ตอนที่ 15

1525 Words
“พาฉันมาที่นี่ทำไม” เสียงของลิษาดังขึ้นอย่างเรียบนิ่ง ขณะสายตาจ้องมองคอนโดหรูตรงหน้า รถหรูคันนั้นจอดสนิทอย่างเรียบร้อยใต้ชายคา ท่ามกลางเสียงฝนกระหน่ำลงมาราวฟ้ารั่ว “ก็เธอไม่บอกว่าจะให้ไปส่งที่ไหน” คริสตอบเรียบ ๆ โดยไม่หันมามอง ลิษาชะงักทันที ก็จริง... เธอไม่ได้บอกอะไรเขาเลย แต่นั้นกลับยิ่งทำให้ลิษารู้สึกหงุดหงิดในใจมากขึ้น เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย ลิษาบ่นในใจ พร้อมเม้มริมฝีปากแน่น “เออ... งั้นฉันกลับเองก็ได้” ลิษาเอ่ยเบา ๆ แล้วเอื้อมมือจะเปิดประตูรถ แต่เสียงของควีนก็ดังขึ้น “ไม่เห็นเหรอว่าข้างนอกฝนตกหนัก” น้ำเสียงเรียบนิ่งของควีน แต่ดวงตากลับฉายแววเจ้าเล่ห์นิด ๆ ไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น ควีนยังตั้งใจ ไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย นั่งไขว่ห้างอย่างสวยงาม แถมยังเอนหลังพิงเบาะ พร้อมกอดอก เหมือนจงใจกั้นทาง ครื๊ด~ ครื๊ด~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันควัน ลิษาก้มมองจอ ก่อนจะคลี่ยิ้มจาง ๆ ออกมาชื่อที่โชว์บนหน้าจอคือ ภูต้น ลิษารีบจะกดรับ เธอหวังจะให้ภูต้นมารับ แต่ก่อนที่ปลายนิ้วเธอจะสัมผัสปุ่มรับสาย... พลั่ก! บางอย่างสัมผัสเบาะเบา ๆ ก่อนที่โทรศัพท์ของลิษาจะหลุดจากมือ และกระเด้งกลิ้งตกลงไปใต้เบาะหน้าอย่างพอดิบพอดี ลิษาชะงัก แล้วหันขวับไปมองควีน ซึ่งในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ควีนก็ยืดขายาวไปด้านหน้า กอดอกอย่างไม่สนใจ “เมื่อย เดี๋ยวฉันให้คนเอาให้” น้ำเสียงฟังดูสุภาพ แต่ท่าทางนั้น แทบจะเขียนคำว่า ตั้งใจไว้เต็มหน้าผาก ลิษากำมือแน่น สันกรามขึ้นชัดอย่างข่มอารมณ์ แต่เธอก็เลือกจะนิ่ง เลือกจะไม่ตอบโต้อะไรตอนนี้ แลมเดินมาเปิดประตูฝั่งควีน พร้อมกางร่มสีดำอย่างนอบน้อม “เชิญครับคุณหนู” ควีนลุกจากเบาะ ก้าวลงจากรถอย่างงดงามก่อนจะหันมายิ้มให้คริส ควีนเดินเชิดหน้าเข้าคอนโดไปทันทีโดยไม่เหลียวหลัง ทันใดนั้น ไททั่นก็รีบเปิดประตูฝั่งลิษา พร้อมหยิบร่มเดินเข้ามาเพื่อรับเธอ แต่ก่อนที่เขาจะยื่นร่มให้ เสียงเรียบนิ่งของคริสก็ดังขึ้น “เอามา” คริสพูดขณะมองตรงไปที่ไททั่น ไททั่นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหลุบตาต่ำแล้วส่งร่มในมือตัวเองให้กับเจ้านาย คริสไม่พูดอะไรอีก แค่เปิดประตูฝั่งตัวเอง แล้วเดินอ้อมมาหยุดที่ข้างประตูของลิษา ก่อนจะกางร่มให้เธอเอง การกระทำเรียบง่ายนั้น ทำให้แลมถึงกับยืนชะงัก เขาทำงานคริสมานาน ไม่เคยเห็นนายของตนทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเองมาก่อน “ลงมา” เสียงคริสพูดอีกครั้ง พร้อมกวักมือเบา ๆ ลิษานิ่งอยู่เพียงอึดใจ ก่อนจะตัดสินใจก้าวลงจากรถ เธอไม่ได้พูดอะไรกับเขา เพียงแต่เงียบและเดินตามใต้ร่มที่เขากางให้อย่างไม่เต็มใจ ด้านหน้าคอนโด มีเพียงเสียงฝนตกกระทบพื้น ควีนที่เดินไปถึงลิฟต์แล้ว ก็กดลิฟต์และหายเข้าไปทันที “เอ้า เดี๋ยวสิ!” ลิษาเอ่ยเรียกอย่างไม่พอใจ แต่ควีนไม่แม้แต่จะหันกลับมา ประตูลิฟต์ปิดลงเงียบงัน ทิ้งให้ลิษายืนสบถในใจอย่างหงุดหงิด . ลิษาก้าวเข้ามาในห้องพักหรูขนาดใหญ่ ผนังสีเทาเข้มตัดกับเฟอร์นิเจอร์หนังแท้โทนดำและน้ำตาลเข้ม ทุกอย่างดูสะอาด เรียบหรู แต่บรรยากาศภายในห้องดูนิ่ง เงียบ จนลิษารู้สึกประหม่า “จะยืนมองอีกนานไหม” เสียงเรียบของคริส ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ลิษาสะดุ้งนิด ๆ โดยไม่รู้ตัว เธอหันขวับไป ก็เห็นคริสยืนกอดอกอยู่ข้างเคาน์เตอร์บาร์ ที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่น “เออ... ผู้หญิงเมื่อกี้ไปไหนแล้ว?” ลิษาถามเสียงเรียบ พยายามปรับสีหน้าให้ดูเฉย คริสยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย เหมือนไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรเลย “ไปนอนกับแฟน” คริสตอบง่าย ๆ ก่อนจะหมุนตัวไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดไวน์แดงออกมา พร้อมแก้วไวน์สองใบ คำตอบของคริส ทำให้ลิษาชะงัก เพราะสิ่งที่คริสกำลังแสดงออก คือความตรงไปตรงมาที่น่าหมั่นไส้ “ดื่มไหม?” คริสเอ่ยชวน ขณะเทไวน์ลงในแก้วอย่างใจเย็น แล้วหันมายื่นให้เธอใบหนึ่ง ลิษาเงยหน้ามองคริส... ดวงตานั้นสะท้อนแววกร้าวขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนจะถูกปิดบังไว้ด้วยรอยยิ้ม ลิษากำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว เพราะในหัว ภาพใบหน้าเทวาที่เต็มไปด้วยเลือดยังคงฉายชัด คนที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ คือต้นเหตุที่ทำให้เทวาต้องตาย แต่เขากลับใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย ราวกับไม่เคยมีใครต้องตายเพราะเขาเลยแม้แต่คนเดียว “อื้ม...” ลิษาตอบรับเรียบ ๆ ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ “แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ” น้ำเสียงนุ่มนวลอย่างตั้งใจของลิษา รอยยิ้มที่ดูอ่อนโยน แต่สายตากลับไม่มีแววอ่อนโยนเลยแม้แต่นิด คริสหยุดมือที่กำลังจะยกแก้วขึ้นจิบ เขาหันมองลิษาอย่างพินิจ ดวงตาสีเข้มนิ่งงันขณะจับจ้องใบหน้าและดวงตาของหญิงสาว รอยยิ้มของเธอ... สดใสก็จริง แต่ไม่เป็นธรรมชาติ มันเหมือนกับภาพลวงตา แต่นั้นกลับทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวลิษาขึ้นมา มากกว่าเดิม “ตามสบาย” คริสเอ่ยสั้น ๆ ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ แล้วทิ้งตัวลงนั่งพิงโซฟาตัวใหญ่ตรงกลางห้อง แสงไฟตกกระทบใบหน้าคมของเขา สะท้อนประกายไวน์ในแก้วเหมือนโลหิตที่ขลุกขลักในความมืด ลิษามองภาพตรงหน้าเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในโซนด้านในของห้อง ก๊อก ก๊อก “เข้ามา” คริสที่คิดว่าเป็นไททั่น ที่อาจมีธุระมาแจ้งเลยให้เขามา แต่ประตูที่เปิดออก กลับไม่ได้มาพร้อมกับความนิ่งสงบแบบไททั่นเลยแม้แต่นิด “เฮ้ย ไปคลับไหมวะ คืนนี้เด็ด ๆ ทั้งนั้น!” เสียงทุ้มร่าเริงดังขึ้นพร้อมร่างสูงของมาวินที่โผล่พรวดเข้ามาเหมือนเจ้าของห้อง ชายหนุ่มเจ้าสำราญในชุดลำลอง เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ดเผยอก กับรอยยิ้มขี้เล่น “กูไม่ไป มึงรีบออกไปซะ” คริสเอ่ยเสียงเรียบแต่น้ำเสียงเย็นจัด เหมือนไม่ยินดีเลยกับการมาของมาวิน สายตามาวินเหลือบไปเห็นแก้วไวน์สองใบที่วางอยู่บนโต๊ะ ก็กวาดมองรอบห้อง เดินไปนั่งบนโซฟา แล้วทำท่าจะยื่นมือไปหยิบไวน์ขึ้นจิบ แต่ไม่ทันถึง แก้วไวน์ก็ถูกคริสแย่งกลับไปอย่างรวดเร็ว พร้อมสายตาดุ ๆ ที่ส่งมาราวกับจะฆ่ากันให้ตาย “เฮ้ย อยู่กันสองคนแบ่ง ๆ กันดิวะ” “คุณ...” เสียงหวานนุ่ม ดังขึ้นจนทั้งคริสและมาวินต้องหันขวับไปตามเสียงโดยอัตโนมัติ และนั่นคือภาพที่ทำให้ทั้งสองคนชะงัก ลิษา เธอเดินออกมา มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวพันกายไว้ ผมยาวของเธอยังเปียกหยดน้ำไหลลงตามต้นคอ ช่วงไหล่เปลือยเปล่าและเรียวขาขาวนวลที่ก้าวออกมาดูอ่อนช้อย คริสชะงัก นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบคว้าหมอนบนโซฟาขึ้นมาปิดหน้ามาวินทันที “โอ๊ย ๆ ไอ้สัสคริส” มาวินร้องลั่น พร้อมยื้อหมอนออกจากหน้า คริสไม่รอฟัง เขารีบก้าวเข้าไปหาลิษา แล้วคว้ามือเธออย่างรวดเร็ว เข้าไปในห้อง “นี่เธอ... ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน" สายตาคมดุจ้องไปยังเนินอกของเธอที่โผล่พ้นผ้าขนหนูออกมา จนคริสเผลอกลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัว “ก็ฉันไม่มีเสื้อใส่ ฉันทำเสื้อฉันตกพื้นจนเปียก ว่าจะขอยืมเสื้อคุณ” “แต่เธอก็ไม่ควรเดินออกไปในสภาพนี้” คริสตวาดเสียงดังกว่าเดิมเล็กน้อย ลิษายกยิ้มเล็กน้อย ขณะเอียงคออย่างไม่สะทกสะท้าน “แล้วคุณจะเสียงดังใส่ฉันทำไม” น้ำเสียงเธอไม่แผ่ว ไม่ยั่ว แต่กลับทำให้บรรยากาศในห้องร้อนขึ้นอย่างประหลาด คริสนิ่งไป ไม่รู้จะตอบว่าอะไร เลยหันหลังเดินปึงปังไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดมันออกแรง ๆ แล้วคว้าเสื้อเชิ้ตสีดำของตัวเองออกมาหนึ่งตัว พรึบ~ คริสโยนเสื้อให้เธอแรงไปหน่อย จนปลายแขนเสื้อฟาดเข้าที่ศีรษะของลิษาเบา ๆ “รีบใส่ซะ” คริสพูดเสียงต่ำ แล้วรีบเดินออกจากห้องทันที ลิษามองตามหลังเขาที่เดินหนีไป ก่อนจะก้มลงเก็บเสื้อขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD