอ้อมแขน
“เธอเจ็บตรงไหนมั้ย?” น้ำเสียงนิ่ง แต่แฝงด้วยความร้อนรนที่ปิดไม่มิด
เมษาขยับตัวลงจากอ้อมแขนอย่างเก้ ๆ กัง ๆ พยายามยืน แต่ทันทีที่เท้าขวาแตะพื้น—
“อ๊ะ...” เธอร้องเบา ๆ แล้วเซเล็กน้อย
คีตะคว้าแขนไว้ทันที
“ตรงไหน?”
“ข้อเท้า...ข้อเท้าพลิกค่ะ”
คิ้วเข้มของเขาขมวดมุ่นทันที เขาอุ้มเธอขึ้น แล้วพาไปนั่งตรงม้านั่งข้างสนามอย่างรวดเร็ว ก่อนจะย่อตัวลงต่อหน้าเธออย่างไม่แคร์สายตาใคร
เสียงกรี๊ดบนสแตนด์ดังเบา ๆ เมื่อเห็นการกระทำของชายหนุ่ม
“ถอดรองเท้า”
เขาพูดสั่ง มือใหญ่ค่อย ๆ แก้เชือกรองเท้าออกอย่างระมัดระวัง แล้วรูดถุงเท้าเบา ๆ ข้อเท้าแดงเล็กน้อย ยังไม่บวม
“โชคดีที่ไม่บวมมาก แต่ต้องประคบน้ำแข็งทันที”
“พี่คีตะ...” เมษากะพริบตาปริบ ๆ ขณะที่มองเขานั่งกับพื้น ประคองเท้าของเธออย่างระวัง
หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวด...แต่เพราะแววตาแบบนั้นของเขา
“เงียบ” เขาพูดเบา ๆ โดยไม่มองหน้าเธอ
คีตะนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้า คิ้วเข้มขมวดแน่นขณะมองข้อเท้าเล็กที่แดงขึ้นมาเล็กน้อย มือใหญ่ไล้เบา ๆ เพื่อประเมินว่าเธอบวมตรงไหนบ้าง เมษานั่งนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ...เพราะอยู่ใกล้เขาเกินไป และหัวใจก็เต้นแรงแทบจะหลุดออกมาด้านนอก
เสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นตามด้วยเสียงเรียก
“เมษา!”
พี่เชอรี่รีบวิ่งมาพร้อมเพื่อนอีกคนในทีมเชียร์ ทั้งคู่ย่อตัวลงข้าง ๆ อย่างร้อนรน
“เป็นไงบ้าง? เจ็บมากมั้ย?”
พี่เชอรี่ถามเสียงรัว แต่สายตากลับชำเลืองมองไปที่คีตะด้วยเล็กน้อย
คีตะเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาคมสบกับเชอรี่ตรง ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่น
“ข้อเท้าพลิก ยังไม่บวม แต่ไม่ควรลงน้ำหนัก”
“...ต้องหยุดซ้อมใช่มั้ย?” เชอรี่ถามเสียงแผ่วลงนิดหน่อย
“ซ้อมดะ—” เมษากำลังอ้าปากจะตอบ แต่ต้องหุบปากทันทีเมื่อสายตาคมกริบตวัดมองเธอ
“ใช่” คีตะตอบสั้น ๆ แล้วหันกลับมารับถุงน้ำแข็งจากภูผาที่วิ่งไปหยิบมาให้
พี่เชอรี่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า
“อืม...ไม่เป็นไร ยังไงก็เหลือแค่รอบชิงชนะเลิศแล้ว”
“หายไว ๆ นะ เมษา” พี่เชอรี่บอก ก่อนเธอจะลุกขึ้นหันไปพูดกับเพื่อนอีกคน แล้วทั้งสองคนก็รีบเดินกลับไปยังทีมเชียร์ที่เริ่มหยุดซ้อมกันหมด
คีตะยังคงนั่งนิ่ง ก่อนจะเอาถุงน้ำแข็งแนบข้อเท้าให้เมษาอย่างเบามือ
“อย่าขยับ รอ 15 นาที เดี๋ยวพาไปห้องพยาบาล”
“แบบนี้หนูก็เต้นเชียร์พี่ไม่ได้น่ะสิ” เมษาหน้ามุ่ย พลางมองเท้าตัวเองอย่างขัดใจ
“ยังจะห่วงเชียร์อีกนะ” เสียงทุ้มต่ำตอบกลับ ดุเบา ๆ แต่แฝงความเอ็นดู
“...”
“ใครผลักเธอ?”
“คะ?” เมษาขมวดคิ้วกับคำถามนั้น
“ฉันเห็น” เขาพูดเรียบ ๆ ดวงตานิ่ง แต่แฝงความไม่พอใจลึก ๆ
เมษาเม้มปากแน่น ก่อนจะตอบ
“...หนูว่าพี่เขาคงไม่ได้ตั้งใจค่ะ”
เขายังคงจ้องหน้าเธอ เหมือนจะอ่านความคิดทุกอย่างที่เธอพยายามปิดไว้ แล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ พลางยกมือขึ้น ลูบศีรษะเธอเบา ๆ
“อย่าทำอะไรเกินตัวล่ะ”
มือใหญ่ลูบผ่านเส้นผมเธอด้วยความอ่อนโยนเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วหันหลังเดินตรงไปยังโค้ชบาส
เสียงบทสนทนาเบา ๆ ดังขึ้น
“โค้ชครับ ผมขอกลับก่อน พาเมษาไปห้องพยาบาล”
โค้ชพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรมาก—เพราะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ก่อนแล้ว
คีตะเดินกลับมา ก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“ปะ กลับกัน”
เธอกำลังจะลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เขาก็โน้มตัวลง แล้ว—
“ว้าย พี่คีตะ!!”
เมษาอุทานเสียงหลง เมื่อร่างของเธอถูกช้อนขึ้นในท่าเจ้าสาวแบบไม่ทันตั้งตัว
สองแขนโอบรอบคอเขาโดยอัตโนมัติ ใบหน้าแดงซ่านร้อนผ่าวจนแทบจะระเบิด
“เดินไม่ได้ ก็อยู่เฉย ๆ”
คีตะบอกเสียงเรียบ ก่อนอุ้มเธอเดินออกจากสนามบาส ท่ามกลางเสียงฮือฮา และเสียงกรี๊ดระงมจากเหล่าเชียร์ลีดเดอร์ และทีมฝึกซ้อมที่มองตามอย่างตาค้าง
🌸🌸🌸
เสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ดับลงหน้าบ้านใหญ่ คีตะดับมอเตอร์ไซค์แล้วลงจากรถ ก่อนจะหันไปพยุงเมษาที่ซ้อนท้ายอยู่ลงมาอย่างระวัง ร่างเล็กยังเกาะแขนเขาไว้แน่นเพราะเจ็บข้อเท้าเล็กน้อย
“เหยียบข้างซ้าย...เบา ๆ”
“ค่ะ…” เมษาพยักหน้า
คีตะเปิดประตูรั้ว เดินพาเธอเข้าไปในบ้าน ทันทีที่เปิดประตู—
“คีตะ ลูก…อ้าว หนูเมษา เป็นอะไรล่ะนั่น”
คุณอัญญาก้าวออกมาจากครัวด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นลูกชายพยุงเมษาเข้ามา
“ข้อเท้าแพลงนิดหน่อยค่ะ คุณน้า”
คุณอัญญารีบวางผ้ากันเปื้อนลงบนโต๊ะข้าง ๆ แล้วก้าวมาหาอย่างห่วงใยทันที
“ตายจริง…เจ็บมากมั้ยลูก?” น้ำเสียงแผ่วอ่อนโยน ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
เมษาส่ายหน้ารัว ๆ
“ไม่มากค่ะ แค่นิดเดียวจริง ๆ ค่ะ”
คีตะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลับพูดแทรกขึ้นทันที น้ำเสียงทุ้มต่ำเรียบ ๆ แต่ชัดเจน
“ไม่ใช่นิดเดียว ต้องประคบเย็นทันที ถ้าปล่อยไว้จะบวม”
“อ้าว…พูดเหมือนหมอเลยนะเรา” คุณอัญญาหันไปมองลูกชายแล้วหัวเราะเบา ๆ แต่สายตาก็เต็มไปด้วยแววเอ็นดู ก่อนจะหันกลับมามองเมษาอีกครั้ง
“ไป ๆ ไปนั่งที่โซฟาก่อน”
คีตะไม่รอช้า พยุงร่างเล็กให้เดินช้า ๆ ไปยังโซฟาในห้องรับแขก มือหนาวางประคองแขนเล็กแน่น ราวกับกลัวเธอจะล้ม
เมษาหน้าแดงเล็กร้อนวูบ ใจสั่นเต้นระรัว
ใกล้เกินไปละค่า พี่คีตะ~ หนูจะเป็นลม
“เดี๋ยวแม่ไปหยิบน้ำแข็งให้”
คุณอัญญายิ้มอ่อนโยน แล้วเดินเข้าครัวไป
คีตะจัดการให้เมษานั่งลงเรียบร้อย ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอ มือใหญ่จับข้อเท้าเล็กตรวจเช็กอย่างใจเย็น
“อึ่ก...” เมษาสะดุ้งเฮือก แต่กัดปากกลั้นเสียง ดวงตาคมของเขาเงยขึ้นมามองทันที แววตำหนิชัดเจน
“เห็นมั้ย แค่แตะนิดเดียวก็เจ็บ” น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ฟังแล้วใจสั่นกว่าโดนดุจริง ๆ
“มะ…ไม่เจ็บหรอกค่ะ หนูทนไหว” เธอส่ายหน้าแรง ๆ พยายามปฏิเสธ แต่เสียงสั่น
คีตะจ้องหน้าเธอ ดวงตาคมเหมือนอ่านทะลุความคิดทุกอย่าง เมษานั่งนิ่ง หายใจไม่ทั่วท้อง
ไม่นาน คุณอัญญาก็กลับมาพร้อมถุงน้ำแข็งพันผ้า ยื่นให้ลูกชาย
“ดูแลน้องดี ๆ นะ แม่ไปทำกับข้าวต่อ”
คีตะรับถุงน้ำแข็งมาก่อนจะเริ่มประคบให้ เขาทายาและพันข้อเท้าให้เรียบร้อย ขณะที่เมษานั่งซึม ใจเสียกับความคิดว่า— รอบชิงฯ เธอคงไม่ได้เต้นเชียร์เขาตามที่ตั้งใจ
คีตะเหลือบตามองหญิงสาวตัวเล็ก ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ
“รอบชิงฯ ไปนั่งเชียร์ตรงทีมก็ได้ เดี๋ยวฉันบอกโค้ชให้”
เมษาตาโตวาววับทันที
“จริงเหรอคะ!!”
“อืม”
เมษาแทบจะเด้งขึ้นมาเต้นโคฟเวอร์ K-pop ให้ดูตรงนั้นเลย หัวใจเธอกรีดร้อง—กรี๊ดดด! อยากจัดคอนเสิร์ตขอบคุณพี่คีตะให้ลืมโลกไปเลยค่า!