กลกามแห่งบ้านราคะ
1.คนขี้แพ้แห่งตระกูลใหญ่
เสียงเนื้อกระทบกันพร้อมกับเสียงคราง มือที่บีบขยำถันคู่งามขณะปากและลิ้นทำหน้าที่ชิมรสชาติหอมหวานจากเนื้อที่เรียบเนียนนุ่มตรงหน้า แม้เจ้าของร่างกายแสนสวยจะไม่ยินยอมให้เชยชมในครั้งนี้แต่ในเมื่อโอกาสอันวิเศษมาถึงไหนเลยคนอย่างวายุจะพลาดโอกาสที่จะได้ลิ้มรสอาหารราคาแพงที่คนอย่างเขาไม่มีโอกาสได้รับหนำซ้ำยังเป็นอาหารจานหลักของพี่ชายที่เขาแสนเกลียดที่สุด!
วายุ ชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆผู้อยู่ภายใต้อำนาจของพี่ชายในตระกูลใหญ่ตลอดชีวิต ไม่เคยมีปากมีเสียงเป็นแค่ลูกไล่ของ พิชชา นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ แม้จะเป็นลูกชายคนรองในตระกูลผู้ดีเก่าแก่แต่วายุก็ไม่เคยมีศักดิ์ไปกว่าเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงจากบ้านสงเคราะห์เพื่อเป็นเพื่อนเล่นของลูกชายโทนของตระกูลใหญ่เท่านั้น ตลอดยี่สิบกว่าปีเขาต้องคอยทนอยู่ใต้เงาความเก่งกาจและดูแคลนหยามเหยียดของพิชชาพี่ชายของเขาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งความสามารถรอบตัวที่มีมากล้นในวัยยี่สิบต้นๆพิชชาก็ได้รับหน้าที่ให้บริหารบริษัทของตระกูลอย่างที่ไม่มีใครคัดค้านในความสามารถ ส่วนตัวเขาเมื่อเรียนจบปริญญาตรีก็ได้ทำงานบริษัทของตระกูลเช่นกันแต่เป็นเพียงแค่ผู้จัคการฝ่ายต๊อกต๋อยที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะร่วมประชุมบริษัทเลยสักครั้งเดียว
ด้วยชื่อเสียงในมาดนักธุรกิจหนุ่มบวกกับหน้าตาฐานะทางสังคมพิชชาได้แต่งงานกับ วีรนี สาวสวยผู้มีศักดิ์เป็นลูกสาวของตระกูลผู้ดีเก่าแก่ งานฉลองวิวาห์ที่จัดใหญ่โตอลังการจนลงหน้าหนังสือพิมพ์ในช่วงเวลานั้นแทบทุกฉบับไม่นานทั้งสองคนก็มีลูกสาวมาเป็นสักขีพยานความรักถึงสองคน ชีวิตของพิชชาดูสมบูรณ์แบบน่าอิจฉาทั้งการงาน ครอบครัว รวมไปถึงชีวิตแม้ช่วงหลังจะมีปัญหาสุขภาพด้วยเรื่องความเครียดแต่ภรรยาอย่างวีรนีก็คอยดูแลไม่ห่าง ขณะตัววายุที่เบื่อเสียงชื่นชมของพี่ชายตนเองตัดสินใจลาออกจากบริษัทเพราะไม่อยากอยู่ใต้เงาของพิชชาอีกต่อไปอีกอย่างเขาคิดว่าต่อให้ตั้งใจทำงานแค่ไหนเงินที่ได้มาก็กลายเป็นมรดกที่พิชชากับครอบครัวจะได้ต่อไปอยู่ดีส่วนตัวเขาอย่างมากก็ได้เพียงเศษเท่านั้น
เวลาผ่านไปสิบกว่าปี
ชีวิตของวายุก็หาได้ดีขึ้นตามตั้งใจตลอดระยะเวลาที่เขาออกมาผจญกับธุรกิจส่งออกด้วยตัวเขาเองบริษัทที่ก่อตั้งอยู่ในสภาพลูกผีลูกคนติดหนี้ธนาคารจนไปไม่รอด ผู้หญิงที่คิดจะร่วมหอลงโรงก็หนีไปมีผู้ชายอื่นที่หนุ่มกว่าหนำซ้ำยังหอบเงินก้อนใหญ่ไปอีก ชีวิตในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเขาคือloserอย่างสมบูรณ์แบบ สุดท้ายเมื่อหนี้ธนาคารจ่อหมายยึดทรัพย์เนื่องจากถูกฟ้องร้องล้มละลายวายุจึงตัดสินใจแบกหน้ากลับไปหาพี่ชายที่เขาแสนชิงชังเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ฉันเคยเตือนแกไปแล้วว่าสุดท้ายแกก็ไปไม่รอดอย่างที่ฉันว่าไว้จริงๆ”
ถ้อยคำดูแคลนกับสายตาเหยียดที่วายุเห็นมาตลอดชีวิตเขาได้แต่ก้มหน้าเก็บความแค้นใจไว้เพราะวันนี้เขามาเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ได้โปรดช่วยผมสักครั้งเถอะพี่ ถ้าโดนยึดหมดทุกอย่างผมไม่มีเหลือแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอนเลยนะ”
“จำนวนเงินมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ ถ้าฉันช่วยแกแล้วเมื่อไรแกจะคืนฉันได้?”
คืนเหรอ? ตลกหรือเปล่าในวันเปิดพินัยกรรมหลังการเสียชีวิตของบิดาทรัพย์สินกว่า90%ตกไปอยู่ในมือของพิชชาทั้งสิ้นในขณะที่ตัวเขาได้แค่เศษเงินเพียงเท่านั้น! หลังจากนั้นอีกร่วมสิบกว่านาทีภายในห้องทำงานคำดุด่า ดูถูกได้พรั่งพรูออกมาจากปากของพิชชาจนหลายครั้งวายุถึงกับกำหมัดแต่ก็ทำได้เท่านั้น หลังจากแสดงฐานะผู้ชนะจนเต็มอิ่มในที่สุดพิชชายอมรับคำขอของน้องชายที่ไม่ได้มีค่าในสายตาไปกว่าลูกไล่ดั่งเช่นสมัยเด็กพร้อมกับเงื่อนไข
“เอาล่ะด้วยความเป็นพี่น้องฉันจะช่วยแกในหนนี้ แต่ไม่ช่วยเปล่าแกต้องทำงานชดใช้จนว่าแกจะสามารถหาเงินก้อนนี้มาคืนฉันได้!”
“ขอบคุณพี่มากครับ”
เป็นการเปล่งเสียงขอบคุณที่กัดฟันอยู่ภายในที่สุดท้ายแล้วชะตากรรมก็พาตัวเขาย้อนกลับมาเป็นลูกไล่ข้ารับใช้ส่วนตัวของพิชชาอีกจนได้!
วายุเดินออกมาจากห้องทำงานภายในคฤหาสน์ของตระกูลด้วยความรู้สึกที่หงุดหงิดใจก่อนที่เขาจะก้าวพ้นประตูวายุได้พบกับคนที่เขาไม่ได้พบเจอมานานแสนนาน
“สวัสดีครับคุณนี”
วายุกล่าวทักทายพี่สะใภ้ของเขาที่กำลังเดินสวนตัวเขาภาพของหญิงวัยสามสิบปลายๆแต่รูปร่างหน้าตายังคงคงไม่ต่างจากหญิงสาวอายุยี่สิบห้าไม่เกินนั้น ใบหน้ารูปไข่รับกับผมยาวสยายลงมาจนถึงสะโพก รูปร่างสูงเกือบ170ซมรับกับหน้าอกที่อวบใหญ่เกินมาตรฐานผู้หญิงไทยต่างจากเอวที่คอดสะโพกผายใหญ่อาจเพราะมีลูกมาแล้วถึงสองคนวีรนีในวันนี้อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มกางเกงขายาว เมื่อเห็นวายุเธอยิ้มพอเป็นมรรยาทพยักหน้ารับคำทักทายเพียงเท่านั้นไม่มีการพูดคุยเปล่งวาจาออกมาจากริมฝีแกอวบอิ่มทาลิปจนมันวาว เธอเดินผ่านวายุไปอย่างนั้นทิ้งความหอมจากน้ำหอมราคาแพงที่โชยผ่านจมูกของวายุจนเขาเผลอหันหลังไปมองตามหลัง
ทรวดทรงองเอวโดยเฉพาะก้นที่งอนสองข้างเด้งไปมาเวลาวีรนีเดินมันช่างเย้ายวนสายตาปลุกกำหนัดภายในตัวของไม่น้อย แม้จะผ่านไปกี่ปีแต่ท่าทีที่สงวนราวกับเขาเป็นคนนอกทั้งที่มีศักดิ์เป็นน้องสามีแท้ๆเป็นอีกสิ่งที่ทำให้วายุชิงชังครอบครัวนี้!
“น้องคุณมาหาทำไมคะ?”
วีรนีถามสามีเธอขึ้นทันทีที่พบหน้า
“ไม่มีอะไรหรอก มันมาขอความช่วยเหลือเพราะถูกฟ้องล้มละลาย”
“แล้วคุณช่วยไหม?”
“ช่วยสิ แต่แลกกับการที่มันต้องทำงานใช้ผมนะ เออ! คืนนี้ผมไม่กลับนะบอกลูกด้วย”
“ค่ะ ความจริงไม่ต้องบอกก็ได้นะเพราะคุณก็ไม่ค่อยกลับเป็นเวลามาหลายปีแล้ว”
วีรนีพูดด้วยเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความเย็นชาทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสามีของเธอชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับอีหนูมากหน้าหลายตาจนไม่สนใจเธอกับลูกสาวมาหลายปี ขณะเธอจัดยาประจำตัวที่เขาต้องทานใส่ในกล่องใส่ยาแบบแยกวันและมื้อส่งให้กับสามี พิชชารับกล่องใส่ยามาไม่ตอบโต้อะไรเขาเดินผ่านเธอออกไปจากห้องทำงานทิ้งให้เธออยู่กับความรู้สึกที่เบื่อหน่ายในชีวิตคู่เต็มที
เมื่อเสียงรถของสามีแล่นออกจากบริเวณบ้านวีรนีเดินไปที่ตู้เซฟขนาดเล็กส่วนตัวเมื่อใส่รหัสปลดล็อกของชิ้นหนึ่งที่เธอขาดไม่ได้อยู่ภายในกล่องอย่างเรียบร้อย เมื่อเปิดกล่องออกมาดิลโด้ขนาดพอเหมาะสีเข้มอยู่ในมือของเธอ จากนั้นโทรทัศน์ขนาดใหญ่หลายสิบนิ้วที่ขณะนี้เชื่อมต่อกับHard DiskพกพาถูกเปิดภาพหนังAVฉากร่วมรัก สายตาจับจ้องลีลาดุเดือดระหว่างชายหญิงฉากที่สมมติว่าหญิงสาวกำลังถูกขืนใจเร้าอารมณ์ราคะในตัวของวีรนีให้ลุกโชติ ดิลโด้ถูกแตะแนบกับแคมขณะที่อีกมือขยำปทุมถันอย่างรุนแรง เสียงครางกระเส่าออกจากปากอย่างปลดปล่อยโดยไม่กังวลว่าใครจะได้ยินเนื่องจากก่อนที่วีรนีจะขึ้นมาเธอได้สั่งคนรับใช้ว่าห้ามใครขึ้นไปรบกวนเวลาทำงานเธออย่างเด็ดขาด
อูยยย โอยยย อั๊ย! อั๊ย! อั๊ย! อร๊ายยยยย
ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอบิดไปตามความเสียวซ่านที่หว่างขาลามไปทั่วหน้าท้องที่แบนราบ เธอไม่ได้สัมผัสการมีเซ็กส์ดั่งชีวิตคู่ปกติได้มีกันมานานหลายปีแล้ว จนเธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายความสุขสมในกามารมณ์ที่พิชชามอบให้กับเธอนั้นตั้งแต่เมื่อไร? แล้วเธอก็หน้าบางเกินกว่าจะถามสามีของเธอว่าเหตุใดเขาถึงได้ละเลยไม่สนใจเธอเช่นอย่างเคยถึงได้หาความสุขด้วยกิจกามพึ่งตัวเองเช่นนี้
หลังจากที่ขอร้องพิชชาเรื่องหนี้สินกับทางธนาคารผ่านไปเพียงหนึ่งวันทนายความส่วนตัวได้ติดต่อมาเพื่อชำระหนี้สินของวายุทั้งหมด ทันทีที่เขาหมดหนี้สินตามกฎหมายในวินาทีนั้นเท่ากับว่าชีวิตของวายุกลายเป็นคนรับใช้ของพิชชาไปอย่างกลายๆ วายุถูกพิชชาบังคับขายกิจการที่เขาได้สร้างมา(แม้ไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ตามที)ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี พร้อมกับโยกน้องชายต่างสายเลือดให้มาทำงานจิปาถะมากมายทั้งเรื่องบริษัทของพิชชารวมไปถึงเรื่องส่วนตัว ในแต่ละวันเขาต้องวิ่งวุ่นไปมาแทบไม่ได้หยุดนิ่งทำงานทุกอย่างแล้วแต่พี่ชายจะใช้งานแต่เพราะการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งทำให้วายุเพิ่งจะรับรู้ว่าหลานสาวทั้งสองคนโตขึ้นมากขนาดไหนในเย็นวันหนึ่ง
“สวัสดีค่ะคุณอา”
เสียงหวานของสาวสวยในชุดนักศึกษาไว้ผมยาวสยายเด่นด้วยหน้าม้าที่เข้ากับผมเงางามสีดำสนิท ใบหน้าเรียวรับกับดวงตากลมโตนี่คือ รฐา ลูกสาวคนโตของพิชชาและวีรนีโดยรูปลักษณ์ของรฐาแทบจะถอดมาจากแม่ทุกอย่างทั้งหน้าอกที่เด่นด้วยขนาดจนแทบปริเมื่ออยู่ในชุดนักศึกษาและสะโพกที่ผายได้รูปโดยเฉพาะก้นที่งอนเด้งจนชวนน่าสัมผัสสักครั้ง รฐานั้นเป็นคนเดียวในครอบครัวพิชชาที่พูดคุยกับเขาอย่างอ่อนโยนและให้เกียรติซึ่งตรงข้ามกับลูกสาวคนเล็กที่นิสัยหยิ่งผยองแทบจะถอดมาจากผู้เป็นพ่ออย่างไรอย่างนั้น
“นี่! พลอยทำไมเจอคุณอาแล้วไม่ทักทายบ้างเลย?”
เสียงพี่สาวดุน้องสาวผมสีน้ำตาลทรงทวินเทลในชุดนักเรียนพาณิชย์เอกชนแห่งหนึ่ง พลอยจันทร์เหลือบมามองดูวายุเพียงเล็กน้อยก่อนจะไม่สนใจเดินผ่านเข้าคฤหาสน์ไป รฐาถอนใจในความไม่มีมารยาทของพลอยจันทร์แล้วส่ายหน้า
“ต้องขอโทษแทนยัยพลอยด้วยนะคะคุณอา คุณพ่อตามใจจนเสียคนเลยไม่มีสัมมาคารวะแบบนี้”
แม้จะยิ้มแย้มรับคำขอโทษแต่ในใจกลับตรงข้ามความรู้สึกหงุดหงิดพร้อมกับสบถใส่เด็กสาวที่เหลือบมองเขาด้วยสายตาราวกับเป็นกาฝากเหมือนคนเป็นพ่อไม่มีผิดเพี้ยน เมื่อรฐาเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังงามวายุปลีกตัวมาที่รถยนต์ของตัวเองเพื่อจะกลับบ้านเมื่องานวันนี้ได้เสร็จสิ้นลงขณะเปิดประตูรถด้วยอารมณ์หม่นสายตาของเขาเหลือบไปเห็นแม่บ้านกำลังเดินถือกล่องพัสดุหนึ่ง
“ป้าแก้วนั่นพัสดุใคร?”
วายุถามขึ้นลอยๆตามมารยาทเพียงเท่านั้นในความตั้งใจโดยไม่คาดคิดว่านี่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิต
“พัสดุของคุณนายค่ะ มาส่งตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วป้าลืมจนคุณนายถามหาเมื่อกี้นี้”
วายุเข้าไปนั่งภายในรถเห็นแม่บ้านเดินไปยังไม่ถึงประตูดีวีรนีกุลีกุจอรีบออกมาคว้ากล่องพัสดุจากมือ สีหน้ากับท่าทางที่วีรนีแสดงออกมาราวกับกล่องพัสดุนั้นเป็นของมีค่าหวงแหนอย่างที่สุดจนผู้ที่เฝ้ามองอย่างเขารู้สึกแปลกใจ
วันต่อมาเป็นอีกวันที่วายุถูกพี่ชายใช้ไปโน่นมานี่จนหัวปั่นตลอดวันช่วงบ่ายเขาแวะเข้าไปที่คฤหาสน์เพราะถูกใช้ให้ไปเอาเอกสารที่ไม่ได้เร่งด่วนอะไรนอกจากมันไกลกับสถานที่ที่เขาอยู่ล่าสุดเพียงเท่านั้น เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาภายในที่จอดรถวายุรู้สึกแปลกใจที่เห็นรถสปอร์ตคันงามของวีรนีจอดไว้
“คุณนีไม่ได้ออกไปไหนเหรอ?”
วายุถามป้าแก้วที่กำลังจะเดินออกไปด้านนอกคฤหาสน์คงหนีไม่พ้นไปซื้อของมาเตรียมอาหารเย็นกับเถลไถลไปในช่วงบ่ายที่วายุเห็นเป็นนิสัยจนชินตา
“เพิ่งกลับมาช่วงเที่ยงนี่ค่ะ เห็นว่ามีธุระสำคัญห้ามใครขึ้นไปรบกวนด้วย”
เมื่อป้าแก้วเดินจากไปสายตาของวายุมองไปที่ชั้นสองด้วยความสงสัยในพฤติกรรมแปลกๆของวีรนี
ตลอดที่วายุใช้ชีวิตอยู่ภายในคฤหาสน์แห่งนี้จนโตไม่มีสักครั้งที่เขาจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาบนชั้นสอง ห้องส่วนตัวของลูกชายคนรองอยู่ชั้นล่างถัดไปอีกนิดเดียวเป็นโซนที่อยู่ของคนรับใช้สำหรับเขาชั้นสองนี้คือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนในตระกูลเท่านั้นที่จะก้าวเท้าขึ้นมาบนนี้ได้ ขนาดคนรับใช้ที่จะขึ้นมาทำความสะอาดต้องเป็นคนรับใช้ที่ให้ความไว้วางใจจริงๆจึงจะอนุญาตให้ขึ้นมาในพื้นที่ส่วนนี้ ไม่แปลกที่วายุรู้สึกตื่นเต้นที่ตัวเองได้แอบย่องขึ้นมาบนชั้นสองครั้งแรก ใจที่เต้นตึกตักพร้อมสายตาที่กวาดไปมองการตกแต่งขนาดแค่โถงทางเดินไปสู่ห้องนอนต่างๆยังดูหรูหราตรงข้ามกับบริเวณห้องนอนของเขาที่ได้อาศัยมาตั้งแต่เด็กราวฟ้ากับเหว
“หึ ดูจืดไปนิดถ้ากูได้เป็นเจ้าของนะจะประดับให้มันหรูหรากว่านี้อีก!”
เป็นคำพูดที่ปิดบังความรู้สึกต่ำต้อยชิงชังเอ่อล้นมาในตัวของชายผู้ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรในชีวิตสักอย่าง เขาเดินทอดน่องไปอย่างเรื่อยเปื่อยโดยไม่มีจุดหมายไปกว่าสงสัยในพฤติกรรมของพี่สะใภ้ตัวเองในใจยังหวั่นเกรงว่าหากวีรนีออกมาพบเจอเขาแล้วฟ้องไปยังพิชชาเขาจะโดนอะไรบ้างเกินจะคาดคิดเพราะนิสัยใจคอของพิชชาที่คนอื่นไม่รู้คือเป็นคนที่โมโหร้ายกว่าใคร!
เมื่อวายุก้าวเท้าไปที่ห้องนอนใหญ่หัวใจที่เต้นแรงอยู่ก่อนกลับเต้นแรงมากขึ้น เมื่อเสียงที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินดังลอดออกมาจากภายในประตูที่เปิดแง้มไว้ ไม่รู้ว่าเป็นโชคชะตาให้คนอย่างวายุได้เอาคืนหรืออย่างไรทำให้ตัวเขาที่บัดนี้กำลังแง้มบานประตูได้เห็นภาพที่ยิ่งกว่าถูกรางวัลลอตเตอรี่ใหญ่ เป็นภาพเปลือยเปล่าของวีรนีที่กำลังบิดร่างกายแสนงามไปมาบนเตียงนอน มือหนึ่งกำลังขยำปทุมถันทั้งสองเต้าส่วนอีกมือกำลังใช้แท่งดิลโด้เสียดสีไปมาตรงช่วงล่างของเธอ...