หนึ่งอาทิตย์ต่อมา “ลิษา เป็นไงบ้างลูก” เสียงของสารภีดังขึ้นขณะเดินเข้ามาพร้อมถาดยาและผ้าชุบน้ำอุ่นในมือ ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความอ่อนล้า บนเตียงไม้ที่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาว ลิษานอนพิงหมอนอยู่ เธอสวมเสื้อยืดบางสีเทา แขนเสื้อถลกขึ้น เผยให้เห็นรอยฟกช้ำตามต้นแขน และสีหน้าที่ซีดเซียวกว่าปกติ แม้ปากจะยิ้มบาง ๆ แต่ความเจ็บจากบาดแผลยังฉายชัด “ดีขึ้นแล้วค่ะ” เสียงเธอฟังดูพยายามให้สดใส ทว่าพอจะลุกนั่ง สีหน้าของลิษาก็เปลี่ยนเป็นเจ็บปวด มือข้างหนึ่งเผลอกุมหน้าท้องไว้แน่น แล้วต้องเอนตัวกลับลงนอนในท่าเดิม “โอ๊ย...” เสียงครางเบา ๆ หลุดออกมาจากริมฝีปาก เธอหลับตาแน่น ขณะที่สารภีรีบวางถาดยาแล้วนั่งลงข้างเตียง ใช้มือแตะหน้าผากลูกเบา ๆ “ลิษา บอกแม่เถอะ ว่าลูกไปโดนอะไรมา...” น้ำเสียงอ่อนโยนของแม่ที่แฝงด้วยน้ำตาเอ่ยขึ้น คราวนี้ดวงตาของสารภีคลอไปด้วยหยดน้ำใส “เอ่อ... ลิษาแค่ไปมีเรื่องกับพวกลิ้นจี่ก็แค่น

