ตอนที่ 10 เมษา...ไม่ได้มาเล่น ๆ

1794 Words
ค่ำคืนในบ้านเล็ก ๆ เงียบสงบ หลังจากบรรยากาศการแข่งขันที่จบลง—เสียงช้อนกระทบจานดังแผ่วเบาในครัว ก่อนจะเงียบสนิทลงหลังจานสุดท้ายถูกล้างเก็บเข้าที่ เมษาเดินกลับเข้าห้อง พร้อมกล่องปฐมพยาบาลสีขาวที่แน่นไปด้วยอุปกรณ์ครบชุด กล่องนี้...เธอเตรียมไว้ตั้งแต่วันที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่...ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้จริงแบบนี้ ก๊อก ก๊อก “พี่คีตะ หนูเข้าไปนะคะ” เธอเคาะเบา ๆ ก่อนเปิดประตูห้องเข้าไป คีตะที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ นั่งอยู่ปลายเตียงในเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงวอร์ม ผมเปียกหมาด ๆ ยังไม่ทันเช็ดแห้งดี กลิ่นสบู่อ่อน ๆ ลอยฟุ้งในอากาศ “ถืออะไรมาน่ะ?” เขาเลิกคิ้วนิด ๆ “กล่องปฐมพยาบาลค่ะ” เธอยกขึ้นโชว์ แล้วนั่งลงข้าง ๆ เขาบนเตียง “ขอหนูดูแผลหน่อยได้มั้ยคะ? คีตะยิ้มมุมปาก “ฉันไม่ได้เจ็บมากซะหน่อย” แต่ก็ยอมขยับตัวให้เธอเช็กร่างกายอย่างว่าง่าย เมษาเปิดกล่องออก หยิบสำลี ยาทาฟกช้ำ และพลาสเตอร์ออกมาวางเรียง “ไหน...พี่เจ็บตรงไหนบ้างคะ?” เธอถามพลางโน้มตัวเข้าไปใกล้ มือเล็กแตะเบา ๆ บนต้นแขนของเขา “ตรงไหล่นิดหน่อย กับหลังมือ...แล้วก็ตรงสีข้างมั้ง” เสียงเขาฟังดูสบาย ๆ ราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ดวงตาคมกลับจ้องมาที่เธอ...นิ่ง ลึก และคาดเดาไม่ได้ คิ้วเรียวของเมษาขมวดเข้าหากันทันที “เจ็บขนาดนั้นแล้วบอกว่านิดหน่อยได้ไงเนี่ย...” เธอบ่นเบา ๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง มือเล็ก ๆ ของเธอหยิบสำลีขึ้นมา แช่แอลกอฮอล์เล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเขา คีตะนั่งนิ่ง ให้เธอจัดการตามสบาย เธอใช้แอลกอฮอล์เช็ดเบา ๆ ตรงหลังมือของเขา ค่อย ๆ เป่าลมเบา ๆ แล้วแปะพลาสเตอร์ลายแมวน้อยน่ารักลงไป “หึ ลายอะไรเนี่ย” คีตะหลุดหัวเราะเบา ๆ “แมวน้อย~ หนูว่าเหมาะกับพี่ดีออก” เธอยิ้มหวาน ก่อนโน้มหน้าเข้าไปใกล้ แล้วกระซิบ “เวลาเจ็บ...ต้องมีอะไรน่ารัก ๆ ไว้ปลอบใจสิคะ” คีตะชะงักไปเสี้ยววินาที แววตาอ่านยากของเขาเริ่มมีประกายบางอย่างขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนที่เธอจะขยับตัวมาอีกนิด...ไปแตะไหล่ที่มีรอยฟกช้ำ “ขอโทษนะคะ มันอาจจะเจ็บหน่อย” เธอพูดเสียงอ่อน สายตาจับจ้องที่แผลฟกช้ำของเขา นิ้วเรียวของเมษาจุ่มครีมทายาเบา ๆ แล้ววางลงบนไหล่กว้างตรงรอยช้ำ ปลายนิ้วนุ่มนิ่มกดลงอย่างแผ่วเบา แต่คีตะกลับรู้สึกร้อน...แบบประหลาด เธอไม่พูดอะไรต่อ แค่...ตั้งใจทายาให้เขา ใกล้...มากพอจนเขาได้ยินเสียงลมหายใจของเธอ คีตะกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ดวงตาคู่คมเผลอมองเธอใกล้เกินไป — ใจเขากำลังสั่น ทั้งที่ภายนอกดูนิ่งราวไม่มีอะไร “พี่คีตะ...” เมษาเอ่ยขึ้น ขณะกดปลาสเตอร์ปิดแผลอีกจุดหนึ่ง “ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก...หนูกลัวแทบแย่” เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะมีเสียงพูดเบา ๆ จากเขา “...ขอบคุณนะ” คำขอบคุณเรียบ ๆ แต่กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ เมษาพยักหน้า หลังจากทายาเสร็จก็จัดการเก็บยาและปิดกล่อง “เรียบร้อยแล้วค่ะ หมดคิวพยาบาลคืนนี้แล้วว~” เธอยิ้มหวาน ลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่ทันทีที่เปิดประตู... “เมษา” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เธอหันกลับไป คีตะนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาคู่นิ่งสบกับเธอ แล้วพูดเพียงแค่ประโยคเดียว... “ฝันดีนะ...คุณพยาบาลแมวน้อย” เมษาหลุดหัวเราะออกมา “หลับฝันดีนะคะ พี่คนเก่งของหนู” ประตูปิดลงเบา ๆ ทิ้งให้ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง คีตะมองฝ่ามือตัวเองที่มีพลาสเตอร์แมวน้อยแปะอยู่ ก่อนจะหลุดยิ้มบาง ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว “ยัยจิ๋วเอ๊ย...” เขาพึมพำเบา ๆ พร้อมยกมือขึ้นแตะไหล่ตัวเองตรงที่เธอทายา หัวใจของเขา...ทำไมสั่นไหวแปลก ๆ 🌸🌸🌸 ทันทีที่ประตูห้องคีตะปิดลง รอยยิ้มหวานประจำตัวของเธอก็ค่อย ๆ จางหาย... 📞 Rrrrrrr— เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันที “ว่าไงคะ พี่คิน?” เมษากดรับ ขณะเดินผ่านโถงบ้านตรงไปยังห้องนอนตัวเองด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจอเป้าหมายของคุณหนูแล้วครับ หมายเลข 12 SUT — ชื่อ วาริท กำลังเมาอยู่ในผับ The Yard ย่านกลางเมือง” เสียงของอคินราบเรียบ มืออาชีพเหมือนเคย “แต่ที่สำคัญคือ...มันกำลังคุยกับ ‘กาย’ นักเลงคุมซอยหลังร้านเกมที่เคยมีข่าวยิงกันนั่นแหละ” “...” เมษานิ่งไปเพียงอึดใจ ก่อนจะพูดเพียงสั้น ๆ “เดี๋ยวหนูไปค่ะ” จากนั้นเธอก็วางสาย กำหมัดแน่น ‘ใช้วิธีสกปรกใส่พี่คีตะใช่มั้ย...?’ ‘งั้น...ก็รับผลของการเลือกแบบสกปรกละกัน’ ทันทีที่เธอปิดประตูห้องนอนของเธอ ก็จัดการล็อกห้องทันที ไม่มีใครเห็นอีกด้านหนึ่ง...สาวน้อยวัยใสที่มักหัวเราะง่าย กลายเป็นอีกคน เธอเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์สกินนี่เข้ารูป รองเท้าคอมแบทที่ดูแทบไม่เคยได้ใส่ในชีวิตปกติ มัดผมหางม้าแน่น เรียบ หยิบแมสสีดำขึ้นมาสวม—ซ่อนครึ่งหน้าที่เคยแย้มยิ้ม แววตาที่สะท้อนในกระจก...คือแววตาของคนที่โกรธขั้นสุด เธอเปิดหน้าต่างห้องนอนชั้นสองออกอย่างคล่องแคล่ว ก่อนปีนลงมาตามรั้วที่หลังบ้าน รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดรออยู่เงียบ ๆ ตรงถนนข้างบ้าน บนเบาะคือชายหนุ่มร่างสูง ผิวเข้ม แต่งตัวเรียบ ๆ แต่ดวงตามีแววอันตราย... อคิน — บอดี้การ์ดหนุ่มผู้เป็นมากกว่าบอดี้การ์ดธรรมดา เขาหันมา เมื่อเมษากระโดดลงมายืนบนพื้น “พร้อมนะครับ?” “เสมอค่ะ” เมษาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะคร่อมซ้อนท้าย มือเธอจับหลังเบาะแน่น ดวงตากลมสวยมองนิ่งไปด้านหน้า “ให้มันรู้ว่า...การมายุ่งกับพี่คีตะ มันจะเจออะไร” อคินหัวเราะหึ ๆ “คุณหนูยังคงแสบเหมือนเคยนะครับ” “พูดมากน่ะ พี่คิน รีบไป” เมษาบอก พร้อมจับเบาะให้มั่น บรืนนนนนน!!!! เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นกลางคืนอันเงียบงัน รถพุ่งออกไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงแสงไฟท้าย...กับกลิ่นอันตรายที่เริ่มโชยมา คืนนี้...นางฟ้าตัวน้อย จะกลายเป็น ยมทูตเงียบ และหมายเลข 12...จะไม่มีวันลืมว่า เขา ‘ยุ่งผิดคนเสียแล้ว’ ... เวลา 01:12 น. — ในซอยเปลี่ยวหลังตึกแถวร้าง กลางกรุงเทพฯ บรรยากาศเงียบผิดปกติ มีโกดังเก่าหลังหนึ่ง ที่ไม่มีใครใช้แล้วมานานหลายปี ประตูเหล็กบานใหญ่แง้มไว้เพียงครึ่งเดียว แสงไฟสีส้มสลัวลอดออกมาท่ามกลางความมืด กลิ่นบุหรี่ราคาถูกและเสียงหัวเราะหยาบ ๆ ลอยออกมาพร้อมกับเสียงเจรจาที่ฟังไม่ค่อยชัด “…ทำยังไงก็ได้ให้มันลงแข่งไม่ได้” เสียงห้าวต่ำของวาริท — ผู้เล่นหมายเลข 12 ของ SUT เอ่ยขึ้น น้ำเสียงมีความขุ่นเคือง เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหนังเก่า ๆ มีขวดเบียร์วางเกลื่อนโต๊ะด้านหน้า ข้าง ๆ กันคือ กาย นักเลงคุมซอยที่สวมเสื้อแขนสั้น โชว์รอยสักเต็มแขน กับลูกน้องอีกสองคนที่ยืนค้ำข้างประตู “กูต้องการให้คนของมึงจัดมันให้เนียน ๆ …แบบเจ็บแต่ไม่มีหลักฐาน เข้าใจใช่มั้ย?” วาริทยื่นเงินปึกหนึ่งไปตรงหน้า กายรับเงินมานับอย่างไม่รีบ พร้อมหรี่ตาลงด้วยท่าทางน่าเกรง “อยากให้เนียน มันก็ต้องแพงขึ้นนะมึง...แต่ถ้ามึงอยากให้มัน ‘ไม่โผล่สนามอีก’ ง่ายกว่ามาก” ทั้งห้องหัวเราะ—ทันใดนั้น... ปึง!!! เสียงประตูเหล็กถูกถีบเปิดกระแทกเข้ามาสุดแรง “เฮ้ย!!” ทุกคนหันขวับไปทางต้นเสียงทันที ร่างของเมษาในชุดสีดำทั้งตัว ใส่แมสสีดำ มัดผมหางม้าสูง ปรากฏอยู่ที่กรอบประตู ท่ามกลางเงาสลัวของหลอดไฟที่กะพริบไม่หยุด พรึ่บ!! ร่างของเมษาพุ่งเข้าใส่วาริทด้วยความเร็วที่ฝึกปรือมาอย่างเชี่ยวชาญ ผัวะ!! หมัดขวาของเธอเสยเข้าข้างแก้มวาริทเต็มแรง จนเขากระเด็นล้มลงจากโซฟาแบบไม่ทันตั้งตัว “อั่กกก!!” วาริทร้องลั่น เลือดซิบมุมปากทันที ลูกน้องของกายจะวิ่งเข้ามา—แต่ไม่ทันถึงตัวของเมษา ตุบ! เสียงหมัดอีกลูกจากเงาในความมืด—อคินโผล่มาจากข้างหลัง อัปเปอร์คัทใส่ชายคนนั้นลอยตีลังกาไปฟาดกำแพงทันที “ห้ามแตะต้องเด็กของฉัน” เสียงอคินต่ำเรียบ แค่เสียงก็สามารถขู่ให้ขนลุกได้ กายลุกขึ้น คำราม “ใครวะ!! บังอาจเข้ามาป่วน—” ผัวะ!! เมษาหันขวับ เตะก้านคอกายจนทรุดตัวลงทันที ร่างชายร่างยักษ์ทรุดลงกับพื้น พร้อมเสียงหอบหนัก ๆ “พูดมาก...” เมษากดเสียงต่ำผ่านแมส วาริทพยายามคลานหนี เมษากระชากคอเสื้อขึ้นมาตรง ๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยแสยะยิ้มกลับซีดเผือด ดวงตาสั่นระริก “อย่าทำกูเลย...” เขาพูดเสียงสั่น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เพราะอะไรหญิงสาวคนนี้ถึงได้อัดเขาจนเละขนาดนี้ “แล้วทีแกจงใจชนพี่เขาล้ม ทำไมไม่คิด?” “ไอ้คีตะงั้นเหรอ?” วาริทเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ผัวะ!!! กำปั้นเล็ก ๆ ซัดเข้าหน้าทันที ทำเอาวาริทปากแตก เลือดไหลออกมาหนักกว่าเดิม ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อว่า หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ตรงหน้า...จะมือหนักตีนหนักขนาดนี้ “จำไว้นะ ไอ้ขยะ...” เมษากระซิบเสียงต่ำข้างหู ดวงตาวาววับเหมือนแมวป่า “อย่ามายุ่งกับเขาอีก ไม่งั้นตาย!!” เธอผลักร่างวาริทกระแทกกับพื้นเสียงดัง ก่อนหันไปหาอคินที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอย่างใจเย็น “ลบกล้องวงจรปิดให้หมด” “แล้วโทรเรียกรถฉุกเฉินให้พวกมันด้วย...ก่อนจะนอนเลือดหมดตัว” อคินพยักหน้า ก่อนกดโทรศัพท์อย่างไม่รีบร้อน เมษาเหลือบตามอง ก่อนเหยียดยิ้มในแมสสีดำ “ใครทำพี่เขาเจ็บ ก็ต้องเจ็บกว่าสองเท่า” และเธอก็เดินออกจากโกดังไป...โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD