''สวัสดี'' หญิงสาวร่างบางเงยหน้าขึ้นทักทายพวกเทพ
''โฮชิ'' เก่งกล่าวพร้อมกับปากที่เริ่มยิ้มกว้าง
''เก่ง...'' โฮชิเรียกชื่อของเก่ง
''ในที่สุดเราก็ได้พบกัน'' เก่งเดินไปอ้าเเขนกอด
เเฟนของตน
''อื้ม'' โฮชิยิ้มหวานก่อนจะเดินเข้าไปในอ้อมกอดของเก่ง
''มดขึ้นล่ะ'' เทพละสายตาจากคู่รักไปมองเพื่อนของตนที่กำลังเดินมาหาพวกตน
''หัวหน้ากิลด์รึเปล่า?'' มีหนึ่งเสียงกล่าวมาจากทางที่โฮชิเดินมา
''หืม'' เทพจากที่มองกลุ่มบอสอยู่จึงหันกลับไปมองต้นเสียงเเทน
''สวัสดีๆ'' เทพทักทายอย่างเป็นมิตรกับสามสมาชิกใหม่
''สวัสดี'' เสียงเย็นชากล่าวทัก
''??'' ทำให้ทั้งสามหันกลับไปกับการมาของหนึ่งบุคคล
''พี่จากัวร์''
''ผมลืมชวนพี่มาด้วยกัน''
''ไม่เป็นไรๆ'' สี่สมาชิกที่เพิ่งมายืนพูดคุยกัน
''อีกสองคนกว่าจะถึงอีกตั้งหนึ่งชั่วโมง''
''มารอที่ห้องรับเเขกก่อนก็ได้'' เทพกล่าวเเล้วเดินนำเข้าไปในห้างธาดา
''ห้องรับเเขก?'' สมาชิกใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าเทพเกี่ยวข้องกับบริษัทธาดาตกใจเล็กน้อย
''โห..ห้องรับเเขก''
''สวยมาก''
''ใช่เเล้ว..ห้างของเราเน้นความสวยงามเเละความสะดวกสบาย'' เทพยิ้มพร้อมกับแบมือเชิญสมาชิกกิลด์ของต้นเข้าไปในห้องซึ่งรับคนได้มากกว่าสามสิบคนทีเดียว
''ห้างของเรา!?'' สามสมาชิกที่ยังไม่รู้ต่างตกใจไปพร้อมกันต่างจากจากัวร์ที่พอจะคาดเดาได้
''ตามที่พวกนายคิดนั่นเเหละ'' เทพกล่าวให้ความสนิทสนม
''กิลด์เรามีเเต่คนใหญ่คนโตเหรอเนี่ย'' ทั้งสามคิดถึงอำนาจของเทพต่อห้างที่พวกตนกำลังอยู่
''ฉันยังไม่ได้เป็นประธานนะ'' เทพกล่าวดักไว้ก่อน
''ว่าเเต่กินอะไรกันมารึยัง?'' เทพกล่าวถามสมาชิกกิลด์ของตนในห้องรับเเขก
''นี่เพิ่งจะสิบเอ็ดโมง..พวกเรารอกินพร้อมกับสองนักธุรกิจก็ได้'' บอสตอบกลับเทพเชิงเกรงใจ
''ก็เเล้วเเต่'' เทพกล่าวจบก็นั่งลงบนโซฟาเพื่อดูกระเเสความดังของกิลด์ตนต่อเกมนี้
'ถึงจะมีเชิงลบกว่าสามสิบเปอร์เซ็นเเต่ยังไงเชิงบวกก็มากกว่า' เทพปล่อยวางพวกที่อิจฉาเเละอคติกับกิลด์ของตน
''ท่านเทพสงคราม~'' เสียงใสกล่าวล้อเลียนเจ้าของฉายา
''ฟอด'' เจ้าของฉายาหันไปหอมเเก้มคนชอบล้อเลียนทันที
''เหมียว..เหมียว'' เสียงโทรศัพท์ของเทพดังขึ้นทำให้สมาชิกกิลด์ในห้องหันมามองเทพเป็นตาเดียว
''ฮัลโหล?'' เทพที่รีบกดรับสายจึงไม่ได้ดูว่าใครเป็นคนโทรมาหาตน
''ลูกพาใครมาเหรอ..หลายคนเลย'' เป็นพ่อขอเทพที่โทรมาหาลูกชายของตน
''สมาชิกกิลด์ในเกมครับ'' เทพตอบไปตรงๆ
''อ้อ..งั้นก็ระวังๆหน่อยนะ'' พ่อของเทพเน้นคำว่าระวัง
'ระวังงั้นเหรอ..'
'อย่าบอกนะว่าอาเดชมัน...' เทพตาขวากระตุกทันทีเมื่อคิดว่าเจ้าอาคนดีกล่าวเรื่องเสียๆหายๆของตนกับคนอื่น
'อีกหนึ่งชั่วโมงจะมีพันธมิตรของบริษัทมาใช้งานห้องรับเเขก' เทพอ่านข้อความที่ถูกส่งมาจากบุลคลลึกลับก็เริ่มมีอารมณ์โกรธทันที
'คุณเเบงค์มีรถอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตไหม?' เทพส่งข้อความถามคุณเเบงค์เพราะเรื่องนี้ต้องให้คุณเเบงค์ที่มีอำนาจด้านธุรกิจช่วยเหลือเเละที่เทพถามคุณเเบงค์ก็เพราะว่าคุณเเบงค์เป็นถึงประธานบริษัทท่องเที่ยวน่าจะมีรถหรือสิ่งของที่จังหวัดหนึ่งในสิบท่องเที่ยวที่สุดของโลกอยู่บ้าง
'มีครับ' เเบงค์ตอบกลับมา
'ช่วยมาห้างธาดาให้เร็วที่สุดจะได้ไหมครับ?' เทพกล่าวถามต่อ
'ได้' เเบงค์ตอบกลับมาคำเดียวเพราะกำลังคิดว่าหัวหน้ากิลด์ที่เเสนจะฉลาดของตนกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่ถึงต้องให้ตนช่วย
'ทำไมพ่อถึงบอกเเค่ระวัง..ไม่บอกเรื่องพันธมิตรที่กำลังจะมาละ?'
'หรือว่าคนที่ส่งข่าวให้เราเป็นคนของพ่อ..เเต่ว่าทำไมพ่อถึงไม่บอกกับเราเอง'
'หรือว่าเรื่องสองนักธุรกิจมาจังหวัดภูเก็ต?' เกิดความสงสัยขึ้นในหัวของเทพมากมาย
''ก็อกๆ'' เสียงเคาะประตูห้องรับเเขกเทพจึงหันไปมองทันที
'ไม่มั้ง' เทพไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้จึงคิดถ่วงเวลาคิดหาทางสักครู่ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
''รีบเข้าก่อน'' เมื่อประตูห้องถูกเปิดคนที่เคาะประตูก็รีบเดินเข้าห้องรับเเขกมาเเล้วปิดประตูทันที
''ดล!?'' เทพตกใจถึงการมาของญาติของตน
''อ่า..พี่เทพ'' ดลกล่าวทักทายลูกพี่ลูกน้องของตน
''ดล'' ฟ้าหันไปทักทายคนที่เพิ่งเข้าห้องมา
''พี่ฟ้า'' ดลทักทายกลับ
''ดลส่งข้อความให้พี่เหรอ?'' เทพกล่าวถามไปตรงๆ
''ใช่'' ดลพยักหน้า
'ดล..ลูกของอาเดชที่เป็นคนดี(มาก)' เทพคิดในใจ
ทั้งๆที่พ่อของดลหรืออาเดชต้องการยึดบริษัทให้ลูกชายของตนเเต่ดลไม่ต้องการเพียงเเค่อยากใช้ชีวิตสบายๆเป็นในสิ่งที่ตนอยากเป็นเท่านั้นจึงขัดพ่อตนเองมาตลอด
''พี่จะพาเพื่อนๆของพี่ออกไปตอนไหน?'' ดลถามไปตรงๆเช่นกัน
''พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น'' เทพยกยิ้มมุมปาก
'รอยยิ้มแบบนี้..สมเเล้ว' ดลคิดชมเทพที่ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเพราะว่าพ่อของเทพเองก็ไม่ชอบหลบหนีเช่นกันมีปัญหาก็ไม่เคยหนีเเละยังสามารถคิดแผนโต้กลับในระยะเวลาสั้นๆได้อีก
''เเล้วเรามาทำอะไรที่นี่'' เทพกล่าวถามลูกพี่ลูกน้องของตน
''ผมกะว่าจะมาช่วยพี่น่ะสิ' ดลคิดเพราะว่าวิธีที่ตนจะขัดขวางพ่อของตนได้ก็คือสนับสนุนเทพให้เป็นประธานบริษัทอย่างเต็มตัว
''พี่ไม่เป็นอะไร..ไปเถอะเดี๋ยวอาเดชมา'' เทพกล่าวเพราะว่าถ้าพ่อของดลมาจะมีเรื่องกันอีก
''ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ'' ดลกล่าวจบก็ออกจากห้องรับเเขกไปทันที
''มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า?'' เก่งเดินมาถามเพื่อนสนิทของตน
''มีเเต่เรื่องน่าตื่นเต้น'' เทพถอนหายใจก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาที่เดิม
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
''ก๊อกๆ'' เสียงเคาะประตูทำเก่งเทพที่กำลังนั่งอ่านข้อมูลบริษัทของพันธมิตรอยู่วางโทรศัพท์ลงเเล้วเดินไปเปิดประตู
'ฉันยังไม่ได้บอกเเบงค์ว่าเราอยู่ที่ไหน'
'เพราะฉะนั้นมีไม่กี่คนที่รู้' เทพคิดในใจระหว่างเดินไปเปิดประตู
''อืม'' เมื่อประตูเปิดชายเเก่เดินเข้ามาในห้องรับเเขกทันที
''อะไรกัน..เด็กพวกนี้'' เเละเริ่มบ่นทันที
''น่าจะเป็นเพื่อนของหลานผมน่ะครับ'' อาเดชกล่าว
''ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ?'' ชายเเก่หันไปถามอาเดช
''ผมก็ไม่ทราบครับ''
''พอหลานคนนี้ได้ถูกเเต่งตั้งเป็นประธานรุ่นถัดไปหลังชนาเทพลงตำเเหน่งก็เริ่มวางอำนาจทันที'' อาเดชกล่าวให้ร้ายเทพ
''เหมียว...ฮัลโหลครับ'' เทพกดรับสายเเล้วทักทายปลายสายทันที
''พวกผมถึงหน้าตึกล่ะครับ''
''ออกมารับหน่อยได้ไหม?'' ธัญกล่าว
''ครับ'' เทพรับปากเเต่ไม่วางสายพอทำท่าจะเดินออกจากห้องรับเเขก
''จะหนีไปไหนเหรอท่านประธาน'' อาเดชทักเทพทันที
''คือผมไปรับไม่ได้เเล้วครับ''
''คนทางนี้ไม่ให้ไป..ช่วยมาตามทางที่ผมจะบอกได้ไหมครับ'' เทพกล่าวจบก็เริ่มบอกเส้นทางมาที่ห้องทันที
''ดูสิ..ยังเรียกเพื่อนมาเพิ่มอีก''
''ช่างไม่รู้เวล่ำเวลาเอาซะเลย'' อาเดชกล่าวจิกเทพรัวๆ
''อะไรกัน..นี่เมินฉันงั้นเหรอ'' พงค์กล่าวเสริม
เทพไม่กล่าวอะไรเพียงเเค่ยักไหล่เเล้วหันหน้าไปมองที่ประตูเพื่อรอทั้งสองคนมาถึง
''นี่เเก!!''
''ไอ้เด็กนี่..ไม่เห็นบริษัทพันธมิตรอยู่ในสายตางั้นเรอะ!!'' พงค์โกรธทันทีที่เห็นเทพยังเมินเฉยต่อการมาของตน
''ฮ่าๆ''
''ว่าเเต่คนฉลาดอย่างคุณมาเล่นเกมคลายเครียดเหรอครับ''
''อืม..เราต้องมีเวลาพักผ่อนกันบ้างสิจริงไหม?'' การพูดคุยของทั้งสองคนระหว่างเดินมาที่ห้องรับเเขกทำให้พงค์โกรธหนักกว่าเดิม
''ไอ้เด็กพวกนี้ออกไปซะ!!'' พงค์ตะโกนลั่น
''หืม'' ทั้งสองคนที่มาใหม่เดินเข้ามาในห้องรับเเขก
''เมื่อกี้รวมพวกผมด้วยรึเปล่า?'' เเบงค์กล่าว
''เออออกไปให้หมด!!'' พงค์ตะโกนอีกครั้งพร้อมกับหันไปมองหน้าคนถาม
''คะ..คุณ..คุณเเบงค์'' พงค์หน้าเสียทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่กล่าวประโยคเมื่อกี้คือใคร
''อะ..อึก'' อาเดชก็หน้าเสียไปตามๆกัน
''ถ้าจำไม่ผิดคุณคือคนของบริษัทเกี่ยวกับโรงภาพยนต์?''
''เป็นเพียงผู้จัดการสาขาย่อยของบริษัทที่ผมร่วมลงทุน''
''เเต่กลับมาไล่ผมออกจากห้องนี้งั้นเหรอ?'' เเบงค์กล่าวถึงอำนาจของตนที่มีต่อบริษัทชายเเก่
''มะ..ไม่'' พงค์กล่าวอย่างกล้าๆกลัวๆ