ตอนที่ 8

1262 Words
“ไหนมึงบอกให้กูไล่ออกไง” “กูมาคิดดูใหม่ ถ้าเป็นกูนะ ชอบใครสักคน กูไม่สนใจอะไรหรอก อะไรที่กูอยากได้ กูต้องได้ มึงคิดว่าไง” ผมถามไอ้โตมอนออกไป เหมือนกำลังพูดความในใจของตัวเองออกมา “เอ่อๆ กูเข้าใจแล้ว” โตมอนเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง “อย่าลืมจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย กูต้องไปต่างจังหวัดหลายวัน มีอะไรก็บอกไอ้เนมไว้แล้วกัน” ผมบอกมันก่อนจะเดินออกจากห้องไป มองนาฬิกาข้อมือตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าๆ จะไปไหนต่อดี จึงตัดสินใจกลับไปยังคอนโดตัวเองพักตับสักวัน เช้าวันใหม่ @คอนโด ฉันตื่นนอนขึ้นมา นาฬิกาที่ติดฝาห้องบอกเวลา สิบเอ็ดโมงเช้า ลุกเดินลงจากเตียงเดินเข้าไปในห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวแล้วตรงไปที่ระเบียบเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ก่อนบิดขี้เกียจไปมาอยู่หลายครั้ง แล้วเดินไปเปิดน้ำใส่ถังบัวรดน้ำต้นไม้ที่ไม่ใหญ่มาก ยืนรดน้ำต้นไม้อย่างอารมณ์ดี แล้วสายตาของฉันก็พลันมองไปที่ระเบียงห้องข้างๆ “ห๊ะ!!!” ฉันตกใจ เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนกอดอกมองฉันอยู่ ไม่รู้ว่าเขามองฉันนานหรือยัง เกือบทำบัวรดน้ำหลุดมือ เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนฉันจะรีบเดินเข้าห้องมา เขามาอยู่ที่นี้ได้ยังไง เขาตามฉันมาหรอ มันเป็นคำถามที่ดังขึ้นในหัว ไม่นานเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น.. ก๊อก ก๊อก คริสรีบเดินไปเปิดประตูห้องทันที โดยไม่ได้มองตาแมวสักนิด คิดว่าเป็นเพื่อน เพราะวันนี้เธอนัดเพื่อนเอาไว้ “ทำไมมาเร็วจัง” ฉันพูดออกไป แต่คนที่มาเยือน ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็น….ไอ้ผู้ชายโรคจิตเมื่อวันนั้น.. “ว่าไง..ทำไมเจอกันต้องหนีตลอดเลยวะ” เขาถามออกมา ฉันกำลังปิดประตูห้องให้เร็วเท่าที่จะทำได้ แต่เขากลับดันมันเข้ามา แทรกตัวเดินเข้าห้องอย่างรวดเร็ว “จะหนีทำไมวะ” “ออกไปเลยนะ” นี่เขาไม่รู้จริงๆ เหรอว่าฉันหนีทำไม ใครจะไม่กลัว ถึงหน้าจะหล่อก็ตามเถอะ ผมมองหญิงสาวตรงหน้า เธอจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้ แม่งเอ้ย ใส่ชุดนอนอะไรวะ!! แม่งโคตรอ่อยเลย ชุดนอนสายเดียวสีชมพูผ้าเนื้อบางทำให้เห็นจุกนม เธอโนบาร์!! ที่คาดผมผ้าสีหวานเข้าชุด มันช่าง!! ผมได้แต่ท่องยุบหนอ พองหนอ อยู่ในใจ เธอเริ่มรู้สึกตัวเมื่อผมมองเธอ “มะมองอะไร หันไปเลยนะ” คริสรีบเดินเข้าไปยังห้องนอน แต่ผมคว้าเธอไว้ได้ก่อน “อ๊ะ ปล่อยนะ” เธอดิ้นขัดขืน ทำให้หน้าอกของเธอเบียดหน้าอกของผมไปมา บอกเลยว่า ฟิน!! “อยู่นิ่งๆ สิวะ จะดิ้นทำไม ไม่ทำอะไรหรอก” ผมพาเธอเดินมาที่โซฟา ก่อนจะทิ้งตัวเองลงนั่ง ดึงเธอขึ้นมานั่งบนตักตัวเอง “คิดว่าจะไปอยู่ที่ไหนอยู่ใกล้แค่นี้เอง” “ปะ ปล่อยก่อนได้ไหมคะ” เธอเอามือขึ้นกอดอกตัวเอง เมื่อเจอสายตาของผมจับจ้องที่หน้าอกของเธอ “เธอบ้าหรือไง แต่งตัวแบบนี้ออกมานอกระเบียงห้อง” ผมพูดออกไปพร้อมอารมณ์โมโหนิดหน่อย ที่จริงเธอจะใส่อะไรออกไปมันก็ย่อมได้ ไม่มีคนเห็นหรอก เพราะนี้มันชั้นบนสุด แต่เมื่อคิดว่าถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ผมแค่นั้นแหละ อารมณ์ขุ่นมัวก็เกิดขึ้น “.......” “คริส ทำไมไม่พูดวะ” ผมชักสีหน้าใส่เธอ ที่เอาแต่เงียบ นั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนตักของผม “ปะ ปล่อยก่อนได้ไหมคะ ฉันแต่งตัวไม่เรียบร้อย” “ฉันไม่ถือ” ผมเลิกคิ้วใส่เธอ “หยุดแกล้งได้ไหมคะ ขอ อื้อ…” ผมอดใจไม่ได้เลยจริงๆ ปากเล็กๆ นั้น มันช่างยั่วยวนผมเกินห้ามใจ ผมค่อยๆ ดันตัวเธอนอนลงไปบนโซฟาตัวใหญ่ ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความกลัว มือที่กอดปิดหน้าอกเอาไว้ตอนนี้ดันหน้าอกผมไว้แทน ปลายลิ้นอุ่นค่อยๆ สอดเข้าไปในโพรงปากเล็กนั้น “อื้ม ไม่นะ ปล่อย ไม่เอา อย่าทำอะไรฉันเลย..” ทันทีที่ปากเป็นอิสระคริสร้องไห้ออกมาเมื่อเธอโดนผมใช้มือกอบกุมหน้าอกพร้อมเคล้นคลึงเบามือ “ร้องไห้ทำไมวะ แค่นี้เอง คนเป็นแฟนกันต้องทำแบบนี้อยู่แล้วไหม” “ใครเป็นแฟนคุณ!!” “วันนั้นที่บาร์ฉันบอกเธอว่าไง” ผมทวนความจำเธออีกครั้ง เธอไม่สบตาผม หลบตาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น น่ารักวะ เธออาย แม่งน่ารัก!! “ยังไม่ตกลงสักหน่อย” เสียงพูดที่แผ่วเบา ทำให้ผมยิ้มออกมา ผมลุกขึ้น พร้อมดึงเธอลุกขึ้น “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้เวลาสิบนาที” เธอไม่รอช้าเดินกึ่งวิ่งเข้าห้องนอนไปทันที ผมมองตามแล้วส่ายหน้า ทำไมเธอทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดวะ ฉันรีบวิ่งเข้ามาในห้องนอนปิดประตูพร้อมกดล็อกอย่างรวดเร็ว ยืนเอาหลังพิงประตูบานใหญ่ หัวใจของฉันเต้นเร็ว ขานี่สั่นจนแทบเดินไม่ไหว กลัว!! เขาน่ากลัวเกินไป แถมเข้ามาอยู่ในห้องของเราอีก โอ้ย!! จะทำยังไงดี โทรศัพท์มือถือก็วางอยู่ที่โซฟา หญิงสาวใช้ความคิดพร้อมเดินวนไปมา ก่อนอื่นฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ฉันเดินเข้ามายังห้องแต่งตัวเลือกชุดที่ใส่สบาย เพราะวันนี้มีจัดห้องต่อให้อีกไม่มากนัก “นี่!! ทำไมยังไม่ออกมา” เสียงเคาะประตูดังขึ้น เมื่อเขาเห็นฉันเงียบไป “หยุดเคาะได้แล้วค่ะ” ฉันพูดเสียงดัง พร้อมเปิดประตูออกมาเผชิญหน้ากับเขา ภายในใจเต็มไปด้วยความกลัว ก่อนที่เขาจะคว้าข้อมือฉันดึงไปนั่งที่โซฟา “วันนี้ไปไหนไหม” “มะ ไม่ไปค่ะ” “ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยดิวะ ฉันไม่กินเธอหรอก แต่ถ้ายังทำหน้าแบบนี้ ก็ไม่แน่นะ” เขายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ ฉันรีบเอียงตัวหลบ “ฉันชื่อเรส ต่อไปเรียกเฮียเรสก็ได้ หรือพี่เรสก็ดี เอาตามที่เธอชอบ” “เอ่อคือ เราไม่ได้สนิทกันถึงขนาดนั้น กรุณากลับห้องไปได้แล้วค่ะ” ฉันทำใจดีสู้เสือ เอ่ยปากไล่เขากลับห้อง เพราะฉันไม่อยากสานสัมพันธ์กับเขา แค่รู้ว่าอยู่ห้องข้างกัน มันทำให้รู้สึกตัวว่าต่อไปนี้ต้องอยู่อย่างระมัดระวังตัว “หมายความว่า เธอไล่ฉัน??” เขาเลิกคิ้วถาม “เธอกำลังไล่แฟนตัวเองรู้ตัวไหม” “ฉันบอกคุณไปหลายครั้งแล้วนะคะ ว่าฉันไม่ได้เป็นแฟนคุณ” ฉันจ้องมองใบหน้าหล่อเหลานั้นชั่วครู่ หญิงใดเห็นต้องหลงรักในรูปลักษณ์ภายนอกของเขา ชายหนุ่มออกแนวแบ็ดบอย เจาะหูข้างหนึ่ง ผมเผ้าไม่ได้เซ็ตให้เข้าทรงแต่เขากลับดูดี แต่มันกลับทำให้ฉันกลัวแล้วยิ่งไอ้รอยสักที่ต้นแขนของเขา เห็นแล้วฉันก็ถอยห่างโดยอัตโนมัติ จนชิดความยาวของโซฟาอีกฝั่ง “ไม่เป็นแฟนแล้วจะเป็นอะไร เป็นเมียเลยไหม เฮียชอบ!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD