“อ้าว คุณชายซันลมอะไรหอบหลานมาหาตากัน แล้วนี่หน้าหลานไปโดนอะไรมา” ชายสูงวัยที่ดูภูมิฐานเอ่ยทักหลายชายเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เจอกันหลายปี
“ผมคิดถึงท่านตานะครับก็เลยมาหา ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้มาหาท่านตาหลายปี” ผมเอ่ยตอบท่านตาโดยเลี่ยงที่จะตอบอีกคำถามหนึ่งของท่าน
“ไม่เป็นไร พ่อเราเขาบอกว่าหลานตั้งใจเรียนอย่างหนักจนอดหลับอดนอน แค่หลานตาเป็นเด็กดี แค่นั้นตาก็ภูมิใจแล้ว”
“ครับ” ผมได้แต่ยิ้มฝืนๆ รับถ้อยคำที่ท่านตาเอ่ยบอก ทุกถ้อยคำเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ท่านพ่อและแม่เลี้ยงของเขาสร้างขึ้นมาทั้งนั้น
ผมหลบมาพักอยู่กับท่านตาได้เพียงสองวัน ท่านพ่อก็มาและรับผมกลับ เมื่อผมยืนกรานว่าไม่ยอมกลับท่านตาก็เริ่มสงสัยว่าตัวผมกับท่านพ่อมีปัญหาอะไรกัน ผมไม่ได้กลัวที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ท่านตาฟัง แต่ดูเหมือนว่าคนที่หวาดกลัวจะเป็นท่านพ่อเพราะเมื่อท่านตาเริ่มสงสัยท่านพ่อจึงบอกไปว่าเพราะผมมีอาการทางจิตจนถึงขั้นข่มเหงคนรับใช้ในบ้าน
ท่านตาที่ได้รับรู้ถึงกับนิ่งอึ้งกับพฤติกรรมของหลานชาย แม้จะยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การที่ผมเอาแต่เงียบก็ทำให้ท่านตาเอนเอียงไปทางท่านพ่อ จนในที่สุดท่านตาก็พาผมไปตรวจที่โรงพยาบาล และไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดคำวินิจฉัยของหมอจึงเป็นเหมือนทุกคำที่ท่านพ่อพูด ท่านตาจึงให้เธอกลับไปอยู่กับท่านพ่อ และได้กำชับให้รักษาผมให้หายจากโรคนี้เสีย
หลังจากเหตุการณ์นั้นท่านพ่อก็ไม่ได้พาผมไปรักษาอย่างที่ได้รับปากไว้กับท่านตา แต่กลับเข้มงวดกับผมหนักกว่าเดิมจากที่เมื่อก่อนมีอิสระสามารถออกไปไหนได้ตามใจ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถออกจากบ้านได้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
ฝั่งแม่เลี้ยงก็ดูเหมือนจะไม่ชอบใจที่ท่านพ่อไปรับเขากลับมาจากบ้านท่านตา ครั้นพอหล่อนถามหาเหตุผลท่านพ่อก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมเอ่ยตอบ
ยิ่งหลังจากที่ท่านตาเสียไปให้หลังเพียงไม่ถึงปี ท่านพ่อก็ปล่อยให้แม่เลี้ยงทำตามใจตนเองทุกอย่างไม่ว่าผมจะโดนทำร้าย ถูกกล่าวหา หรือมีข่าวลือเสียๆ หายๆ มากแค่ไหนท่านก็ปิดหูปิดตาไม่สนใจ
จนอีกห้าปีให้หลังในวันที่ท่านพ่อได้เสียชีวิตเพราะขาดเลือดจากการเกิดอุบัติเหตุ หลังเปิดพินัยกรรมทำให้ผมได้รับรู้ว่าสาเหตุที่ท่านพ่อไม่ยอมให้ผมออกไปจากบ้านหลังนั้น แม้ว่าท่านจะหมางเมินและไม่แยแสผมในฐานะลูกคนหนึ่ง ก็เพราะว่าสมบัติทั้งหมดของท่านตาที่ตกทอดมาสู่ท่านแม่ทั้งหมดเป็นของผม
โดยที่ก่อนแต่งงานท่านตาได้ทำข้อตกลงกับท่านพ่อเอาไว้ว่าหลังจากแต่งงานแล้วสมบัติทั้งหมดของท่านตาจะเป็นของท่านแม่แต่เพียงผู้เดียว หากท่านแม่จากไปสมบัติเหล่านั้นจะกลายเป็นของผมในทันที โดยที่ท่านพ่อมีสิทธิ์เพียงแค่เป็นผู้ดูแลมรดกชั่วคราวในระหว่างที่ผมยังเยาว์วัย
“เป็นไปได้ยังไง ทำไมฉันที่เป็นเมียท่านชายถึงไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินพวกนั้น สมบัติทั้งหมดต้องเป็นของฉันกับลูกไม่ใช่ของคุณชายวิปริตอย่างมัน”
คนที่คาดหวังว่าจะได้เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองโวยวายลั่นทันทีที่ทุกสิ่งทุกอย่างหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา แถมยังตกไปเป็นของคนที่เกลียดมากที่สุด
หลังจากเปิดพินัยกรรมผมก็ย้ายออกจากบ้านหลังนั้นอย่างไม่มีความอาลัยอาวรณ์ทันที แถมยังรู้สึกสาแกใจที่ได้เห็นใบหน้าที่โกรธจนแดงก่ำของแม่เลี้ยง คงจะเสียใจมากละสิที่ไม่ได้แตะต้องสมบัติของท่านแม่ผมอย่างที่คาดหวังเอาไว้
สิ่งที่แม่เลี้ยงของผมได้ไปมีเพียงบ้านพร้อมที่ดินไม่กี่ไร่ตรงนั้น กับหุ้นในบริษัทอาหารแปรรูปที่กำลังจะเจ๊งของท่านพ่อเพียงเท่านั้น
ส่วนสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเชิดหน้าชูคออวดอ้างตนเป็นผู้ดีได้จนถึงทุกวันนี้คือทรัพย์สมบัติต่างๆ ที่เป็นของท่านแม่ผม ทั้งโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่ตั้งอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศ อสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านที่มีทั้งรูปแบบปล่อยเช่าและซื้อมาเก็บไว้เพื่อขายต่อ ไม่นับรวมที่ดินอีกหลายร้อยไร่ กับเงินสดมูลค่าไม่ต่ำจากพันล้านที่ท่านพ่อเคยให้เธอถลุงใช้ แต่อย่าหวังว่าหลังจากนี้ผมจะยอมให้หล่อนได้แตะต้องมันอีกต่อไป ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีการใดผมก็จะไม่ยอมให้มันสำเร็จ ไม่ยอมให้ผู้หญิงอย่างเธออยู่สุขสบายบนกองเงินกองทองของท่านแม่ผมอีกต่อไป
เพียงดารา สาวน้อยวัย 23 ปี ผิวขาว ตากลม แก้มป่องที่ใครเห็นก็ต้องหลงใหลในใบหน้าที่ดูน่ารักแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ชวนดึงดูดจนไม่สามารถละสายตาไปจากแววตาชวนฝันคู่นั้นได้
หลังจากที่เสียพี่สาวฝาแฝดไปเมื่อสามปีก่อน ฉันก็อาศัยอยู่กับแม่ที่ทำงานเป็นพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเพียงสองคน
กระทั่งหลังจากเรียนจบได้เพียงไม่กี่เดือนแม่ของฉันก็ประสบอุบัติเหตุโดนคนเมาขับรถชนแล้วหนีต้องเข้ารับการรักษาหลายเดือน จนในที่สุดหมอก็ไม่สามารถยื้อชีวิตแม่เอาไว้ได้
หลังจากแม่เสียไปฉันก็ได้เงินประกันชีวิตและเงินสมทบมาจากโรงพยาบาลก้อนหนึ่ง จึงเอาเงินก้อนนั้นไปปิดค่าผ่อนบ้าน หนี้สินต่างๆ ที่แม่กู้ยืมมาใช้ส่งฉันและพี่สาวฝาแฝดให้ได้เรียนสูงๆ เมื่อจ่ายครบแล้วก็เหลือเงินไม่มากเท่าไหร่ ฉันจึงตั้งใจว่าจะรีบหางานทำให้เร็วที่สุด
“หนูดาว”
ระหว่างที่ฉันกำลังไปหาคุณป้าพยาบาลเพื่อนแม่ที่โรงพยาบาล ก็ได้พบกับคุณหมอกันต์ธีร์ หมอหนุ่มที่เป็นหมอจิตเวชพ่วงด้วยตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล
“อะ…คุณหมอธีร์สวัสดีค่ะ” ฉันที่กำลังเดินก้มหน้าอ่านข้อความในมือถือต้องร้องอุทานอย่างตกใจเมื่อมีคนเดินเข้ามาขวางทางเดินด้านหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแล้วพบว่าเป็นคุณหมอที่แม่เคยทำงานด้วย
“อะไรมันน่าสนใจขนาดที่เดินไม่มองทางเลยหนูดาว ผมเรียกก็ไม่ยอมหันมองจนต้องรีบเดินมาตัดหน้าเนี่ย”
“อาา…ขอโทษค่ะคุณหมอ” ฉันกล่าวขอโทษคุณหมอก่อนที่จะเก็บมือถือยัดลงกระเป๋าทันที
“แล้วทำอะไรอยู่ ไปดื่มกาแฟกับผมไหม เดี๋ยวผมเลี้ยง”
“ดาวหางานทำอยู่นะคะ ส่วนกาแฟก็น่าเสียดายคุณหมออุตส่าห์เลี้ยงทั้งที แต่ดาวมีนัดกับป้าชุแล้วนะสิคะ”
“ป้าชุยังติดอยู่ในห้องผ่าตัดอยู่เลย”
“เหรอคะ…งั้นดาวไปดื่มกาแฟกับคุณหมอก็ได้ค่ะ”