Episode 1 ตอน จุดเริ่มต้นความอาฆาตแค้น

1897 Words
Episode 1 ตอน จุดเริ่มต้นความอาฆาตแค้น ร่างสูงที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์สีเดียวกัน นั่งไล่อ่านเอกสารในมือด้วยความเบื่อหน่าย มันเป็นสิ่งที่เขาต้องทำมันซ้ำ ๆ ทุกวัน แม้จะไม่ได้มีความกระตือรือร้นอยากจะทำก็ตาม “เฮีย ขอตังค์หน่อยดิ” ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก พร้อมกับคนเป็นน้องที่เดินเข้ามาขอเงินเหมือนทุกครั้ง “เอาเท่าไหร่” รามสูรเอ่ยถามทั้งที่สายตายังคงจับจ้องกับเอกสารในมือ “ล้านนึงครับ” อีกคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงร่าเริง “มึงใช้เงินให้มันน้อย ๆ หน่อยได้ไหมวะไอ้ลักษณ์ เล่นขออาทิตย์ละล้านแบบนี้ บ้านมึงจนพอดี” แม้จะบ่นแต่ก็ยังหยิบสมุดเช็กขึ้นมาเขียนจำนวนเงินตามที่คนเป็นน้องเอ่ยปากขอ “เออหน่าเฮีย มันจำเป็นนี่นา อีกไม่กี่วันลักษณ์ต้องลงสนามกับไอ้สามภพละ ถ้าไม่อัปเครื่องใหม่ก็ได้แพ้มันพอดีอะดิ” “แล้วใครสั่งใครสอนให้มึงไปแข่งรถล่ะ” เสียงสุขุมน่าเกรงขามดังขึ้นจากด้านหลัง ทำเอาลักษณ์หลับตาปี๋เพราะกลัวว่าจะถูกอะไรสักอย่างฟาดเข้าให้ที่หัว “ป๊าอย่าตีลักษณ์นะ” ลักษณ์รีบปกป้องตัวเองด้วยการวิ่งไปหลบอยู่หลังคนเป็นพี่ “มึงต้องหัวแตกก่อนใช่ไหม ถึงจะคิดได้” ประมุขของบ้านใช้นิ้วชี้หน้าคนเป็นลูกอย่างคาดโทษ “โถ่ป๊า ก็ลักษณ์ไม่อยากทำธุรกิจแบบป๊ากับเฮียรามนี่นา ลักษณ์อยากเป็นนักแข่งรถระดับโลก!” “มึงถอยรถเข้าบ้านให้ไม่ชนเสาก่อนเถอะ” รามสูรแค่นหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดแดกดันของคนเป็นพ่อ ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าลักษณ์ฝีมือดี แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังชัยชนะที่ได้มา ที่บ้านต้องเสียเงินให้อัปเดตเครื่องยนต์ใหม่ไปไม่รู้กี่สิบล้าน “เออ จำไว้เลย” ชายหนุ่มตีหน้าบึ้ง ยิ่งเห็นพี่ชายดูจะเห็นด้วยไปกับพ่อ เขาก็ยิ่งน้อยใจ “ถ้าอยากแข่งรถต่อ ครั้งนี้มึงต้องได้เหรียญทองกลับมา ถ้าไม่ได้ มึงต้องกลับไปเรียนต่อ” คนเป็นพ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น “จริงจังปะเนี่ย” ลักษณ์เบิกตาโพลงด้วยความตื่นเต้น ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยได้รับข้อเสนอจากพ่อเลย มีแต่บังคับให้ทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำมาทั้งชีวิต “อืม ส่วนราม อย่าให้เงินน้องไปใช้แบบไร้สาระอีก ถ้ามันอยากได้อะไร มันต้องทำงานแลกเงิน” ประโยคนี้หันมาพูดกับรามสูร ลูกชายที่เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว ผิดกับลักษณ์ ที่เขาอยากจะตัดออกจากกองมรดกให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ “ครับป๊า” รามสูรพยักหน้ารับ หลังจากที่คนเป็นพ่อเดินออกจากห้องไป เป็นจังหวะเดียวกันที่เดย์เดินสวนเข้ามาก่อนจะหัวเราะชอบใจที่ได้เห็นหน้าเพื่อนสนิทยับยู่ยี่เหมือนกระดาษชำระที่ถูกใช้แล้ว “สวัสดีครับเฮียราม” ชายหนุ่มเอ่ยทักพี่ชายของเพื่อนด้วยความเคารพ “อืม ผับที่ไทยเป็นไงบ้างล่ะ” “กำลังไปได้สวยครับเฮีย อีกไม่นานคงแย่งลูกค้าจากผับคู่แข่งได้” “ผับคู่แข่ง? TJผับน่ะเหรอ” รามสูรเลิกคิ้วถาม “ครับ น่ากลัวพอสมควรเลย” เดย์ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวล “ผับของไอ้สามภพใช่ไหม?!” ลักษณ์ที่ปกติไม่ค่อยได้สนใจเรื่องธุรกิจมากนัก พอได้ยินชื่อของศัตรูคู่อาฆาตอย่างสามภพ หูก็ผึ่งขึ้นมาทันที “เออดิ แม่งกูโคตรรำคาญไอ้นรกนี่จริง ๆ ไปไหนก็เจอแต่มันมาขวางทาง น่ารำคาญชิบ!” เดย์สบถ “แล้วนี่ได้ลักษณ์ เครื่องยนต์เทอร์โบที่มึงใส่ไว้มาถึงละนะ มึงแน่ใจใช่ไหมว่ารถมึงจะรับไหว” “กูก็ไม่แน่ใจ แต่ขอแค่เหยียบแล้วถึงเส้นชัยก็พอ” “ถ้ามันอันตรายมากนักก็ไม่ต้องแข่ง อยากตายมากนักหรือไง” รามสูรส่ายศีรษะไปมาด้วยความเอือมระอา “แข่งรถคือสิ่งที่ลักษณ์ชอบ ใครก็ห้ามลักษณ์ไม่ได้” คนเป็นน้องหันไปบอกรามสูรที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่ใกล้ ๆ “กูก็ไม่ได้ห้าม แต่นี่มึงจะแต่งเครื่องรถให้เร็วไปนรกหรือไง รถมันจะรับไม่ไหวเอานะ ใส่เทอร์โบเร่งขนาดนี้ กำลังรถมันไม่ถึง!!” “เฮียจะให้ลักษณ์แพ้พวกไอ้สามภพเหรอ เฮียแม่งไม่รู้ว่ามันเยอะเย้ยลักษณ์ตอนที่ลักษณ์แข่งแพ้ครั้งที่แล้วว่าไงบ้าง คราวนี้ลักษณ์ไม่ยอมแพ้ให้มันเด็ดขาด” “กูเหนื่อยจะพูดกับมึงละ แล้วแต่มึงเถอะ อย่าตายกลับมาก็พอ” รามสูรเดินเลี่ยงไปอีกทางเมื่อคนเป็นน้องไม่มีท่าทีจะเชื่อฟังเขาเลยแม้แต่น้อย “มึงคอยดูนะไอ้เดย์ ก็เล่นแม่งให้ยับเลย” คนห้าวหันไปบอกกับเพื่อนสนิทของตัวเองที่ยืนดูอยู่ใกล้ ๆ “เออ ล่อมันให้ยับ ให้สมกับที่มันปากหมาใส่มึงครั้งก่อน” “กูเอามันตายแน่” สนามแข่งรถที่ไม่ใช่สนามแข่งรถ แต่เป็นทางด่วนที่เหล่านักแข่งใช้อำนาจเงินปิดเพื่อที่จะได้ใช้แข่งชิงรางวัล เพราะนักแข่งแต่ละคนอายุไปถึงสิบแปดปีบริบูรณ์ ไม่มีสิทธิ์ในการครอบครองใบขับขี่รถยนต์ด้วยซ้ำ สนามแข่งที่เปิดอย่างถูกกฎหมายจึงไม่ต้อนรับพวกเขา “มึงดูรถไอ้ลักษณ์ดิ โคตรเท่” ทีสองพยักพเยิดไปที่รถคันหรูแต่งเครื่องดึงดูดสายตาให้ทุกคนหันไปมอง “โห เครื่องนั่นแม่งโคตรแพง กูว่าละไอ้กากลักษณ์มันต้องใช้ไม้นี้” วายุยกมือขึ้นกอดอก “ก็มันลูกเศรษฐีนี่หว่า เกาะพ่อแดกไม่เห็นจะมีอะไรน่าภูมิใจเลย” วายุแค่นหัวเราะ” เอางี้ไหมล่ะไอ้ภพ” “อะไรของมึง เกี่ยวอะไรกับกูล่ะ” สามภพถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเพื่อนสนิทรับบทเป็นลูกอีช่างยุ...ยุให้เขาทำอะไรห่าม ๆ อยู่ตลอดเวลา “ถ้ารถกาก ๆ ของมึงชนะรถของไอ้ลักษณ์ได้ กูจะเอากุญแจแลมโบกินี่มาให้มึง” “มึงจะพูดพล่อย ๆ ไม่ได้นะ” สามภพยกยิ้มเมื่อได้ยินข้อเสนอที่ดูจะถูกใจเขาเป็นพิเศษ “มึงอย่าลืมนะว่ารถกาก ๆ ของกูชนะมันมาทุกครั้ง” “ถ้าครั้งนี้มึงชนะมันได้อีก มึงเอาของรางวัลจากกูไปได้เลย” “ของรางวัลน่าสนใจขนาดนี้ กูสู้ไม่ถอยแล้วล่ะ” สามภพยกยิ้มพลางมองไปที่รถของคู่อริอย่างลักษณ์ เขาจะทำให้ทุกคนดูว่าเงินจะเอาชนะฝีมือระดับพระกาฬอย่างเขาได้จริงหรือเปล่า “กูจะชนมึงให้เละเลย” คนตัวสูงที่นั่งอยู่ในรถคันหรู ลดกระจกลงพร้อมชูนิ้วกลางให้อีกฝ่าย ท่าทางล่อตีนแบบนั้นยิ่งทำให้สามภพอยากจะเบียดเขาให้ตกทางด่วนยิ่งขึ้นไปอีก พริตตี้สาวสวยเริ่มยกธงขึ้นมาเพื่อบอกให้รถทุกคันเตรียมพร้อม เสียงเร่งเครื่องดังกระหึ่มไปทั่วทั้งบริเวณ ถ้าให้เดา ป่านนี้ชาวบ้านที่อยู่แถวนี้คงตะโกนด่าพ่อพวกนักแข่งไปแล้วเรียบร้อย ไม่นานนักธงลายตารางหมากรุกก็สะบัดลง เป็นสัญญาณให้รถทุกคันออกตัว บรื้นนน!!! เสียงเครื่องยนต์รถดังขึ้นพร้อมกับรถที่แล่นฉิวไปบนทางด่วน รถของลักษณ์ขับแซงรถทุกคันในสนาม เชื่อว่าฝีมือเขาดีขึ้น และด้วยแรงม้าของรถทำให้รถแล่นแซงทุกคันไปได้แบบทิ้งห่าง “แม่ง!” สามภพจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นท้ายรถของคู่อริอยู่ห่าง ๆ เขาจึงเหยียบคันเร่งจนมิด ทำให้ตามรถของลักษณ์ได้แบบติด ๆ เมื่อลักษณ์เห็นว่ารถของสามภพขับเข้ามาขนาบอยู่ทางด้านขวา เขาจึงหักพวงมาลัยไปทางซ้ายแล้วหักกลับเข้ามาทางขวา จงใจให้ข้างรถของตัวเองตีเข้ากับรถของสามภพสะเก็ดไฟที่แลบออกมาบ่งบอกว่ามันเริ่มจะรุนแรงขึ้นแล้ว “ได้ มึงเล่นสกปรกก่อนเองนะได้ลักษณ์” สามภพที่ทนไม่ได้เมื่อถูกศัตรูหยามหน้า ในจังหวะที่ลักษณ์กำลังจะหักพวงมาลัยไปทางซ้ายเพื่อเตรียมจะเบียดรถของเขาอีกครั้ง จังหวะนั้นเขาเหยียบคันเร่งจนรถของตัวเองแซงรถของลักษณ์ไป ทำให้รถหรูติดเทอร์โบของลักษณ์เสียหลักพลิกคว่ำหมุนหลายตลบอยู่กลางทางด่วน สามภพหันไปมองกระจกหลังเพียงนิด ก่อนจะแค่นหัวเราะที่เห็นรถของศัตรูหงายท้องขึ้นพร้อมกับควันดำที่พวยพุ่งออกมา “ตายห่าไปซะ” ชายหนุ่มไหวไหล่ ก่อนจะผ่อนความเร็วลงเมื่อเข้าเส้นชัยมาแล้ว “มาเลยค้าบ ใครพนันไว้จ่ายเงินมาเลยค้าบ” วายุยื่นหมวกไปตรงหน้าพวกไฮโซที่มาดูการแข่งรถครั้งนี้ “มึงทำเหี้ยอะไรวะ” ราเชนทร์เอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนไล่เก็บเงินจากคนอื่น ๆ “กูรู้ว่าทุกคนคิดว่าไอ้ลักษณ์ต้องชนะ กูเลยสวนกระแสพนันไอ้สามภพไว้ รวยเลยว่ะ” วายุขำออกมาเบา ๆ “นี่สินะ หัวนักธุรกิจ” ทีสองตบบ่าเพื่อนเบา ๆ “ไหนแลมโบกินี่กู” สามภพที่เดินลงมาจากรถทวงถามของรางวัลที่เขาควรจะได้ “พรุ่งนี้เช้ารอรับรถที่หน้าบ้านได้เลยค้าบ” “มึงชนะมันได้ไงวะ รถแม่งติดเทอร์โบขนาดนั้น ตอนออกตัวกูนี่ใจหายแวบ” วายุเอ่ยถาม ตอนออกตัวทุกคนก็พอจะเดาออกว่าลักษณ์ต้องชนะแน่ ๆ ด้วยระยะที่ทิ้งห่างรถคันอื่นไปขนาดนั้น “คนโง่ไม่มีวันชนะคนเก่งได้หรอก” สามภพแค่นหัวเราะ ยิ่งเห็นรถพยาบาลวิ่งเข้าไปในสนามแข่ง เขาก็ยิ่งสะใจ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทุกคนที่รู้ว่าลักษณ์เกิดอุบัติเหตุจากการแข่งรถ ต่างก็ละจากหน้าที่ของตัวเองตรงมาเยี่ยมคนเจ็บทันที “รามทำไมไม่ห้ามน้อง ฮื่อ!” คนเป็นแม่วิ่งตรงเข้ามาทุบตีลูกชายคนโตทั้งน้ำตา เธอแทบจะไม่อยากมองสภาพของลูกชายคนเล็กที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้ทั่วร่างกายราวกับมัมมี่ “เดี๋ยวป๊าพาแม่แกออกไปเอง” คนเป็นพ่อพยุงคนที่เสียใจจนแทบจะขาดใจออกไป ปล่อยให้รามสูรยืนขบกรามแน่น “ใครทำมัน” เขาเอ่ยถามเดย์เสียงเรียบ แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับจากอีกคน “ว่าไงไอ้เดย์!” “คะ…คือ ไอ้สามภพครับเฮีย มันทำให้ลักษณ์รถคว่ำ มันน่าจะเล่นสกปรก” เดย์พูดไปเท่าที่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าความจริงคืออะไรกันแน่ นอกจากลักษณ์และสามภพที่อยู่ในสนามแข่ง รามสูรมองคลื่นชีพจรที่อยู่บนหน้าจอมอนิเตอร์ เครื่องช่วยหายใจที่ระโยงระยางเต็มไปหมดทำเอาเขาหัวร้อน “มึงไม่ตายดีแน่ ไอ้สามภพ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD