“ถึงแล้ว” ผมพูดขึ้น คริสยังคงนั่งนิ่ง เธอมองหน้าผม “คืนนี้เราจะนอนที่นี่ ลงรถเถอะ นี้ก็สี่ทุ่มแล้ว” ผมเดินลงจากรถ แต่คริสยังนังนิ่งเช่นเดิม ผมจึงต้องมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ “ลงมา ไม่งั้นจะอุ้มขึ้นไปบนห้อง”
“ทำไมเราต้องมานอนข้างนอกด้วยค่ะ แล้วที่นี่ที่ไหนคะ”
“พัทยา ฉันพาเธอมาเที่ยวทะเล พรุ่งนี้ถึงจะเห็นทะเล ลงมาได้หรือยัง ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก” ผมพูดเพื่อให้เธอสบายใจ ที่จริงผมก็รับปากไม่ได้หรอกว่าจะไม่ทำอะไรเธอใครมันบอกอนาคตได้ว่าไหม ชายหญิงอยู่ในห้องกันสองต่อสอง คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็มีความอดทนพอ เหมือนตอนกลางวัน ผมยังผ่านมันมาได้เลย แค่คืนนี้ผมจะผ่านมันไปไม่ได้เชียวหรอ
คริสเดินลงจากรถ ตามผมเข้ามาเช็คอิน โรงแรมที่ผมจองเป็นของเพื่อนผมเอง เป็นโรงแรมขนาดกลาง อยู่ใจกลางเมืองพัทยา ผมรับคีย์การ์ดห้องมาแล้วเดินจูงมือเธอเข้ามายังลิฟต์
“ทำไมเปิดห้องเดียวคะ” คริสถามผมขึ้น
“อยากเปิดห้องเดียว ทำไม กลัวหรอ” ผมถามเธอ พร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ชายหญิงที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน ไม่ควรนอนค้างอ้างแรมกันนะคะ ต่อให้เป็นแฟนกัน ก็ไม่ควรอยู่ดี” คริสพูดดักคอผมเอาไว้ ใครสน!! ไม่!! ผมไม่สนใจเลยสักนิด
“ทำไมจะไม่ได้ แค่นอนห้องเดียวกัน ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น หรือเธอคิดมากเกินกว่านอนหลับพักผ่อน” ผมพูดพร้อมสบสายตาของเธออีกครั้ง “ฉันพร้อมทำมากกว่านั้น ถ้าต้องการ”
“คนลามก คิดแต่เรื่องอย่างว่า” เธอบ่นพึมพำ แต่ผมก็ได้ยินเต็มสองหู ใครมันจะไม่คิดเรื่องอย่างว่ากับเธอ ทรวดทรงองค์เอว ของเธอมันยั่วยวนขนาดนั้น ยิ่งได้สัมผัสยิ่งห้ามใจยากกว่า เฮ้ยย ชีวิต ไม่คิดจะได้มานึกวาดฝันถึงทรวดทรงของผู้หญิง
ผมได้แต่บอกตัวเองให้อดทน อดทน!! ผมแค่มองเธอต่างจากผู้หญิงทุกคน ผมไม่อยากใช้ชีวิตเลื่อนลอยเหมือนอย่างที่เคยทำ แค่อยากหาใครสักคนมาอยู่เคียงข้าง แต่มันก็ยากนะ เมื่อเราชอบใครสักคนมีใครบ้างที่ไม่อยากครอบครอง ตอบ!!
เราสองคนเดินมาถึงห้องพัก ซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ มีสองเตียงนอน เพื่อให้เธอสบายใจ ผมเลยจองห้องนอนเตียงแยก อย่างน้อยเธอก็คงไม่ต้องบ่น หรือระแวงผมมากจนเกินไป
“ไปอาบน้ำก่อน จะกินอะไรไหม เดี๋ยวจะสั่งข้าว” ผมถามเธอ แต่ดูเหมือนคริสจะมีสีหน้าเป็นกังวล “หยุดทำหน้าแบบนั้น” ผมเดินตรงไปที่เธอ คริสเดินถอยหลังจนชนประตูห้อง “บอกแล้วไงว่าจะไม่ทำอะไร เลิกคิดมากแล้วไปอาบน้ำ จะได้กินข้าวและพักผ่อน” ผมจ้องเธอด้วยสายตาที่จริงจังก่อนเดินมายกหูโทรศัพท์ขึ้นโทรสั่งอาหาร
ฉันยืนนิ่งเมื่อเดินเข้ามาภายในห้อง ฉันแทบจะไม่ได้ฟังเขาพูดกับฉันด้วยซ้ำ ความกังวลใจมีมาก ฉันไม่ควรมานอนพักค้างอ้างแรมกับผู้ชายแปลกหน้าที่รู้จักกันไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ แต่มันก็เป็นไปแล้ว..
ห้องน้ำในโรงแรมมีอ่างแช่น้ำใบใหญ่ ฉันเปิดน้ำลงในอ่าง แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ “นี่คุณ” เขาหันหน้ามาตามเสียงเรียกของฉัน เขานั่งอยู่บนที่นอนกำลังเล่นโทรศัพท์
“อืม” เขาหันมามอง “มีอะไร”
“ฉันขอแช่น้ำหน่อย อาจนาน จะอาบน้ำก่อนฉันไหม”
“ไม่ล่ะ ตามสบาย” เขาไม่ได้สนใจ หันกลับไปใส่ใจโทรศัพท์ในมือต่อ ฉันถอนหายใจก่อนเดินเข้ามาในห้องน้ำตามเดิม ฉันหย่อนตัวลงในอ่างใบใหญ่น้ำกำลังอุ่นพอดี มันสบายเกินบรรยาย ตาค่อยๆ หลับลง ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่ได้รับจากการเดินทาง
“นี่ คริส คริส ตื่นสิ มานอนอะไรตรงนี้” เสียงของใครสักคนเรียกชื่อฉัน ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เจอเขายืนเท้าสะเอวจ้องมองฉันไม่กะพริบตา ใบหน้าของเขาดูเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
“ออกไปนะ!! เข้ามาได้ไง” ฉันตะโกนเสียงดัง พร้อมหดตัวเอามือกอดอกนั่งอยู่ในน้ำ
“เรียงตั้งนานก็นึกว่าเป็นอะไร รีบๆ อาบน้ำอาหารมาแล้ว” เขาพูดเสร็จก็เดินออกไป ฉันนี่อายจนไม่รู้จะมองหน้าเขายังไง เขาเห็นหมดแล้วแน่ๆ โอ๊ยย.. ฉันลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วเสร็จก็เดินออกมาข้างนอก มองหาเสื้อผ้าของตัวเอง
“เสื้อผ้าของฉันไปไหนคะ”
“ส่งซักไปแล้ว” เขาตอบออกมาแต่ก็ยังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ตอนนี้เขาสวมชุดคลุมอาบน้ำเหมือนกับฉัน
“ทำไมไม่ถามฉันก่อนค่ะ”
“อย่าเรื่องมากมากินข้าว” เขาวางโทรศัพท์ในมือลง เดินตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ฉันกระชับเสื้อคลุม ของตัวเอง มันรู้สึกวาบหวิวยังไงชอบกล เพราะร่างกายไม่ได้ใส่ชั้นใน แถมยังอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง แค่คิดหัวใจดวงน้อยของฉันก็เต้นผิดจังหวะเสียแล้ว
เราสองคนนั่งทานข้าวกันเงียบกริบ เรสไม่ได้พูดคุยอะไรกับฉันมาก เขาทานข้าวเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำทันที ฉันถอนหายใจหนัก รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เกร็งเวลาอยู่ต่อหน้าของเขา คืนนี้จะนอนหลับได้เช่นไร
ผมเดินเข้ามาในห้องน้ำ มองเห็นอ่างใบใหญ่ก็พลอยนึกเห็นใบหน้าของเธอขึ้นมา ความเป็นชายแข่งขันพองโตขึ้นทันที ให้ตาย!!! เห็นแค่ผิวเผินยังขนาดนี้ ถ้าได้ …… แม่ง!! กูต้องมาขัดจรวดช่วยตัวเองหรอว่ะ น่าสมเพชเวทนาตัวเองโดยแท้
ผมเสร็จกิจตัวเองก็เดินออกมาจากห้องน้ำ มองไปที่คริสตอนนี้เธอนั่งเอาหลังพิงพนักหัวเตียงนอนเอาตัวสอดเข้าใต้ผ้าห่มก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ไม่สนใจผมแม้แต่น้อย ผมเดินเข้าไปหาพร้อมโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เธออีกนิด
“อ๊ะ ตกใจหมด” เธอเอามือขึ้นทาบอก ก่อนลุกจากเตียงนอนเดินเข้าห้องน้ำ ไม่นานเธอก็เดินกลับออกมา “มีอะไรคะ ทำไมต้องจ้องขนาดนั้น”
“เป่าผมให้หน่อย ขี้เกียจ” ผมเดินมานั่งลงปลายเตียง เธอเดินไปหยิบเครื่องเป่าผมมา แต่ที่ผมนั่งไม่มีที่เสียบปลั๊กไฟ จะเดินเข้าไปในห้องน้ำก็ลำบากต้องยืนนาน จึงเดินไปนั่งใกล้หัวเตียงนอนที่มีปลั๊กเสียบ ผมนั่งลงบนที่นอน เธอยืนอยู่ด้านหน้าของผม ลังเลเล็กน้อย “ทำเลย ไม่เป็นไร” เธอคงเกร็งที่จะเข้าใกล้ผม มือผมไวกว่าความคิดดึงเธอเข้ามากอดหน้าผมตอนนี้อยู่ระหว่างหน้าอกของเธอ
“ทำอะไรคะ ปล่อยก่อน”
“เป่าผมเถอะ ขออยู่แบบนี้สักพัก” เธอยอมเป่าผมให้ ทั้งที่ผมยังกอดเธออยู่ หน้าผมแนบเข้ากับหน้าอกของเธอ คริสคงไม่ได้คิดอะไรแต่ผมนี้คิด ซาลาเปาสองลูก เคลื่อนไหวไปมา อยู่ตรงหน้า ผมได้แต่ท่อง ยุบหนอ พองหนอ แม่งเอ้ย กูจะอดทนได้ไหมวะ!!
“เสร็จแล้วค่ะ ปล่อยได้แล้ว” คริสปิดสวิตช์ไฟเธอเอามือดันตัวของผมออก แต่ผมกลับ….ทิ้งตัวนอนหงายลงบนที่นอน ทำให้เธอล้มลงมาบนหน้าอกของผม “ว๊ายย!!” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ผมกอดเธอเอาไว้แน่น ก่อนจะพลิกตัวเธอให้นอนอยู่ด้านล่าง “คุณทำอะไร ลุกเลยนะ อย่ามาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันแบบนี้”
“เรียกเฮียสิ อยากได้ยิน” ผมเอ่ยขึ้น
“ไม่ค่ะ เราไม่ได้สนิทกัน” เธอปฏิเสธผม
“ถ้างั้นเราก็มาสนิทกันเอาไว้เถอะ คริสจะได้เรียกเฮียได้คล่องปาก”