ตอนที่ 1

600 Words
แสงสีขาวนวลของหลอดไฟในห้องผู้ป่วย ส่องสะท้อนลงมาบนใบหน้าคมคายของชายหนุ่มร่างสูงที่เพิ่งลืมตาขึ้นช้า ๆ เปลือกตาหนักอึ้งค่อย ๆ เปิดเผยนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่เต็มไปด้วยความเฉยชาและเยือกเย็น เขากะพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับโฟกัส ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างนิ่งเงียบ เพดานสีขาวเรียบ และกลิ่นยาฆ่าเชื้ออ่อน ๆ บอกเขาได้ทันทีว่าที่นี่คือโรงพยาบาล ชายหนุ่มค่อย ๆ ขยับตัว ลุกขึ้นนั่งบนเตียง โดยที่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บใด ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ทั้งบาดแผลที่ไหล่และหน้าท้องเหมือนถูกลบเลือนหายไป เขาไม่ได้แสดงอาการตกใจหรือสงสัยใด ๆ ใบหน้าคมที่ผสมผสานความหล่อเหลาระหว่างสายเลือดอิตาเลียนและไทยดูสงบนิ่ง ดวงตาคมเฉี่ยวใต้คิ้วเข้มมองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้ความรู้สึก ริมฝีปากได้รูปแน่นสนิท “คริส... ลูกเป็นยังไงบ้าง เจ็บไหม อย่าเพิ่งขยับนะลูก” เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นจากข้างเตียง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ทั้งน้ำเสียงและแววตาสะท้อนความรักที่เปี่ยมล้น คาริมาแม่ของคริส เดินเข้ามานั่งข้างเตียง จับมือเขาไว้แน่นด้วยความหวั่นใจ “ไม่ครับ” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ เสียงเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความมั่นคง เสียงของเขาเย็น ราบเรียบ เหมือนไม่มีอะไรสามารถสั่นคลอนความคิดในใจได้เลยแม้แต่น้อย แต่ขณะเดียวกัน น้ำเสียงนั้นก็มีความนุ่มลึก อ่อนโยน และเคารพต่อผู้เป็นแม่ “คริส แม่ขอร้องเถอะนะ เลิกตามรอยพ่อเถอะ แม่ไม่อยากเสียลูกไปอีกคน…” คาริมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาคู่นั้นเริ่มคลอด้วยหยดน้ำใส ๆ ที่เธอพยายามกลั้นไว้ “ผมคุยกับแม่หลายรอบแล้วนะครับ” คำพูดนิ่งเกินไป ราวกับเป็นประโยคที่เขาพูดซ้ำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน “แม่ไม่อยากเห็นจุดจบของลูกเหมือนพ่อ... ลูกก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าพ่อจบยังไง...” เสียงเธอขาดห้วง จับมือเขาแน่นขึ้น ขณะที่น้ำตาหยดแรกไหลลงบนหลังมือของลูกชายอย่างแผ่วเบา “ผมจะกลับบ้าน” เอ่ยจบ ชายหนุ่มก็ลุกจากเตียงทันที เดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรต่อ ทิ้งให้คาริมานั่งนิ่งกับสีหน้าหนักใจ ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง เหลือเพียงเสียงถอนหายใจเบา ๆ ของเธอเท่านั้นที่ดังสะท้อนในอากาศ ไม่ม่นานหลังจากนั้น ประตูห้องน้ำก็เปิดออก คริสปรากฏตัวอีกครั้งในชุดใหม่เสื้อเชิ้ตแบรนด์ดังสีกรมเข้มแบบคัสตอมเข้ารูปเล็กน้อย แมทช์กับกางเกงสแลคผ้าวูลเนื้อดีสีดำสนิทและรองเท้าหนังเงาวับราคาแพง กลิ่นน้ำหอมโทนเย็นจากต่างประเทศจาง ๆ ลอยติดตัวเขา เสื้อผ้าทุกชิ้นไม่มีอะไรฟุ่มเฟือยแต่บอกชัดถึงฐานะและรสนิยมชั้นสูงของเขา "ไอ้ทัศ มึงไปส่งม๊ากูให้ถึงบ้าน" คริสหันไปมองทัศไทลูกน้องมือซ้ายของตัวเอง ทัศไททำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง สีหน้าเหมือนลังเลอยากบอกหรือเตือนบางอย่าง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ย “ส่วนมึง ไอ้ไท ไปรับยัยควีนกับกูที่สนามบิน” คริสเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง พร้อมสายตาเฉียบคมมองไปยังไททั่น ไททั่นเหลือบตามองน้องชายแฝดของตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินตามคริสไป โดยไม่มีใครพูดอะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD