ภายในโกดังร้างย่านชานเมืองกรุงเทพ กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ตรงมุมโกดัง ยืนพิงเหล็กสนิม สูบบุหรี่อย่างไม่รีบร้อน ควันขาวที่ลอยต่ำอยู่ทั่วบริเวณ บรรยากาศเย็นชื้นหลังฝนตกพรำ ๆ เพิ่งหยุดไปไม่นาน เสียงสูดบุหรี่ดังเป็นจังหวะจากชายทั้งสี่คนที่ยืนล้อมกันอยู่ใต้แสงไฟสีส้มซีด
เสียงส้นรองเท้าทรงเรียบกระทบพื้นซีเมนต์แผ่วเบา ก่อนที่ร่างของหญิงสาวในชุดดำจะก้าวออกมาจากม่านควันนั้น
“มาแล้วพี่เคน” ชายรูปร่างอ้วนที่ยืนอยู่ทางซ้ายสุดเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็น
หญิงสาวหยุดเท้าเพียงไม่กี่ก้าวจากพวกเขา สายตาเย็นเฉียบ สบกับกลุ่มชายตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“ฉันทำงานสำเร็จตามที่คุยแล้ว ไหนของ” เสียงเรียบนิ่งที่แฝงความมั่นใจของเอวาร่าเอ่ยออกมา
ชายอีกคนที่ยืนหันหลังให้เธอหันกลับมา ช้า ๆ พ่นควันบุหรี่ตรงหน้าแล้วโยนก้นบุหรี่ลงพื้นก่อนจะบดมันด้วยปลายเท้า
“จะรีบไปไหนล่ะจ๊ะ” เคนเอ่ยเสียงยียวน ดวงตาหรี่ลงเหมือนแมวที่กำลังเล็งเหยื่อ
“ฉันไม่มีเวลา มาเสียเวลากับพวกแก ส่งเงินมา” น้ำเสียงของเอวาร่ายังนิ่งและเรียบเย็นอย่างเคย
“เฮ้ย” เคนหันไปพยักหน้าให้ชายอีกคน
ชายร่างผอมเดินมาพร้อมกล่องโลหะขนาดเล็ก แล้วยื่นให้เอวาร่าโดยไม่พูดอะไร
หญิงสาวรับมันมาอย่างรวดเร็ว ตรวจสอบเพียงชั่ววินาทีก่อนจะหันหลังก้าวออกไปอย่างไม่ลังเล
ทว่า... คลิ๊ก!
เสียงคลิกเบา ๆ ดังขึ้นข้างหลัง ชั่วพริบตาเอวาร่าก็พลิกตัวทัน ก่อนที่กระสุนจากปืนพกของชายร่างผอมจะถูกเหนี่ยวไกใส่เธอ
เธอหมุนหลบอย่างแม่นยำ แล้วเอื้อมมือไปยังด้านข้างเข่าซ้ายที่มีกล่องซ่อนอาวุธขนาดเล็ก แต่ยังไม่ทันจะหยิบออกมา สิ่งที่หลุดออกมาจากแขนกลับไม่ใช่มีดสั้นเหมือนเคย แต่กลับเป็นวัตถุแหลมคล้ายใบมีดสามเหลี่ยมขนาดเล็กที่พร้อมใช้
คิ้วใต้ผ้าคลุมขมวดเล็กน้อย ประโยคหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเธอทันที
“แล้วก็ของเล่นใหม่ที่เจ๊น่าจะชอบ” เป็นเสียงของทิวไม้ที่ผุดขึ้นมา
ไม่รอช้า เธอพุ่งตัวเข้าประชิดชายร่างผอม ดึงแขนบิดก่อนใช้ของแหลมแทงเข้าด้านข้างร่างกายเฉียง ๆ ทำให้ชายร่างผอมร้องลั่นทรุดลงในทันที
"อ๊ากกก~"
เสียงปืนจากอีกสองคนที่เหลือดังขึ้นพร้อมกัน แต่เอวาร่าไวกว่า เธอเคลื่อนไหวพลิ้วราวเงา ท่ามกลางเสียงปืนและแสงสะท้อนของโลหะ จากมีดสั้นอีกเล่มที่ถูกดึงออกจากสายคาดเอว พร้อมฟาดตัดจุดอ่อนของชายอีกคนจนล้มลง ส่วนเคนพยายามยกปืนยิง แต่ช้าเกินไป
เสียงลั่นไกของเคสดังขึ้น แต่เอวาร่าเบี่ยงตัว หลบกระสุนได้ทัน แม้กระนั้นปลายกระสุนก็เฉียดแขนเธอไปเพียงเล็กน้อย ในขณะที่มีดจากเอวาร่าก็เฉียดแขนแม็คกลับมาเช่นกัน
“อั่ก! ไอสัส ” เคนกุมแขนข้างซ้ายไว้แน่น ก่อนจะสบถคำหยาบแล้วรีบวิ่งหนีออกไปจากโกดัง โดยไม่หันกลับมาอีก
หญิงสาวยืนนิ่ง หายใจสม่ำเสมออย่างไม่สะทกสะท้านแม้เพิ่งผ่านการต่อสู้
"ไอหมาลอบกัด"
เธอหันมองกล่องเงินในมือที่ยังอยู่ครบดี ก่อนจะก้มหน้าคลุมฮู้ดให้แน่น แล้วหายลับไปในเงามืดของโกดัง
.
“พี่ต้นพาแม่กลับก่อนนะ”
เสียงหวานเอ่ยออกมาเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มจาง ขณะใช้มือข้างหนึ่งประคองแขนผู้เป็นแม่ ส่วนอีกข้างลูบหลังเบา ๆ ด้วยความห่วงใย
ภูต้นที่เดินตามหลังมาติด ๆ ชะงักฝีเท้า พลางเลิกคิ้วด้วยสีหน้าสงสัย
“ลิษา จะไปไหน? ทำไมไม่กลับพร้อมกัน?” ภูต้นถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ลิษาหันมาสบตาเขา ก่อนจะยิ้มบาง ๆ พลางอธิบายเสียงนุ่ม
“ลิษาจะไปดูของหน่อยน่ะ พอดีเครื่องปั่นที่ร้านเสีย ลิษาว่าจะแวะไปซื้อเครื่องใหม่ แล้วก็จะเข้าร้านเลยทีเดียว”
“ให้พี่ไปด้วยดีกว่า” แต่หญิงสาวส่ายหน้าช้า ๆ
“ไม่ต้อง พี่ต้นพาแม่กลับเลย” น้ำเสียงลิษาหนักแน่นขึ้นเล็กน้อย คล้ายจะไม่เปิดโอกาสให้เถียง จากนั้นลิษาก็หันไปหาผู้เป็นแม่ที่ยืนยิ้มแห้ง ๆ อยู่ข้างตัว
“ส่วนแม่ กลับไปถึงบ้านแล้ว ต้องทานยา พักผ่อน ห้ามลุกไปทำอะไรทั้งนั้น ถ้าลิษารู้ว่าแม่แอบทำงานอีก โดนแน่”
“ก็แม่เหงานี่ลูก อยู่เฉย ๆ ไม่ค่อยชิน”
“ไม่ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวลิษากลับไปทำเอง” ลิษาพูดเสียงดุขึ้นเล็กน้อย แต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัดส่ส่ส่วนภูต้นยิ้มเอ็นดู
“งั้นพี่พาแม่กลับก่อน อากาศก็ร้อนด้วย ลิษาระวังตัวด้วยนะ”
ภูต้นพูดจบก็เอื้อมมือลูบศีรษะลิษาเบา ๆ อย่างเคยชิน แต่ก็ทำให้เจ้าตัวถึงกับหน้าบึ้งทันที เพราะผมที่เซตมาอย่างดีเริ่มยุ่งเหยิง
“พี่ต้น เนี้ย! ลิษาอุตส่าห์เซตผมมาสวย ๆ ผมยุ่งเหยิงหมดแล้ว”
เสียงดุแกมหงุดหงิดของลิษาทำให้ภูต้นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพยุงสารภีไปขึ้นรถอย่างไม่พูดอะไรอีก ทิ้งให้ลิษายืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง รอยยิ้มของเธอจางลงเล็กน้อย
ลิษาเดินเข้ามาในห้องน้ำสตรีในห้างสรรพสินค้า เธอตรงไปยังห้องแผงด้านในสุด ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็ผลักประตูออกมา เดินตรงไปยังอ่างล้างมือ ลิษากลอกตาขึ้นบนทันที แล้วทำเป็นไม่สนใจ ก่อนจะก้มหน้าล้างมืออย่างใจเย็น
หญิงสาวสามคนยืนพิงอ่างล้างหน้าอย่างถือสิทธิ์ ทั้งท่าทาง น้ำเสียง และสายตาดูจะไม่เป็นมิตรนัก โดยเฉพาะลิ้นจี่ที่ยืนอยู่ตรงกลาง กลิ่นน้ำหอมแรงฉุนตีขึ้นจมูกปนกับควันบุหรี่จาง ๆ จากชุดที่อีกฝ่ายสวมอยู่
“ลิ้นจี่ ฉันคันมือว่ะพี่” แยมเอ่ยพลางลูบมือตัวเอง ทำทีเหมือนกำลังหาวิธีระบายอารมณ์
“ฉันก็คัน... คันจนอยากตบคน” ลิ้นจี่เหยียดยิ้มเย็น เสียงแหบต่ำเต็มไปด้วยอารมณ์เหยียด เธอหันมามองทางลิษา
“ฉันว่า... พวกเรากลับเถอะ” เสียงแก้มสั่นเครือเล็กน้อย แสดงชัดว่าไม่สบายใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“โอ๊ย! ยัยแก้ม ถ้ากลัวก็หลีกไป” ลิ้นจี่ตวาดกลับ พลางดันแก้มออกไปด้านข้าง ก่อนสั่งเสียงเฉียบ
“อีแก้ม มึงไปจับตัวมันไว้” แก้มลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เดินเข้าไปยึดแขนของลิษาไว้แน่นจากด้านหลัง
“ปล่อย” เสียงของลิษานิ่ง เยือกเย็นจนทำให้แก้มชะงักไปชั่วครู่
“แกนางลิษา! เพราะแกที่ทำให้พี่คิวทิ้งฉัน!” ลิ้นจี่ตวาดเสียงดัง ใบหน้าเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ
ลิษาหันหน้ากลับมาช้า ๆ สบตาอีกฝ่าย แล้วยิ้มออกมา ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“หน้าตาอย่างแก... โดนผู้ชายทิ้ง มันก็ไม่แปลกหรอก”
“นังลิษา!!!” ลิ้นจี่กรีดร้องอย่างขาดสติ ยกมือตบหวังจะฟาดใบหน้าลิษาเต็มแรง แต่หญิงสาวเอี้ยวตัวหลบได้ทัน
เสียงฝ่ามือกระทบผิวหน้าดัง เพียะ! กลายเป็นแก้มของแยมที่ถูกตบแทน
“แกตบฉันเหรออีลิ้นจี่!!” แยมร้องเสียงหลง
“นังแก้ม ดึงผมมันไว้ อย่าให้มันหลบอีก!” ลิ้นจี่สั่งเสียงกร้าว ความโกลาหลเริ่มปะทุขึ้นในห้องน้ำแคบ ๆ
แต่แล้ว... ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกอย่างแรง เสียงส้นรองเท้าส้นสูงดังกังวาน ก่อนที่หญิงสาวผมดำยาวสลวย ใบหน้าคมเข้มดั่งนางร้ายจากละครจะก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม เธอแต่งตัวเสื้อเข้ารูปสีดำสนิทกับกางเกงหนังรัดรูปที่เผยให้เห็นบุคลิกทะมัดทะแมงและสายตาที่เฉียบคม
ตอนแรกเธอหรี่ตามองฉากวุ่นวายตรงหน้า แล้วทำท่าจะหมุนตัวกลับออกไปเพราะรำคาญ
แต่ทันใดนั้นลิษาเธอก็ไปเห็นหญิงสาว ยืนอยู่ตรงกลาง กำลังโดนล้อมไว้โดยกลุ่มสาว ๆ พวกนั้น แววตาควีนเปลี่ยนทันที
“ยัยบ้าเอ๊ย... ทำไมไม่สู้มันวะ...”
ควีนพึมพำเสียงต่ำกับตัวเอง ก่อนจะก้าวพรวดเข้าไปกระชากผมของลิ้นจี่อย่างแรง จนอีกฝ่ายเซล้มแล้วโดนควีนผลักเข้าไปในแผงห้องน้ำ
แกร๊ก! ควีนล็อคประตูจากด้านนอก
“แกเป็นใคร มายุ่งทำไม!!” แยมตะโกนเสียงหลง ควีนปรายตามองอย่างเย็นชา
“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอก... พอดีไม่ชอบไอ้พวกหมาหมู่ รุมคนไม่มีทางสู้” เอ่ยจบ ควีนก็ถีบเข้าไปที่หน้าท้องของแยมอย่างแม่นยำ แยมกระเด็นไปกระแทกผนังห้องน้ำจนร้องโอดครวญ
"โอ๊ยย"
ควีนยกมือขึ้นเตรียมจะตบอีกคน แต่พอเห็นแก้มหลับตาปี๋ หน้าเหยเกด้วยความกลัว เธอกลับเปลี่ยนใจ หันไปคว้าแขนของลิษาแทนแล้วออกแรงดึง
“ไป! เธอจะอยู่ให้หมาพวกนี้กัดอีกทำไม”
ลิษาแม้จะงงนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินตามออกมา ทั้งสองสาวเดินพรวดออกจากห้องน้ำ ทิ้งเสียงกรีดร้องโวยวายของลิ้นจี่ที่โดนขังไว้ด้านหลังไว้ให้ดังระงม
“อ๊ากกก! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!! อย่าให้กูหลุดออกไปได้นะ กูฆ่ามึงแน่!!”