เมื่อคืนหลังจากที่ได้รับสายโทรศัพท์จากคุณหมอกันต์ธีร์ ฉันกระโดดโลดเต้นยกใหญ่ด้วยความดีใจ ด้วยความตื่นเต้นเช้าวันรุ่งขึ้นฉันจึงรีบลากกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนออกจากห้องนอน ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงรูปถ่ายของแม่และพี่สาวฝาแฝด ส่งรอยยิ้มหวานไปให้และไม่ลืมที่จะกล่าวขอกำลังใจจากทั้งคู่ เพื่อให้เธอผ่านการทำงานครั้งนี้ได้โดยไม่มีอุปสรรค โดยเฉพาะเจ้างูที่เธอแอบหวั่นใจกลัวอยู่ไม่น้อย แม้คุณหมอจะบอกก่อนหน้าแล้วว่ามันไม่มีพิษก็ตาม
หลังจากที่เดินทางมาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มในที่สุดฉันก็มาถึงบ้านที่คุณหมอกันต์ธีร์ส่งโลเคชั่นมาให้ ด้านหน้าของตัวบ้านมีต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกอยู่อย่างร่มรื่น ส่วนด้านหลังติดภูเขา ดูเป็นบ้านในฝันของใครหลายๆคนเลยทีเดียวรวมถึงตัวฉันเองด้วย
สองเท้าก้าวขยับเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่หน้าบ้าน ชะเง้อคอมองไปรอบๆ สายตาก็กวาดมองไปทั่วบริเวณนั้นเพื่อชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ และตัวบ้านที่เข้ากันอย่างลงตัว
เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปภายในตัวบ้านที่ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น และเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเรียบง่ายแต่ดูมีเอกลักษณ์ ก็ได้พบเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่
“สวัสดีครับ คุณคือ…”
“ฉันเพียงดาราค่ะ คุณหมอกันต์ธีร์แนะนำมา คุณคงเป็นเจ้านายของฉันใช่มั้ยคะ”
“ไม่ใช่ครับ ผมเป็นผู้ช่วยของคุณซัน”
“เอ่อ…ค่ะ” ฉันหันมองสำรวจรอบๆ อีกครั้ง ก็ไม่พบว่าเจ้านายที่เธอต้องมาคอยรับใช้จะอยู่ในบริเวณนี้
“ฉันมีอะไรผิดปกติเหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย จะว่าเสื้อผ้าของฉันผิดแปลกก็คงไม่ใช่ แล้วทำไมผู้ชายตรงหน้าถึงเอาแต่ยืนมองฉันนิ่งด้วยท่าทางที่น่าสงสัย
“เปล่าครับ ผมไม่คิดว่าคนที่คุณหมอธีร์ส่งมาจะเป็น…”
“เธอเป็นใคร” ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะพูดจบเสียงเข้มก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ทันทีที่เจ้าของเสียงปรากฏตัว ฉันถึงกับต้องอ้าปากค้าง ใบหน้าที่ดูสง่างามสุขุม แต่กลับแฝงไปด้วยความลึกลับ ถือตัว และรังสีบางอย่างที่บ่งบอกว่าคนผู้นี้เข้าถึงยากแต่ที่ทำให้เธออ้าปากค้างหนักไปกว่าใบหน้าก็คือ รูปร่างสุดเพอร์เฟคที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ แหวกอกแน่นๆ โชว์ลอนกล้ามเนื้อที่เรียงตัวสวยตัดกับผิวสีน้ำผึ้งที่ดูสุขภาพดีจนน่าสัมผัส
“อาการหนักกว่าที่คุณหมอธีร์บอกซะอีก” ฉันเอียงคอบ่นพึมพำคนเดียวเสียงเบาไม่คิดว่าเจ้านายจะดูเข้าถึงยากและถือตัวขนาดนี้
ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเข้าหากัน ราวกับรู้ว่าฉันกำลังนินทาอยู่ ไม่พอเขายังทำหน้ายักษ์ใส่ฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ถ้าเขาคือเจ้าของงูที่เธอกำลังจะมาเลี้ยงจริงๆ ไม่อยากจะคิดถึงงูเลยว่าจะขนาดไหน
เจ้าของยังตึงขนาดนี้ แล้วงูจะตึงขนาดไหนเนี่ย
“สวัสดีค่ะฉัน…”
มือหนายกขึ้นสั่งให้ฉันหยุดพูดทั้งที่คนกำลังจะแนะนำตัวแท้ๆ ไหน คุณหมอบอกว่าเพื่อนเขารับฉันเข้าทำงานแล้วไง ดูจากสีหน้าและท่าทางมันตรงกันข้ามกันชัดๆ
*****
เพียงแค่ได้เห็นหน้าคนที่เพื่อนแนะนำมาผมก็ต้องชักสีหน้าใส่ในทันที ผู้หญิง! ผมไม่ได้ต้องการคนช่วยดูแลบ้านและเลี้ยงงูเป็นผู้หญิง ไม่รู้ว่าไอ้หมอมันลืมหรือตั้งใจกวนตีนผมกันแน่ถึงได้ไม่บอกว่าคนที่ส่งมาเป็นผู้หญิง
ผมรีบเดินปลีกตัวกลับเข้าไปในห้องแล้วโทรไปกระหน่ำด่าไอ้ตัวต้นเรื่องทันที
“มีอะไรโทรมาแต่เช้า”
“มึงส่งใครมา”
“คนเลี้ยงงูไง อย่าหลอกเด็กไปดูงูที่ห้องล่ะ”
“จะเลี้ยงหรือจะดูกูก็ไม่เอาทั้งนั้น เชิญมึงเอาเด็กนี่กลับไปดูคนเดียว”
“อะไรกัน นี่กูหาคนที่ทั้งเก่งทั้งขยันให้มึงเลยนะ”
“กูไม่ต้องการ”
“มึงต้องการ”
“กูไม่ต้องการ!!”
“แล้วมึงจะขอบคุณกู รับไว้เถอะ”
“มึงก็รู้ว่ากูไม่อยากให้ผู้หญิงมาเดินเพ่นพ่านในบ้าน กูว่าตอนกูขอให้มึงหาคนให้กูชัดเจนแล้วนะ”
“กูก็หาให้ตรงที่มึงขอทุกอย่าง มึงไม่ได้บอกกูหนิว่าต้องการเพศไหน”
“กวนตีน”
“ขอบคุณครับคุณชาย”
ไม่ว่าผมจะเอ่ยบอกหรือเอ่ยด่า ก็ดูเหมือนมันจะไม่สะทกสะท้านเลย สักนิด แถมยังมาฝากฝังให้ผมรับเธอทำงาน พร้อมอวดสรรพคุณของเด็กสาว ที่อายุห่างกับผมเกินสิบปีอย่างดิบดี
“เอาเป็นว่ามึงรับหนูดาวไว้ทำงานแล้วนะ”
“ไม่รับ ได้ยินไหม…ไอ้หมอ!!” ผมแหกปากบอกมันเสียงดัง แต่มันกลับวางสายใส่ผมซะงั้น แต่ก็ช่างเถอะผมไม่สนใจซะอย่างเดี๋ยวเด็กนั่นก็ถูกคนของผมไล่ออกไปเอง
*****
หลังจากที่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายคนใหม่ของฉันเดินจากไปอย่างไม่ไยดี ไม่แม้แต่จะฟังประโยคแนะนำตัวของฉันเลยด้วยซ้ำ ได้แต่ยืนมองตามหลังเขาไปตาปริบๆ ด้วยความมึนงง
อยู่บ้านก็ออกจะสวยหรู หน้าตาก็ดีออกปานนั้น ทำไมถึงทำตัวไร้มารยาทซะไม่มี อย่างน้อยก็อยู่ฟังฉันแนะนำตัวก่อนไม่ได้รึไง
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณเขาเป็นอะไรเหรอ หรือฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่าคะ”
ปราบที่เป็นทั้งรุ่นพี่ เป็นทั้งผู้ช่วย เป็นทั้งทนาย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้านายไม่ถูกใจที่คุณหมอส่งสาวน้อยคนนี้มาทำงาน จึงได้แต่ส่ายหัวแทนคำตอบ เพราะอีกเดี๋ยวเขาคงต้องไล่เธอให้กลับไป
หลังจากที่ชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ผมก็เดินลงบันไดมาด้วยความเชื่องช้า ตอนแรกคิดว่าเด็กสาวคงจะโดนปราบไล่กลับไปแล้ว แต่คิดดูอีกทีหากผมไม่สั่งพี่ปราบก็คงไม่ทำเลยเดินลงมาดูให้แน่ใจ และมันก็จริงอย่างที่ผมคิด เด็กสาว ยังนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาตัวกว้างไม่ขยับไปไหน
“ยังไม่กลับไปอีก” ผมเอ่ยบอกเสียงเข้ม ถึงแม้เธอจะมีใบหน้าที่สวยและสดใส ดูแล้วเธอคงเป็นคนพูดเก่งไม่น้อย แต่สิ่งเหล่านั้นตกผมไม่ได้หรอก ผมคงต้องแสดงอำนาจให้เธอเห็นเสียหน่อยว่าผมไม่ต้องการเธอ
“ทำไมดาวต้องกลับด้วยคะ คุณหมอบอกว่าคุณรับดาวเข้าทำงานแล้ว”
“ฉันกับหมอธีร์เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด คงไม่ต้องอธิบายให้เธอฟัง ยืดยาว เพราะยังไงฉันก็ไม่ต้องการเธออยู่ดี กลับไปเถอะ เดี๋ยวฉันจ่ายค่าเสียเวลาและค่าเดินทางวันนี้ให้”
ได้ฟังแค่นั้นเพียงดาราก็ไม่ยอม อุตส่าห์นั่งรถมาตั้งไกลตั้งใจ เตรียมตัวเต็มที่มาทำงานนี้ ทั้งศึกษานิสัยและการดูแลงูสายพันธุ์ที่เขาเลี้ยง ทั้งเรียนรู้วิธีการดูแลทำความสะอาดบ้านให้สะอาดแบบมืออาชีพมาขนาดนี้