ตอนที่ 11

1262 Words
เสียงแป้นคีย์บอร์ดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในห้องที่มีเพียงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป นิ้วเรียวยาวของหญิงสาวเคลื่อนไหวรวดเร็วแม่นยำ ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความเฉียบคมโน้มเข้าใกล้หน้าจอ สีหน้าจริงจังจนเห็นได้ชัดจากแววตา ลิษาเลื่อนสายตาอ่านข้อมูลบนจอที่เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพ “คริสโตเฟอร์ มีน้องสาวฝาแฝด ชื่อควีน หรือ ควีนเนลล่า” เสียงพึมพำแผ่วเบาหลุดจากริมฝีปากสีชมพู ด้วยความระวังและจับตามองทุกตัวอักษร “มารดาชื่อ คาริมา อาชีพขายอาหารตามสั่ง หื้ม?” ลิษาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย ริมฝีปากขบเข้าหากันเล็กน้อยเหมือนกำลังประมวลผลข้อมูลที่ดูไม่สอดคล้องกัน “แปลก... ชายผู้ที่เป็นหนุ่มธุรกิจมากมาย มีอำนาจ มีชื่อเสียง และเป็นที่หวาดกลัวของใครหลายคน แต่แม่กลับขายอาหารตามสั่ง?” น้ำเสียงลิษาแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจปะปนกับความแคลงใจ มือบางขยับเมาส์เลื่อนไปยังหน้าถัดไป ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด “ผลไม้แปรรูป? บริษัทอาหารแปรรูป? และธุรกิจส่งออกอีกงั้นหรอ” ลิษาพึมพำกับตัวเอง ดวงตาหยุดนิ่งไปชั่วขณะก่อนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “หึ… ธุรกิจบังหน้าชัด ๆ” แต่ทันทีที่คิดถึงชื่อของใครบางคน ใบหน้าของผู้ชายที่เธอรักที่สุด ผุดขึ้นมาซ้อนทับกับข้อมูลตรงหน้า หัวใจลิษาบีบรัด ริมฝีปากเม้มแน่น “ไม่น่า พี่เทวา ถึงทำอะไรคนอย่างแกไม่ได้” ลิษาเสียงสั่นเล็กน้อย แต่เปี่ยมด้วยแรงกดดันทางอารมณ์ ใช่...ทุกครั้งที่เทวาพยายามเปิดโปงการกระทำของคริส ไม่ว่าจะด้วยหลักฐานหรือข้อมูลแน่นแค่ไหน เรื่องราวก็ถูกพลิกกลับ เหมือนมีคนควบคุมเงามืดอยู่เบื้องหลัง “หลักฐานที่ชัดเจน กลับกลายเป็นคำโกหก..” “คนแจ้งความ กลับกลายเป็นผู้ใส่ร้าย…” “ทุกคดี ถูกปิดด้วยเงิน และอำนาจ...” เสียงของลิษาแข็งกระด้างขึ้นอย่างช้า ๆ มือที่พิมพ์คล่องเริ่มกำแน่นขึ้น “เหลือแค่พี่เทวา ที่พยายามยืนหยัด แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้” เมื่อเลื่อนหน้าจอลงไปอีกนิด ภาพสองชายหนุ่มก็ปรากฏขึ้นบนจอ ภาพที่แม้ไม่ได้เห็นชัดนัก แต่ก็ชัดพอให้เธอจำได้ “นี่มันไอสองแฝดนรก" แววตาลิษาเปลี่ยนไปทันทีจากแววสงสัย กลายเป็นแววตาของคนที่มีไฟในอก มือที่จับเมาส์อยู่กำแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดชัด “สองบอดี้การ์ดของคริสโตเฟอร์... ไททั่น กับ ทัศไท” เสียงเข้มและเยือกเย็น ริมฝีปากขยับช้า ๆ พร้อมคำพูดที่เหมือนคำสาปของคนที่พร้อมจะยอมแลกทุกอย่าง “ฉันจะฆ่าแกให้ได้ ไอคริสโตเฟอร์ ถ้าแกไม่ตาย...” ดวงตาหญิงสาวจ้องแน่นที่ภาพชายบนจอ “ก็ขอให้ฉันตายไปก่อน” “เพราะถ้าฉันยังมีลมหายใจ ฉันจะตามล่าแกไปทุกที่ ไม่ว่าที่ไหนของโลก จนกว่าฉันกับแกจะตายกันไปข้างนึง” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้นที่กดทับในอกมาสามเดือน ความรักที่พังทลาย ชีวิตที่สูญเสีย เทวาที่จากไปต่อหน้า ทั้งหมดกำลังถูกหลอมรวมเป็นความแค้นเดียว ที่ปลายทางคือความตายเท่านั้น . ควีนเปิดประตูห้องทำงานของคริสเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ส้นสูงสีดำเงาสะท้อนแสงไฟในห้องขณะก้าวเดินเข้ามาช้า ๆ ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบห้อง แล้วไม่พบคริส "หายไปไหน" ควีนบ่นเบา ๆ กับตัวเอง แล้วเดินตรงไปนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำอย่างสง่างาม ขาที่ยาวเรียวไขว่ห้างอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะ คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย "จะทำงาน จนไม่เห็นฟ้า เห็นตะวันเลยหรือไง " ควีนพึมพำ แล้วหยิบมันขึ้นมา แต่ทันทีที่ดึงเอกสารออกมา สิ่งที่ปรากฏกลับไม่ใช่แผนธุรกิจ หรือรายรับรายจ่าย แต่เป็นแฟ้มข้อมูลบุคคล พร้อมรูปถ่ายผู้หญิง ผู้หญิงที่หน้าตาสะดุดตา รอยยิ้มของเธอสดใสจนน่าหลงใหล แม้แต่ควีน ผู้หญิงด้วยกันเอง ยังรู้สึกได้ ควีนจ้องรูปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “คนอะไร ขนาดในรูป รอยยิ้มยังสดใสได้ขนาดนี้” ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่หาได้ยากจากควีน ใบหน้าเย็นเฉียบเสมือนรูปปั้นหิน พอมีรอยยิ้มก็ยิ่งงามเกินจะละสายตา แกร๊ก เสียงประตูเปิดออกเรียกให้ควีนละสายตาจากรูป เธอปรายตามองไปยังประตูเพียงเสี้ยววินาที ก่อนกลอกตาอย่างเบื่อหน่ายทันที ผู้หญิงในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่เปิดประตูเข้ามา เธอมองเห็นก็แทบจะถอนหายใจอัตโนมัติ แล้วเบือนหน้าไปอีกทาง ทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นเพียงอากาศ แล้วกลับมาสนใจรูปในมือแทน "เห้อ เสียดายมาช้าไปหน่อย คุณคริสเขาคงไม่ต้องการเธอแล้วแหละ" เสียงแหลมสูงที่เต็มไปด้วยความดูแคลนเอ่ยขึ้น หญิงสาวในชุดแดงเดินเข้ามาอย่างมั่นใจ มองควีนเหมือนไม่รู้ว่าเธอคือใคร ควีนไม่ตอบกลับ เธอไม่แม้แต่จะหันมามองด้วยซ้ำ เพราะเธอรู้จักนิสัยของผู้หญิงพวกนี้ดี พวกที่อยากรวยเร็ว พวกที่ใช้ร่างกายเข้าหาอำนาจ และหวังจะได้ตำแหน่งข้างกายคนอย่างคริส หญิงสาวในชุดแดงเดินเข้าใกล้โซฟา แล้วสายตาก็เหลือบเห็นรูปในมือควีน เธอหยุดชะงักไปเล็กน้อย ริมฝีปากแสยะออกเบา ๆ เมื่อรู้ว่าผู้หญิงในรูปนั้นสวยมาก มากกว่าที่เธอเคยเจอ "หึ..." เธอหัวเราะในลำคอ แล้วหยิบน้ำดื่มขึ้นมา เทมันลงไปบนรูปในมือควีนแบบจงใจ น้ำไหลรินลงบนกระดาษจนเปียกชุ่ม รูปถ่ายที่เคยคมชัดเริ่มเบลอ สีหมึกเริ่มละลาย “อุ๊ย...เปียกหมดเลยอ่ะ เดี๋ยวฉันเช็ดให้นะ” เธอพูดพลางเสแสร้งหาเช็ดชู่ไปรอบ ๆ อย่างจงใจ แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับชุดแบรนด์เนมที่ควีนสวมอยู่ ชุดผ้าซาตินเรียบหรูปักคริสตัลจากปารีส เธอยื่นมือไปจับชายเสื้อของควีนแล้วเช็ดน้ำตรงโต๊ะอย่างหน้าตาเฉย เพียงชั่ววินาทีนั้น ควีนก็ลุกพรวดขึ้น ดวงตาวาวโรจน์ด้วยโทสะ มือขาวกระชากผมยาวของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ปรานี จนอีกฝ่ายเกือบหงายหลัง เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือตบเข้าใบหน้าอีกฝ่ายดังลั่น ร่างในชุดแดงหมุนไปตามแรง ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น ใบหน้าแหงนขึ้น มีเลือดซึมออกจากมุมปาก ควีนก้าวเข้าไปหาช้า ๆ ดวงตาคมกริบมองต่ำลงอย่างเหนือกว่า ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง “ฉันไม่ใช่คนที่ผู้หญิงสมองน้อยแบบเธอจะมาทำอะไรต่ำ ๆ ใส่ฉันได้ ” ควีนชี้นิ้วลงบนหน้าหญิงสาวที่นั่งกองอยู่กับพื้น พร้อมย่อตัวลงเล็กน้อย สายตานิ่งกริบจ้องตรงจนอีกฝ่ายต้องหลบตา “จำไว้ให้ขึ้นใจ จะทำอะไรก็หัดเจียมตัวซะบ้าง ออกไปซะแล้วอย่าให้ฉันเห็นเธอรอบสอง" ควีนเอ่ยเสียงต่ำ ดวงตาดุดันเหมือนเสือที่ครองถ้ำ ควีนยืดตัวขึ้นอีกครั้ง ดึงชายเสื้อที่ถูกใช้เช็ดน้ำออกด้วยความรังเกียจเล็กน้อย แล้วปรายตามองหญิงสาวที่ยังช็อกอยู่กับพื้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD