-หลายวันต่อมา-
“...” หลายวันแล้วที่เวลาอยู่คนเดียวผมจะเอาแต่นิ่งแล้วก็คิดอะไรบางอย่างในสมองไม่หยุด
คืนนั้นผมว่า...ผมทำเกินไปว่ะ
แค่น้ำขิงเข้าใจผิดคิดว่าผมชอบไอ้ห่าเกรย์แต่ผมดันโมโหหน้าดำหน้าแดงเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงก็ยังไม่หยุดโมโหจนสุดท้ายทนไม่ไหวต้องไปเคลียร์ถึงห้องแต่พอน้ำขิงปากดีเข้าใจหาว่าผมเป็นในสิ่งที่ไม่ได้เป็นไม่หยุดผมก็โมโหจนทำอะไรไม่ดีกับเธอ ถึงจะแค่จูบแต่สำหรับคนที่เขาไม่เต็มใจจูบมันเรียกว่า แค่ ไม่ได้เลย
“...” ไม่สบายใจว่ะ ไม่รู้สิแต่บอกตัวเองได้แค่ว่าไม่สบายใจ
ติ๊ด!
ตื๊ด ตื๊ด~
ตื๊ด ๆ ๆ
ตื๊ด ตื๊ด~
ตื๊ด ๆ ๆ
ติ๊ด!
Tine : รับสาย
ตื๊ด ตื๊ด~
ติ๊ด!
(...มีอะไร) เสียงเย็นชาของปลายสายที่พูดออกมาทำให้ผมรู้ว่าทางนั้นยังโกรธมากแค่ไหน
“อยากคุยด้วย”
(ไม่มีอะไรต้องคุย ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องนายส่วนนายก็ไม่ต้องมาเสือกเรื่องฉันแค่นั้นก็พอไทน์)
ติ๊ด!
“...อ่าส์!”
ตื๊ด ตื๊ด ๆ ๆ
เสียงสัญญาณที่ดังทำให้ผมรู้ว่าปลายสายบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของผมไปเรียบร้อยแล้ว
“...ขอโทษว่ะขิง กูไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้”
#TINE END
#NAMKING TALK
“เกรย์”
“อื้ม”
“ต้องทำยังไงฉันถึงจะหลุดพ้นจากนาย”
“ว่าไงนะ” เขาเงยหน้ามองฉันทันทีที่ฉันถามทั้งที่เมื่อกี้เขาไม่ได้มองฉันเลย
“ฉันต้องทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากนาย”
“ทำแบบนี้ไง”
“แบบไหนล่ะ?” แบบนี้คือแบบไหน ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็มีแต่เป็นหุ่นเชิดที่เชิดเพื่อบ้าบออะไรอยู่ก็ไม่รู้!
“ก็แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้นี่ไง”
“แบบนี้? แล้วมันหลุดพ้นยังไงวะเกรย์!” เขาพูดจริงเหรอ? ไม่ใช่หรอกเขาแค่กำลังยั่วให้ฉันโมโหต่างหากล่ะ!
“สักวันเดี๋ยวฉันก็ปล่อยเธอไปเอง”
“วันไหนล่ะ เมื่อไหร่ ต้องแกล้งเป็นแฟนนายถึงเมื่อไหร่!” ไม่น่ามาถามเลยว่ะยิ่งคุยยิ่งโมโห แต่ถ้าไม่ถามก็คงอกแตกตายกับความอึดอัดที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน
“วันไหนก็วันนั้น”
“เกรย์ฉันไม่ตลกกับนายนะ” ฉันพยายามที่จะไม่อาละวาดยากเย็นแค่ไหนนายนี่รู้บ้างไหม
“ฉันก็ไม่ได้เล่นตลกนี่น้ำขิง ฉันตอบเธอไปแล้ว เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ทำวันนี้ให้ดีก็พอ ทำให้ทุกคนคิดว่าเธอกับฉันรักกันดีแลกกับอะไรลับ ๆ ของเธอไม่ถูกเปิดเผยก็พอแล้ว”
“...” ฉันหมดคำจะพูดเลยเพราะสีหน้าของเกรย์มันบอกชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ได้พูดเล่นและฉันต้องทำตามคำสั่งของเขาเพื่อแลกกับอนาคตของตัวเองที่จะไม่ยับเยิน ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างฉันหรือใครต่อใครหลายคนก็คงไม่กล้าเสี่ยงอวดเก่งกับเรื่องแบบนี้หรอก
-หลายเดือนต่อมา-
“ขิง~”
“ไม่ไปมีน กู! ไม่! ไป!” ฉันย้ำเพื่อนรักชัดถ้อยชัดคำเพื่อปฏิเสธคำขอร้องของมันเป็นรอบที่...เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือฉันยืนยันคำเดิมแน่นอน
“อะไรวะ ไปหน่อยดิ ไปช่วยหน่อยนะขิงน้า~”
“ไม่” ฉันตอบสั้น ๆ แล้วก็หันไปหยิบตะกร้าผ้ามาแยกเสื้อผ้ากับชุดชั้นในออกจากกัน
“ใจร้ายว่ะ”
“ไม่ใช่ธุระของกูที่ต้องไปค่ะมีนาคนสวย” เพราะมีนาเริ่มทำเสียงท้อใจฉันเลยหันไปตอบแล้วขยิบตาให้จากนั้นก็หันมาสนใจแยกชุดชั้นในต่อ
“เออ ๆ ไม่เป็นไร กูขอร้องแล้วมึงไม่ไปถ้างั้นเดี๋ยวกูไปบอกให้เกรย์มาชวนมึงก็ได้”
ขวับ!
“อย่าเชียวนะมีน” ฉันรีบหันกลับไปแล้วบอกมีนาเสียงแข็ง
“โกรธกัน?”
“เปล่า แต่กูบอกว่าไม่ไปก็คือไม่ไป ไม่ต้องให้เกรย์มาชวนเด็ดขาด” เพราะถ้าเกรย์บ้าตามคำขอของมีนาขึ้นมาเขาใช้อำนาจในมือบังคับฉันไปได้แน่นอนซึ่งถ้าไปมันก็ไม่ได้มีแค่เกรย์กับมีนาแต่มันมีไอ้บ้าอีกตัวที่ฉันไม่ลงรอยกับเขามาตั้งนานแล้ว
“ไปออกค่ายอาสากับแฟนมันน่าสนุกจะตายนะขิง”
“ไม่ไป ไม่อยากไป ถ้าอยากไปกูไปตั้งแต่มึงชวนครั้งแรกแล้วค่ะมีนา” ฉันย้ำอีกครั้ง อีกสองอาทิตย์ข้างหน้าชมรมของมีนามีโครงการไปออกค่ายอาสากันที่โน่นเลยค่ะทะเลใต้ ซึ่งสมาชิกในชมรมก็มีผู้ชายสองคนนั้นรวมอยู่ด้วย หัวเด็ดตีนขาดยังไงฉันก็ไม่ไปแน่นอน
“เฮ้อ~ เอาใจยากว่ะขิง เออ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไปกูไปคนเดียวก็ได้” มีนามองค้อนทำเสียงน้อยใจแต่ฉันเลือกที่จะมองผ่าน เห็นใจเพื่อนนะเพราะมีนามันไม่ค่อยสนิทกับใครแต่มันก็รู้ทั้งรู้ว่าอยู่ชมรมนี้ยังไงก็ต้องไปออกค่ายซึ่งฉันบอกแต่แรกตอนเลือกชมรมแล้วว่าฉันไม่อยู่ชมรมนี้มันก็ยังดันทุรังเข้า มันเข้าทั้งที่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างเพราะฉะนั้นมันก็ต้องทำให้ได้ในเมื่อไม่มีใครบังคับมัน
-วันต่อมา-
ตื๊ด ตื๊ด~
...เกรย์
“...” แค่เห็นเบอร์โทรที่โทรหาฉันบ่อยกว่าคนอื่นตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาจนตอนนี้ขึ้นปีสองแล้วอารมณ์ฉันก็เริ่มมืดบอดทั้งที่กำลังดูซีรีย์เลิฟลี่น่ารักจิกหมอนอยู่แท้ ๆ
ถึงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกรย์จะไม่ได้โทรมาแล้วข่มขู่เรื่องคลิปเรื่องอะไรก็ตามที่ไม่ดีหลายครั้งแค่โทรมาพูดธุระไม่กี่คำก็วางแต่ฉันไม่ได้ชอบเขาแล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไรมันเลยทำให้ฉันกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่ต้องคุยกัน
ตื๊ด ตื๊ด~
สายถูกตัดไปแล้วหนึ่งครั้งแต่เขาก็โทรซ้ำในทันทีทำให้ฉันต้องจำใจกดรับเพราะอาจจะมีธุระสำคัญ
ติ๊ด!
“...อืม”
(กว่าจะรับ)
“เมื่อกี้มือเปียกเช็ดมืออยู่เลยรับไม่ทัน นายมีอะไร” พูดธุระมาแล้ววางไปเลยไม่อยากคุย
(อาทิตย์หน้าไปด้วยกัน)
“อะไรนะ?” อาทิตย์อะไรนะ? ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหมเพราะฉันไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าที่บอกว่าไปด้วยกันของเกรย์มันคือไปที่ไหน ฉันไม่ได้โง่แต่ฉันแค่กำลังอยากเป็นคนหูหนวก
(อาทิตย์หน้าไปด้วยกัน เก็บกระเป๋าด้วยล่ะอย่าให้ลำบาก)
“ฉันไม่ไป นาย...นายมาบอกทำไมมีนมันขอร้องเหรอ ไม่ต้องไปฟังมันหรอก”
(เพื่อนเธอกับฉันไม่เคยคุยกันส่วนตัวแล้วจะมาขอร้องฉันได้ยังไง ฉันสั่งเองและเธอต้องไป)
“ไม่ไปนะเกรย์ ฉันไม่อยาก...”
ตื๊ด ๆ ๆ
“เกรย์...ไอ้เกรย์! โอ๊ย!!”
ฟุบ!
ฉันหัวเสียจนต้องปาโทรศัพท์ลงที่โซฟา ทำไมวะ! ทำไมฉันต้องโดนบังคับจากอะไรก็ไม่รู้ด้วย เมื่อไหร่ตัวฉันจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้สักที!
-หนึ่งอาทิตย์ต่อมา-
ฉัน...ต้องมาค่ายอาสาจนได้
ตอนนี้กำลังถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินลงมาจากหอพักพร้อมกับมีนาเพื่อนรักที่กระดี้กระด้ามาก
“มึงรู้ไหมว่ากูดีใจมาก~” ฉันมองเพื่อนแล้วกรอกตามองบน
“แต่กูเซ็งมาก~”
“เดี๋ยวก็สนุกเองแหละน่า ไปกันแฟนมึงมารอแล้วนั่น” จบคำพูดของมีนาฉันก็กรอกตามองบนเป็นครั้งที่สอง ภาวนาให้มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นบ้างระหว่างที่ไปออกค่ายอาสาถึงแม้ว่าอีขิงจะไม่รู้สึกอาสาเลยก็แล้วกันนะ
เกรย์พาฉันกับมีนาไปที่คณะรวมกับคนอื่นพอถึงเวลาก็ออกเดินทางซึ่งโชคดีหน่อยที่ฉันไม่ถูกบังคับให้นั่งกับเขา ฉันนั่งกับมีนาเพื่อนสนิทของฉันส่วนอีกฝั่งก็เป็นเขาที่นั่งกับ...เพื่อนสนิทของเขา
ฉันกับไทน์มองหน้ากันบ้างแต่ไม่ได้คุยกันหรอก การมองหน้าของเราก็เหมือนมองหน้าคนทั่วไป ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เขาบุกเข้าไปในห้องฉันคืนนั้นเราก็ไม่เคยคุยกันอีกเลยถ้าจะมีคนสังเกตบ้างก็คงเห็นแต่ก็คงไม่มีใครสังเกตหรอก
นานแล้วที่ไม่ได้คุยกัน นานแล้วที่ไม่กินเส้นกันเลยแต่เชื่อไหมว่าสุดท้าย...ก็ยังรู้สึกชอบผู้ชายคนนี้อยู่ดี
...เฮ้อ~
หัวใจนี่นะมันน่ากลัวจริง ๆ คนรอบข้างบางคนว่าเลวร้ายกับฉันแล้วแต่หัวใจตัวเองดันร้ายมากกว่าคนอื่นซะอีก
-เวลาต่อมา-
“ขิง ขิง” เราขับรถกันมาไกลมากแล้วมั้งฉันหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่หลายครั้งจนสุดท้ายก็หลับลึกไปมารู้ตัวอีกตอนมีนาปลุกนี่ล่ะ
“อื้อ~”
“แวะปั้มนะมึง ลงไปฉี่เปล่า”
“ม่าย~” ลงทำไมห้องน้ำบนรถบัสก็มี อารมณ์ตอนนี้คือง่วงมาก เมื่อคืนนอนไม่หลับเพราะหงุดหงิดที่โดนบังคับให้มาเลยแทบไม่ได้นอนพอเดินทางเลยเพลียจนไม่อยากตื่น
“เอาอะไรไหมมึง”
“ไม่เอา~ มึงไปเลย” ฉันบอกมีนาทั้งที่ยังหลับตาเพราะลืมตาไม่ไหวจริง ๆ
“โอเค ๆ เดี๋ยวซื้อขนมเผื่อแล้วกัน”
“ไม่ตื่นเหรอ” ฉันได้ยินเสียงเกรย์ถามแว่ว ๆ มาแต่ไม่สนใจมอง หน้านายนั่นไม่น่าสนใจเท่าภาพมืด ๆ ตอนหลับตาหรอก
“...อืม”
“อืม” แค่นี้แหละได้ยินแค่เสียงอืม อืมแล้วฉันก็ไม่ได้ยินอะไรอีก...
#NAMKING END
#TINE TALK
“ไม่ตื่นเหรอ”
“...อืม”
“อืม” ไอ้เกรย์มองแฟนมันแล้วคุยกับมีนาพอคุยด้วยคำพูดสั้น ๆ เสร็จก็หันมามองผม
“มึงเอาไรไหม”
“เดี๋ยวกูลงไปทีหลัง ขี้เกียจเดินเบียด”
“อืม” ไอ้เกรย์พยักหน้ารับแล้วมันก็เดินตามหลังมีนาลงไป คนอื่นบนรถก็ทยอยลงตาม ๆ กันไปจนสุดท้ายก็เหลือแค่ผมกับผู้หญิงเบาะข้าง ๆ ที่หลับเป็นตาย
ผมลุกขึ้นเพื่อลงไปห้องน้ำบ้างแต่พอยืนขึ้นกำลังจะเดินไปข้างหน้าอะไรบางอย่างก็ทำให้ผมหันไปด้านข้างแล้วจ้องคนที่ไม่ได้มองหน้ากันชัด ๆ มาหลายเดือนแล้ว
“...”
น้ำขิงกับผมเคยสนิทกันมาก เราทำกิจกรรมร่วมกันในฐานะเดือนกับดาวคณะตอนปีหนึ่งพักใหญ่ เกือบเทอมจนกระทั่งวันที่ยัยนี่มาสารภาพรักกับผมวันวาเลนไทน์นั่นล่ะที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
จุดเริ่มต้นที่ทำให้แตกหักจนกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิมไม่ได้
“...ขอโทษ กูขอโทษนะขิง”
ผมเอ่ยเบา ๆ จนแทบจะไม่มีเสียงด้วยซ้ำแล้วหันกลับไปเดินต่อ
ขอโทษนะเว้ย ขอโทษที่กูเองเป็นคนที่ทำให้เกิดจุดเริ่มต้นนั้นขึ้นมา จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราแตกหักกลับไปเป็นไม่ได้แม้แต่เพื่อน แล้วก็ขอโทษด้วยที่กู...รู้ตัวช้าไป