สรุปวันนี้ฉันก็ไม่ได้ไปซื้อกระถางต้นไม้ เพื่อนทั้งสองก็กลับบ้านไปแล้วเพราะมีธุระต่อ ฉันเดินเอื่อยมาที่เตียงนอน ทิ้งตัวลงนอน วันนี้เป็นวันว่างที่แสนน่าเบื่อ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเลื่อนดูโพสต่างๆ เรื่อยเปื่อย
ติ่ง ต่อง ติ่ง ต่อง
ฉันวางโทรศัพท์ในมือลงก่อนเดินไปเปิดประตู ที่สำคัญไม่ลืมที่จะส่องตาแมวดูว่าใครมากดกริ่งหน้าห้อง ดวงตาเบิกกว้าง ฉันเอามือขึ้นทาบอก ลืมผู้ชายข้างห้องคนนี้ไปได้ยังไง ตายแน่ จะทำยังไงดี
ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครโทรมา ฉันร้อนรนไม่รู้ต้องทำยังไง ในใจนึกกลัวเมื่อตอนเช้าที่เขาเข้ามาในห้องการกระทำของเขามันทำให้ฉัน ไม่อยากเปิดประตูออกไปเจอเขา ฉันจึงตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์ของเขา
(รู้ว่าอยู่ห้อง เปิดประตู!!)
มือเจ้ากรรมก็ดันเปิดอ่านข้อความ แต่ไม่ตอบหรอก ฉันจะไม่ตอบนายไอ้โรคจิต….
(อ่านแล้วไม่ตอบ จะเปิดไหมประตู)
ฉันไม่สนใจ ยังไงฉันก็อยู่ในห้อง เขาทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ไม่เปิดซะอย่างจะทำไม ฉันพูดกับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง
(อย่าให้ต้องอารมณ์เสีย เปิดประตู!!)
ปัง ปัง เสียงเคาะประตู ไม่ใช่สิมันคือเสียงทุบประตู จะทุบให้มันพังเลยใช่ไหม ดีนะทั้งชั้นมีแค่สองห้อง ทุบไปเถอะค่ะ ฉันเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอย่างไม่สนใจเสียงทุบประตูนั้น ไม่นานเสียงนั้นก็เงียบไป เสียงโทรศัพท์ก็หยุดดัง เฮ้ยย เงียบสักที
ผมเดินกลับเข้ามาในห้องอย่างอารมณ์เสีย ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้กับผมมาก่อน เธอคือคนแรก….อารมณ์ตอนนี้คือ...อยากพังประตูห้องของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แม่ง..ผมเดินออกไปที่ระเบียบห้อง มองไปที่ระเบียบห้องข้างๆ ใช่ทุกคนคิดถูกแล้วล่ะ
ปีนแม่งเลย มองลงไปด้านล่างก็หวาดเสียวนิดหน่อย มือที่กำราวระเบียงแม่งสั่นเลย ยอมรับว่าเสียวสันหลังวาบ ขาแม่งก็สั่น แต่ทำไงได้ ถ้าผมจับเธอได้รับรอง หึ!! คิดเอาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ทันทีที่ปีนเข้ามาที่ระเบียงของเธอได้ ผมก็แอบลุ้นว่าประตูระเบียบจะล็อกไหม แต่โชคเข้าข้างแม่งไม่ล็อก เป็นผมก็คงไม่ล็อกเพราะไม่คิดว่าจะมีใครมาปีนระเบียงเล่นบนชั้นบนสุดหรอก นอกจากผม ผมค่อยๆ เปิดประตูเลื่อนเข้าไปด้านใน ภายในห้องดูเงียบกว่าปกติ หรือเธอจะไม่อยู่ห้องตัดสินใจเดินตรงไปที่ห้องนอน ประตูไม่ได้ล็อก เธอกำลังนอนคว่ำหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่บนที่นอน ตอนนี้เธอสวมเสื้อสายเดี่ยวสีขาว และกางเกงยีนขาสั้น คือสั้นมาก รวบผมจุกเอาไว้กลางหัวพร้อมที่คาดผมสีชมพูอันเมื่อเช้า
ยัง ยังไม่รู้ตัวอีก!! ผมยืนเอามือกอดอกดูท่าทีของเธอ อยู่ครู่ใหญ่ ไม่นานเธอก็ลุกขึ้นมา แต่ก็ยังหันหลังให้ผมอยู่ดี แล้วสิ่งที่ผมไม่คิดก็เกิดขึ้น เธอสอดมือเข้าไปในเสื้อปลดตะขอบราแล้วดึงมันออกมาวางเอาไว้ข้างตัวเองก่อนจะนอนคว่ำหน้าลงไปเล่นโทรศัพท์ต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ผมกำลังคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเธอกำลังอ่อยผมใช่ไหม ต้องใช่แน่ๆ บราที่วางอยู่บนเตียงนอนบอกเลยไซส์ใหญ่กว่าที่ผมคิดเอาไว้ซะอีก แม่ง!! หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลยตอนนี้
คริสพลิกตัวขึ้นมานอนหงาย ทันทีที่เธอมองเห็นผม โทรศัพท์ในมือก็หลุดมือตกใส่หน้าผากของเธอ
“โอ๊ย” คริสเอามือขึ้นมาลูบหน้าผากของตัวเองพร้อมดีดตัวลุกขึ้นยืนข้างเตียงนอน “เข้ามาได้ไง??”
“ทำไมไม่เปิดประตูห้อง” ผมพูดเสียงเรียบพร้อมจ้องใบหน้าเธอนิ่ง เธอเอามือขึ้นมากอดอกเอาไว้
“ออกไปจากห้องนอนก่อนได้ไหมคะ”
“ทำไม”
“ออกไปก่อนได้ไหม” คริสมองไปที่บราวางอยู่บนเตียงผมมองตามเธอรีบดึงผ้าห่มมาคลุมบราของตัวเองเอาไว้ ผมไม่สนใจ เดินเข้าไปใกล้จ้องหน้าเธออีกครั้ง แก้มใสกำลังเปลี่ยนสีเธอหลบสายตาของผม
น่ารัก!! คริสเป็นผู้หญิงที่อยู่กับผมเธอไม่เสแสร้งแกล้งทำ เหมือนผู้หญิงคนอื่น “ให้เวลา ห้านาที ถ้ายังไม่ออกมาคุยกัน ฉันจะพังประตูทุกบานในห้องของเธอทิ้ง” ผมพูดจบก็เดินออกไปนั่งรอเธอที่ห้องรับแขก
ฉันรีบวิ่งไปล็อกประตูห้องนอนทันที ให้ตายสิ!! เขาเข้ามาในห้องของฉันได้ยังไง ในใจเริ่มกลัวเขาขึ้นมาหลายเท่าตัว เขาอันตรายเกินไปแล้ว จะทำยังไงดีคริส แกจะทำยังไง ฉันรีบเอาบราขึ้นมาสวมให้เรียบร้อย ก่อนออกไปด้านนอก ยังไงเธอก็ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ดีกว่าปล่อยเอาไว้แบบนี้
“ฉันขอพูดให้ชัดเจนอีกครั้งนะคะ”
“ว่ามา” เขานั่งไขว่ห้างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟา
“ฉันไม่อยากรู้จักกับคุณแม้แต่น้อยค่ะ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นอย่ามาที่ห้องฉันอีก” ฉันพูดเสียงหนักแน่น
“แต่ฉันสนใจเธอ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉัน เพราะของที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้” เขาลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนเดินเข้ามาใกล้ฉัน “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เราจะไปกินข้าวข้างนอกกัน”
“ไม่ค่ะ” ฉันตอบโดยเร็ว ไม่ต้องคิดอะไรให้เปลืองสมอง
“ฉันก็ไม่เหมือนกัน” เขายังยืนยันคำเดิม ฉันไม่สนใจหรอก ช่างสิ ก่อนเดินไปที่ประตูห้องแล้วเปิดออก “กลับห้องคุณไปเถอะค่ะ เราไม่จำเป็นต้องสานสัมพันธ์กันต่อ เพราะฉันไม่ต้องการ เชิญค่ะ”
ฉันยิ้มอย่างผู้ชนะส่งให้เขา แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาถีบประตูห้องปิดดังปัง!! พร้อมอุ้มฉันพาดบ่าเดินไปที่ห้องนอน
กรี๊ดดดด ฉันกรีดร้องสุดเสียงด้วยความตกใจ เมื่อเขาโยนฉันลงไปบนเตียงนอน ก่อนที่เขาจะตามมาคร่อมตัวของฉันเอาไว้
“จะทำอะไร ลุกไปเลยนะ”
“ทำไมพูดดีๆ ไม่เคยฟังวะ มันยากนักหรือไง แค่เป็นเด็กดี หืม!! ถามหน่อยคริส” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตอบสิ ต้องให้ทำยังไงวะ ฉันก็บอกไปแล้วฉันสนใจเธอ จะจีบเธอ แต่เธอก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว ถ้างั้นให้ฉันทำตามใจตัวเองหน่อยแล้วกัน” เรสไม่พูดเปล่า โน้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากลงบนปากของฉันทันที
“อื้อ อื้อ” ฉันดิ้นไปมาแต่ก็สู้แรงของเขาไม่ได้ มือทั้งสองข้างของเขาจับข้อมือทั้งสองข้างของฉันกดลงไปบนที่นอน ฉันกลัว กลัวมาก เขาจะทำอะไรฉัน ปลายลิ้นอุ่นที่ชุ่มน้ำลาย พยายามแทรกเข้ามาในปากของฉัน แต่ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ฉันกัดฟันเอาไว้แน่น เขาเปลี่ยน เอามือของเขาข้างเดียวรวบมือของฉันทั้งสองข้างเอาไว้เหนือศีรษะ มือที่ว่างสอดเข้ามาใต้เสื้อสายเดียวของฉัน
ตอนนี้มือของเขากำลังบีบเคล้นหน้าอกของฉัน แต่ก็ยังมีบรากันเอาไว้ ฉันหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วตัว อาการแปลกๆ วิ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ก่อนที่ปลายนิ้วของเขาจะแทรกเข้ามาโดนยอดถันของฉันเข้าให้
“อื้ม” ฉันเผลอครางออกมาพร้อมเปิดปากรับลิ้นอุ่นของเขา