ลิษาก้าวเดินเข้ามาในซอยร้างที่เคยมีชีวิตชีวาเมื่อหลายปีก่อน ก่อนเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่จะกลืนกินบ้านเรือนหลายหลังในพริบตา ผู้คนพากันอพยพ ทิ้งไว้เพียงเศษซากของความทรงจำ ทั้งผนังไหม้เกรียม หน้าต่างแตกกระจาย และเสียงลมหวิวที่ลอดผ่านช่องว่างของซากตึก
ข้างทางมีเพียงเถาวัลย์แห้งที่เลื้อยคลุมซากอิฐ ป้ายเก่าขึ้นสนิม และกลิ่นควันไฟเก่า ๆ ที่ยังหลงเหลือในอากาศ
ลิษาเดินผ่านซอยอย่างคุ้นเคย ก่อนจะหยุดหน้ากระท่อมไม้หลังเล็กที่ด้านนอกแทบจะพังทลายอยู่รอมร่อ ผนังด้านหนึ่งไหม้จนกลายเป็นสีดำสนิท ส่วนอีกด้านพังถล่มไปแล้วครึ่งหนึ่ง ดูยังไงก็ไม่มีทางอยู่ได้
แต่ลิษากลับเดินไปเปิดประตูไม้ที่ดูผุพังนั้นก่อนจะก้าวเข้าไป เมื่อประตูปิดลง บรรยากาศกลับเปลี่ยนไปในพริบตา
ด้านในไม่ได้ร้างเหมือนภายนอก แต่กลับสะอาด เรียบง่าย และมีทุกอย่างที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต
มุมหนึ่งมีห้องครัวเล็ก ๆ ที่จัดอย่างเป็นระเบียบ มีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเล็ก ๆ อ่างล้างจานและตู้เก็บของ อีกฝั่งเป็นห้องน้ำแยกต่างหาก ตรงกลางเป็นโต๊ะทำงานไม้เรียบ ๆ วางโน้ตบุ๊กสองเครื่อง โทรศัพท์เข้ารหัส และแผนที่เขียนด้วยหมึกแดง ด้านบนผนังยังมีบอร์ดติดรูปบุคคลและข้อมูลต่าง ๆ
“ไอทิวไม้ ทำไร” ลิษาเอ่ยถามเสียงเรียบ แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความจับผิด เมื่อเดินเข้ามาเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังแอบทำอะไรบางอย่างอยู่หลังชั้นเก็บของ
“โห่ว เจ๊ มาไม่ซุบไม่เสียงเลย!”
ทิวไม้สะดุ้งเฮือก รีบพับโน้ตบุ๊กลงอย่างรวดเร็ว แล้วหันมายิ้มแห้ง ๆ เขาเป็นชายหนุ่มร่างผอม ใส่แว่นทรงกลมหนา ๆ มีท่าทางกวน ๆ ติดเล่นไปเรื่อย
“เมื่อกี้ทำไร” ลิษาถามต่อโดยไม่ละสายตา แววตานิ่งเรียบแต่ชัดเจนว่าเธอรู้ทัน
“ก็แบบ...มันก็ต้องมีบ้างแหละเจ๊ ผมก็อยากดูสาวบ้างไรบ้าง อยู่ในนี้เป็นอาทิตย์แล้ว ไม่มีแสงแดด ไม่มีเสียงผู้หญิง ใจมันเหงา”
ทิวไม้พูดพร้อมยักคิ้วสองสามที กลบเกลื่อนความจริงที่ว่าเขากำลังดูคลิปไลฟ์สดของสาวเน็ตไอดอลอยู่ ลิษาส่ายหน้านิดหน่อย ไม่ได้ว่าอะไรต่อ
“อื้ม...เรื่องไปถึงไหนแล้ว?” ลิษาเปลี่ยนน้ำเสียงกลับมาจริงจัง ดวงตาคมหรี่ลงนิด ๆ เมื่อพูดถึงเรื่องงาน
“พร้อมแล้วเจ๊ ผมตรวจสอบทางเข้า ทางออก ข้อมูลกล้องวงจรปิด สัญญาณบุรุก และเส้นทางหลบหนีเรียบร้อยหมดแล้ว ข้อมูลในระบบของอีกฝั่งก็เจาะเข้าไปเก็บมาหมดตามที่เจ๊ขอ…”
ทิวไม้รายงานด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนจากขี้เล่นมาเป็นจริงจัง เขายืนขึ้นจากเก้าอี้ หมุนโน้ตบุ๊กหันให้ลิษาดูหน้าจอที่แสดงแผนผังโกดัง และข้อมูลของมาเฟียที่พวกเขาต้องเจอ
“อย่าลืม เรื่องนี้อย่าให้พี่เทวารู้เด็ดขาด” ลิษาเอ่ยเสียงเรียบ สีหน้าและน้ำเสียงจริงจังยิ่งกว่าเดิม ทิวไม้เงียบไปครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา
“เจ๊…ผมว่าเจ๊ยกเลิกงานรอบนี้เถอะนะ” ลิษาหันมามองทิวไม้ที่ไม่กล้าสบตาเธอ สองมือประสานกันแน่นเหมือนกำลังกลัวคำตอบ
“รอบนี้เงินมันไม่ใช่น้อย ๆ ฉันสามารถซื้อยาให้แม่ได้อีกหลายเดือน”
ลิษาตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง สายตาแน่วแน่ เธอเดินไปหยิบแจ็กเก็ตสีดำจากพนักเก้าอี้ ก่อนจะเตรียมตัวออกไป
“แต่ผู้กองเขาเป็นห่วงเจ๊นะ เจ๊ไปคนเดียว แล้วรอบนี้มันเกี่ยวกับพวกมาเฟียตัวใหญ่เลย ไหนจะพวกรัสเซียที่เพิ่งเข้ามาอีก ผมไม่สบายใจเจ๊”
ทิวไม้ลุกขึ้นยืน แต่ยังคงพูดโดยไม่มองหน้าลิษาเขาไม่กล้าบอกว่าตัวเองกลัวว่าจะไม่ได้เห็นเจ๊ที่เขานับถือเหมือนพี่สาวกลับมาอีก ลิษาหยุดฝีเท้าชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองเขา
“เย็นนี้เจอกัน เตรียมของไว้ให้ครบ”
ลิษาพูดนั้นทิ้งไว้แค่เท่านั้น ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปอ ร่างเพรียวหายลับไปกับบานประตูทิ้งทิวไม้ไว้กับความกังวลที่ยังติดอยู่เต็มอก
17:30 น.
“ของพร้อมใช่ไหม?”
ลิษาเอ่ยถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องสายตาเธอก็จับจ้องไปที่ชุดสีดำซึ่งถูกแขวนอยู่บนหุ่นจำลองอย่างพอดิบพอดี
“พร้อมเจ๊ นั่นชุดอยู่ตรงนั้น ผมเตรียมอุปกรณ์ครบหมดเหมือนทุกครั้งแล้ว มีทั้งอาวุธหลัก อาวุธสำรอง อุปกรณ์สื่อสาร แล้วก็...ของเล่นใหม่ที่เจ๊น่าจะชอบ”
ทิวไม้ตอบกลับอย่างกระตือรือร้น เขาผลักแว่นหนาขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มจาง ๆ ผสมความกังวลผ่านแววตา
สายตาของลิษาหยุดลงที่ชุดสีดำสนิทซึ่งถูกวางไว้บนหุ่นอย่างเรียบร้อย ชุดที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับเธอโดยทิวไม้
ตัวชุดเป็นเนื้อผ้าแบบพิเศษ ทนความร้อน กันน้ำ และยืดหยุ่นได้ดี ไม่มีซิปหรือกระดุมให้เกะกะจนอาจเสียจังหวะในการเคลื่อนไหว หมวกคลุมศีรษะที่ติดมากับตัวชุดแนบสนิทกับรูปหน้า และมีผ้าคลุมหน้าบางเฉียบแต่แน่นหนา ปิดบังใบหน้าได้หมด
รองเท้าทรงเรียบเรียบพื้นต่ำ ออกแบบพิเศษให้เกาะพื้นได้ดีแม้ในสภาพแวดล้อมลื่นหรือเปียกบริเวณรอบเอวมีสายคาดอเนกประสงค์สำหรับพกพาอาวุธครบครัน ทั้งปืนพก มีดสั้น เข็มแรงดันสูง และอุปกรณ์ล้วงข้อมูลจิ๋วที่ซ่อนอยู่ตามช่องเล็ก ๆ ในชุด ทุกอย่างพร้อมสำหรับภารกิจคืนนี้
“อื้ม...ขอบใจ คอยดูทางให้ฉันด้วย มีอะไรผิดปกติแจ้งมาทันที ฉันจะรีบไป รีบกลับ”
เสียงของลิษายังคงเย็นนิ่งเหมือนเดิม ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินตรงเข้าไปยังห้องเปลี่ยนชุดโดยไม่เปิดโอกาสให้ทิวไม้พูดอะไรต่อทิวไม้ได้แต่มองตามแผ่นหลังของหญิงสาวอย่างห่วง ๆ
"เฮ้อ...เจ๊แม่งโคตรหัวรั้นเลยว่ะ" ทิวไม้พึมพำในลำคอเบา ๆ ก่อนจะหันกลับมานั่งหน้าจอมอนิเตอร์ เช็กระบบวงจรกล้องจากโดรนและดาวเทียมจำลองที่เขาเจาะไว้เรียบร้อย