ระวังๆหน่อย

1581 Words
''สวัสดี'' หญิงสาวร่างบางเงยหน้าขึ้นทักทายพวกเทพ ''โฮชิ'' เก่งกล่าวพร้อมกับปากที่เริ่มยิ้มกว้าง ''เก่ง...'' โฮชิเรียกชื่อของเก่ง ''ในที่สุดเราก็ได้พบกัน'' เก่งเดินไปอ้าเเขนกอด เเฟนของตน ''อื้ม'' โฮชิยิ้มหวานก่อนจะเดินเข้าไปในอ้อมกอดของเก่ง ''มดขึ้นล่ะ'' เทพละสายตาจากคู่รักไปมองเพื่อนของตนที่กำลังเดินมาหาพวกตน ''หัวหน้ากิลด์รึเปล่า?'' มีหนึ่งเสียงกล่าวมาจากทางที่โฮชิเดินมา ''หืม'' เทพจากที่มองกลุ่มบอสอยู่จึงหันกลับไปมองต้นเสียงเเทน ''สวัสดีๆ'' เทพทักทายอย่างเป็นมิตรกับสามสมาชิกใหม่ ''สวัสดี'' เสียงเย็นชากล่าวทัก ''??'' ทำให้ทั้งสามหันกลับไปกับการมาของหนึ่งบุคคล ''พี่จากัวร์'' ''ผมลืมชวนพี่มาด้วยกัน'' ''ไม่เป็นไรๆ'' สี่สมาชิกที่เพิ่งมายืนพูดคุยกัน ''อีกสองคนกว่าจะถึงอีกตั้งหนึ่งชั่วโมง'' ''มารอที่ห้องรับเเขกก่อนก็ได้'' เทพกล่าวเเล้วเดินนำเข้าไปในห้างธาดา ''ห้องรับเเขก?'' สมาชิกใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าเทพเกี่ยวข้องกับบริษัทธาดาตกใจเล็กน้อย ''โห..ห้องรับเเขก'' ''สวยมาก'' ''ใช่เเล้ว..ห้างของเราเน้นความสวยงามเเละความสะดวก​สบาย'' เทพยิ้มพร้อมกับแบมือเชิญสมาชิกกิลด์ของต้นเข้าไปในห้องซึ่งรับคนได้มากกว่าสามสิบคนทีเดียว ''ห้างของเรา!?'' สามสมาชิกที่ยังไม่รู้ต่างตกใจไปพร้อมกันต่างจากจากัวร์ที่พอจะคาดเดาได้ ''ตามที่พวกนายคิดนั่นเเหละ'' เทพกล่าวให้ความสนิทสนม ''กิลด์เรามีเเต่คนใหญ่คนโตเหรอเนี่ย'' ทั้งสามคิดถึงอำนาจของเทพต่อห้างที่พวกตนกำลังอยู่ ''ฉันยังไม่ได้เป็นประธานนะ'' เทพกล่าวดักไว้ก่อน ''ว่าเเต่กินอะไรกันมารึยัง?'' เทพกล่าวถามสมาชิกกิลด์ของตนในห้องรับเเขก ''นี่เพิ่งจะสิบเอ็ดโมง..พวกเรารอกินพร้อมกับสองนักธุรกิจก็ได้'' บอสตอบกลับเทพเชิงเกรงใจ ''ก็เเล้วเเต่'' เทพกล่าวจบก็นั่งลงบนโซฟาเพื่อดูกระเเสความดังของกิลด์ตนต่อเกมนี้ 'ถึงจะมีเชิงลบกว่าสามสิบเปอร์เซ็นเเต่ยังไงเชิงบวกก็มากกว่า' เทพปล่อยวางพวกที่อิจฉาเเละอคติกับกิลด์ของตน ''ท่านเทพสงคราม~'' เสียงใสกล่าวล้อเลียนเจ้าของฉายา ''ฟอด'' เจ้าของฉายาหันไปหอมเเก้มคนชอบล้อเลียนทันที ''เหมียว..เหมียว'' เสียงโทรศัพท์ของเทพดังขึ้นทำให้สมาชิกกิลด์ในห้องหันมามองเทพเป็นตาเดียว ''ฮัลโหล?'' เทพที่รีบกดรับสายจึงไม่ได้ดูว่าใครเป็นคนโทรมาหาตน ''ลูกพาใครมาเหรอ..หลายคนเลย'' เป็นพ่อขอเทพที่โทรมาหาลูกชายของตน ''สมาชิกกิลด์ในเกมครับ'' เทพตอบไปตรงๆ ''อ้อ..งั้นก็ระวังๆหน่อยนะ'' พ่อของเทพเน้นคำว่าระวัง 'ระวังงั้นเหรอ..' 'อย่าบอกนะว่าอาเดชมัน...' เทพตาขวากระตุกทันทีเมื่อคิดว่าเจ้าอาคนดีกล่าวเรื่องเสียๆหายๆของตนกับคนอื่น 'อีกหนึ่งชั่วโมงจะมีพันธมิตรของบริษัทมาใช้งานห้องรับเเขก' เทพอ่านข้อความที่ถูกส่งมาจากบุลคลลึกลับก็เริ่มมีอารมณ์โกรธทันที 'คุณเเบงค์มีรถอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตไหม?' เทพส่งข้อความถามคุณเเบงค์เพราะเรื่องนี้ต้องให้คุณเเบงค์ที่มีอำนาจด้านธุรกิจช่วยเหลือเเละที่เทพถามคุณเเบงค์ก็เพราะว่าคุณเเบงค์เป็นถึงประธานบริษัทท่องเที่ยวน่าจะมีรถหรือสิ่งของที่จังหวัดหนึ่งในสิบท่องเที่ยวที่สุดของโลกอยู่บ้าง 'มีครับ' เเบงค์ตอบกลับมา 'ช่วยมาห้างธาดาให้เร็วที่สุดจะได้ไหมครับ?' เทพกล่าวถามต่อ 'ได้' เเบงค์ตอบกลับมาคำเดียวเพราะกำลังคิดว่าหัวหน้ากิลด์ที่เเสนจะฉลาดของตนกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่ถึงต้องให้ตนช่วย 'ทำไมพ่อถึงบอกเเค่ระวัง..ไม่บอกเรื่องพันธมิตรที่กำลังจะมาละ?' 'หรือว่าคนที่ส่งข่าวให้เราเป็นคนของพ่อ..เเต่ว่าทำไมพ่อถึงไม่บอกกับเราเอง' 'หรือว่าเรื่องสองนักธุรกิจมาจังหวัดภูเก็ต?' เกิดความสงสัยขึ้นในหัวของเทพมากมาย ''ก็อกๆ'' เสียงเคาะประตูห้องรับเเขกเทพจึงหันไปมองทันที 'ไม่มั้ง' เทพไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้จึงคิดถ่วงเวลาคิดหาทางสักครู่ก่อนจะเดินไปเปิดประตู ''รีบเข้าก่อน'' เมื่อประตูห้องถูกเปิดคนที่เคาะประตูก็รีบเดินเข้าห้องรับเเขกมาเเล้วปิดประตูทันที ''ดล!?'' เทพตกใจถึงการมาของญาติของตน ''อ่า..พี่เทพ'' ดลกล่าวทักทายลูกพี่ลูกน้องของตน ''ดล'' ฟ้าหันไปทักทายคนที่เพิ่งเข้าห้องมา ''พี่ฟ้า'' ดลทักทายกลับ ''ดลส่งข้อความให้พี่เหรอ?'' เทพกล่าวถามไปตรงๆ ''ใช่'' ดลพยักหน้า 'ดล..ลูกของอาเดชที่เป็นคนดี(มาก)' เทพคิดในใจ ทั้งๆที่พ่อของดลหรืออาเดชต้องการยึดบริษัทให้ลูกชายของตนเเต่ดลไม่ต้องการเพียงเเค่อยากใช้ชีวิตสบายๆเป็นในสิ่งที่ตนอยากเป็นเท่านั้นจึงขัดพ่อตนเองมาตลอด ''พี่จะพาเพื่อนๆของพี่ออกไปตอนไหน?'' ดลถามไปตรงๆเช่นกัน ''พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น'' เทพยกยิ้มมุมปาก 'รอยยิ้มแบบนี้..สมเเล้ว' ดลคิดชมเทพที่ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเพราะว่าพ่อของเทพเองก็ไม่ชอบหลบหนีเช่นกันมีปัญหาก็ไม่เคยหนีเเละยังสามารถคิดแผนโต้กลับในระยะเวลาสั้นๆได้อีก ''เเล้วเรามาทำอะไรที่นี่'' เทพกล่าวถามลูกพี่ลูกน้องของตน ''ผมกะว่าจะมาช่วยพี่น่ะสิ' ดลคิดเพราะว่าวิธีที่ตนจะขัดขวางพ่อของตนได้ก็คือสนับสนุนเทพให้เป็นประธานบริษัทอย่างเต็มตัว ''พี่ไม่เป็นอะไร..ไปเถอะเดี๋ยวอาเดชมา'' เทพกล่าวเพราะว่าถ้าพ่อของดลมาจะมีเรื่องกันอีก ''ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ'' ดลกล่าวจบก็ออกจากห้องรับเเขกไปทันที ''มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า?'' เก่งเดินมาถามเพื่อนสนิทของตน ''มีเเต่เรื่องน่าตื่นเต้น'' เทพถอนหายใจก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาที่เดิม หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ''ก๊อกๆ'' เสียงเคาะประตูทำเก่งเทพที่กำลังนั่งอ่านข้อมูลบริษัทของพันธมิตรอยู่วางโทรศัพท์ลงเเล้วเดินไปเปิดประตู 'ฉันยังไม่ได้บอกเเบงค์ว่าเราอยู่ที่ไหน' 'เพราะฉะนั้นมีไม่กี่คนที่รู้' เทพคิดในใจระหว่างเดินไปเปิดประตู ''อืม'' เมื่อประตูเปิดชายเเก่เดินเข้ามาในห้องรับเเขกทันที ''อะไรกัน..เด็กพวกนี้'' เเละเริ่มบ่นทันที ''น่าจะเป็นเพื่อนของหลานผมน่ะครับ'' อาเดชกล่าว ''ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ?'' ชายเเก่หันไปถามอาเดช ''ผมก็ไม่ทราบครับ'' ''พอหลานคนนี้ได้ถูกเเต่งตั้งเป็นประธานรุ่นถัดไปหลังชนาเทพลงตำเเหน่งก็เริ่มวางอำนาจทันที'' อาเดชกล่าวให้ร้ายเทพ ''เหมียว...ฮัลโหลครับ'' เทพกดรับสายเเล้วทักทายปลายสายทันที ''พวกผมถึงหน้าตึกล่ะครับ'' ''ออกมารับหน่อยได้ไหม?'' ธัญกล่าว ''ครับ'' เทพรับปากเเต่ไม่วางสายพอทำท่าจะเดินออกจากห้องรับเเขก ''จะหนีไปไหนเหรอท่านประธาน'' อาเดชทักเทพทันที ''คือผมไปรับไม่ได้เเล้วครับ'' ''คนทางนี้ไม่ให้ไป..ช่วยมาตามทางที่ผมจะบอกได้ไหมครับ'' เทพกล่าวจบก็เริ่มบอกเส้นทางมาที่ห้องทันที ''ดูสิ..ยังเรียกเพื่อนมาเพิ่มอีก'' ''ช่างไม่รู้เวล่ำเวลาเอาซะเลย'' อาเดชกล่าวจิกเทพรัวๆ ''อะไรกัน..นี่เมินฉันงั้นเหรอ'' พงค์กล่าวเสริม เทพไม่กล่าวอะไรเพียงเเค่ยักไหล่เเล้วหันหน้าไปมองที่ประตูเพื่อรอทั้งสองคนมาถึง ''นี่เเก!!'' ''ไอ้เด็กนี่..ไม่เห็นบริษัทพันธมิตรอยู่ในสายตางั้นเรอะ!!'' พงค์โกรธทันทีที่เห็นเทพยังเมินเฉยต่อการมาของตน ''ฮ่าๆ'' ''ว่าเเต่คนฉลาดอย่างคุณมาเล่นเกมคลายเครียดเหรอครับ'' ''อืม..เราต้องมีเวลาพักผ่อนกันบ้างสิจริงไหม?'' การพูดคุยของทั้งสองคนระหว่างเดินมาที่ห้องรับเเขกทำให้พงค์โกรธหนักกว่าเดิม ''ไอ้เด็กพวกนี้ออกไปซะ!!'' พงค์ตะโกนลั่น ''หืม'' ทั้งสองคนที่มาใหม่เดินเข้ามาในห้องรับเเขก ''เมื่อกี้รวมพวกผมด้วยรึเปล่า?'' เเบงค์กล่าว ''เออออกไปให้หมด!!'' พงค์ตะโกนอีกครั้งพร้อมกับหันไปมองหน้าคนถาม ''คะ..คุณ..คุณเเบงค์'' พงค์หน้าเสียทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่กล่าวประโยคเมื่อกี้คือใคร ''อะ..อึก'' อาเดชก็หน้าเสียไปตามๆกัน ''ถ้าจำไม่ผิดคุณคือคนของบริษัทเกี่ยวกับโรงภาพยนต์?'' ''เป็นเพียงผู้จัดการสาขาย่อยของบริษัทที่ผมร่วมลงทุน'' ''เเต่กลับมาไล่ผมออกจากห้องนี้งั้นเหรอ?'' เเบงค์กล่าวถึงอำนาจของตนที่มีต่อบริษัทชายเเก่ ''มะ..ไม่'' พงค์กล่าวอย่างกล้าๆกลัวๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD