เอมมิกาเดินทางมายัง ‘จุดนัดพบ’ เจ้าหนี้หน้าเลือด ด้วยหัวใจที่ยังเต้นกระหน่ำไม่หยุด เธอไม่แน่ใจว่าการมาของตัวเองจะเกิดผลมากน้อยแค่ไหน แต่เพื่อป้ากับพี่สาวแล้ว เธอยอมทำทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะยากเย็นสักแค่ไหน ขอแค่สิ่งนั้นมันเปลี่ยนใจ ‘เขาคนนั้น’ ได้ เธอพร้อมจะทำทุกอย่างจนกว่าเขาจะยอมใจอ่อน!
“คุณ...คือคนที่คุณหญิงส่งมาใช่ไหมครับ” ผู้ชายวัยกลางคนที่เดินออกมารับกันเอ่ยถามขึ้น เหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก แต่แถวนี้นอกจากคนตรงหน้าแล้ว เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีใครคนไหนสวมชุดสีฟ้าครามตามคำบอกกล่าว ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้อีกเลย
‘ดิฉันส่งคนไปเจรจาเรื่องหนี้สินที่ทางเราติดค้างเอาไว้ ได้โปรดให้เธอเข้าพบเจ้านายของคุณสักครั้งเถอะนะคะ ถือว่าฉันขอร้องก็ได้ จะให้ไหว้ฉันก็ยอม เธอสวมชุดเดรสสีฟ้าคราม ตัวเล็กๆ คุณหาเธอเจอไม่ยากนักหรอก ไม่แน่บางทีเธออาจเปลี่ยนใจเจ้านายคุณเรื่องหนี้…’ ไม่ทันที่เขาจะได้รับปากอะไรกลับไป อีกฝ่ายก็ชิงวางสายหนีไปเสียก่อน ทำให้เขาต้องวิ่งหน้าตั้งลงมารับแขกยามวิกาลอย่างเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งเจ้านายเองก็อยากเจอคนที่ฝ่ายนั้นส่งมาเพื่อเจรจาเช่นกัน
‘ไปรับมา ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าฝ่ายนั้นจะมาไม้ไหน!’
“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือ...”
“ผมชื่อศาตราครับ นายให้ผมมารับคุณขึ้นไปพบข้างบน” เอมมิกาพยักหน้ารับทราบ ก่อนจะเดินตามชายคนดังกล่าวไปยังลิฟต์วีไอพี ที่รู้เพราะมีแค่เธอกับเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์ขึ้น ในขณะที่คนอื่นนั้นต้องไปใช้ตัวถัดไป
หญิงสาวถูกพามายังห้องๆ หนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นห้องที่ดีที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ เธอเรียกความกล้าให้ตัวเองอยู่ครู่ใหญ่ เพื่อเงยหน้าขึ้น หลังจากที่ก้มมันอยู่นาน นับตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในห้องนี้ ห้องที่มีใครบางคนนั่งรอเธออยู่ที่โซฟามุมห้องด้วยท่าทีปกติ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลยกับการมาของเธอ
“ฉันชื่อเอมมิกาค่ะ เป็นหลานสาวของคุณลุงปราบ ลูกหนี้ของคุณ” เธอกล่าวแนะนำตัวเองเพียงสั้นๆ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะบอกเรื่องราวของตัวเอง ให้กับคนตรงหน้าได้รับรู้ไปมากกว่านี้ ยิ่งเห็นสายตาของเขาที่มองมา ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ถูกชะตาด้วย คนที่ใช้สายตาเหยียดหยามยามมองคนอื่น คงไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก! ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากจะตัดสินคนแค่ภายนอกหรอกนะ แต่เพราะสายตาของเขาตอนนี้ มันบอกให้เธอรู้ว่าเขาคงเป็นคนแบบนั้นจริงๆ
เขาคงคิด...ว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกจะต้องหลงมัวเมาไปกับรูปโฉมอันน่าหลงใหลของเขาอย่างนั้นสินะ แต่เสียใจด้วยที่เธอคงเป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่ไม่ได้รู้สึกสนใจสิ่งเร้าตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอมีความเชื่ออยู่อย่าง ว่าคนเราจะดีร้าย ไม่ได้อยู่ที่หน้าตาหรือฐานะทางสังคมแต่อย่างใด หากแต่เป็นจิตใจต่างหากที่สำคัญ ซึ่งคนตรงหน้านี้คงไม่มีวันเข้าถึงความจริงที่ว่า
เพราะนอกจากตัวเองแล้ว เขาคงรักใครไม่เป็น!
“นึกว่าคุณหญิงจะส่งคนที่น่าเชื่อถือกว่านี้มาเจรจากับผม” เจ้าของห้องเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีดูแคลน ก่อนจะเอ่ยต่อเมื่ออีกคนยังคงเลือกที่จะเงียบ ซึ่งมันเป็นความเงียบที่เริ่มทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียทั้งเวลา และอารมณ์
“ว่าธุระของคุณมาสักที ผมไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งรอฟังคุณทั้งคืน!” แต่ไหนๆ ก็กล้ามาถึงที่นี่แล้ว เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าท่าทีจองหองอวดดีของคนตรงหน้านั้น จะมีทีเด็ดอะไรมาทำให้เขาเปลี่ยนใจ
“พี่สาวของฉันมีคนรักอยู่แล้ว และฉันคิดว่าคุณเองก็น่าจะทราบเรื่องนี้ดี!”เมื่อเขาบอกให้เข้าประเด็นเธอก็ไม่คิดขัดใจ จะได้รีบคุยรีบจบกันไป! อีกอย่างนอกจากเรื่องหนี้สินของผู้เป็นลุงกับป้าแล้ว เธอก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ต้องยืนอยู่ที่นี่ นานไปมากกว่านี้!
“แล้วไง เรื่องนั้นผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องหนี้ที่ทางคุณติดผมอยู่ตรงไหน” เขาไม่สนว่าสิตาจะมีคนรักหรือไม่ สิ่งเดียวที่เขาสน คือเขาต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ
และนั่นมันก็รวมถึงตัวของผู้หญิงคนนั้น ที่ต้องกลับไปกับเขาในฐานะแม่ของลูก ตามเงื่อนไขที่เขาหยิบยื่นให้ ส่วนเรื่องอื่นก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหล่อนแล้ว ที่จะต้องจัดการตัวเองให้พร้อม ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นคนจัดการทั้งหมด ส่วนจะด้วยวิธีไหนนั้น ก็คงสุดแล้วแต่ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ใดตอนสั่งการมันก็เท่านั้น!
“คุณไม่กลัวบาปกรรมเหรอคะ ที่อยู่ๆ จะมาพรากพวกเขาออกจากกันแบบนี้” คนเช่นเขา ตายไปคงไม่พ้นตกนรก หรือเขาคิดว่าตัวเองสูงส่งนักหนา เลยคิดจะทำแบบไหนกับใครยังไงก็ได้
เธอเกลียดคนแบบนี้ที่สุด แค่คิดภาพพี่สาวที่น่ารักของเธอ จะต้องไปอยู่ร่วมชายคากับคนนิสัยเสียอย่างเขา ก็แทบทนไม่ได้
พี่ตาเป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน ในขณะที่คนตรงหน้าของเธอดูไร้หัวใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่เหมาะสมกับพี่สาวของเธอแม้แต่น้อยไม่ว่าจะมองมุมไหน!เพราะอย่างนั้นต่อให้สิ่งที่ต้องมันจะยาก เธอจะทำทุกทางเพื่อให้เขาเปลี่ยนใจจากพี่สาวของเธอ!
“บาปบุญหน้าตาเป็นแบบไหนผมไม่รู้หรอกนะ! ที่ผมรู้คือเป็นหนี้ต้องชดใช้! และเท่าที่เห็น…ผมเองก็ใจดีกับครอบครัวคุณมามากพอแล้ว!” ทว่าเมื่อเจอเข้ากับคำสวนนี้เข้าไป ก็กลับกลายเป็นเธอที่ได้แต่แน่นิ่งเงียบ เพราะเขาพูดถูกทุกอย่าง ไม่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง ที่มันกำลังเกิดขึ้นอยู่เลยแม้แต่คำเดียว!
“ทะ...ทางเราก็ไม่คิดจะหนีไปไหน ขอแค่คุณช่วยให้เวลาอีกหน่อย...” ยิ่งพูด เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงเรื่อยๆ ในขณะที่เขายังตัวเท่าเดิม เพิ่มเติมคืออยู่เหนือเธอทุกอย่าง ไม่แปลกเลยที่เขาจะทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น ไม่ว่าจะสายตาหรือท่าทาง เขาก็ดูน่ากลัวไปหมด!
“เผอิญว่าผมไม่ใช่พวกใจบุญขนาดนั้นเสียด้วยสิ! ก็อย่างที่คุณคิด...ผมมันเป็นพวกใจบาปปากหมา! ถ้าไม่มีเงินมาคืนให้ ก็ชดใช้ด้วยสิ่งที่ผมเสนอไป หรือถ้าไม่...ทั้งตัวคุณ พี่สาวคุณ รวมไปถึงป้าคุณ ก็ต้องไสหัวออกไปจากบ้านหลังนั้นภายในวันนี้! แต่แค่บ้านเก่าโทรมๆ หลังเดียวหักลบแล้วคงได้ไม่เกินสองล้าน ที่เหลือก็รอรับหมายศาลเอาแล้วกัน!” เขาบีบทุกทางเหมือนจะบอกให้รู้ ว่าเวลาแห่งการต่อรองนั้นใกล้จบลงแล้ว