เราใช้เวลาเกินครึ่งวันในการเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางซึ่งพอถึงแล้วความเหน็ดเหนื่อยทุกอย่างก็หายไป ที่นี่สวยมากจริง ๆ แต่คงดีกว่านี้ถ้ามาด้วยความตั้งใจไม่ใช่โดนบังคับจิตใจให้มา แต่เอาเถอะได้แอบมานั่งเงียบ ๆ มองคลื่นกระทบฝั่งเหมือนนางเอกเอวี เอ๊ย! เอ็มวีแบบนี้สักสิบยี่สิบสามสิบสี่สิบห้าสิบนาทีอย่างตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน
“ชอบเหรอ”
“...” ฉันหันไปมองต้นเสียง ตอนนี้เป็นช่วงฟรีไทม์ฉันเลยมาเดินเล่นริมหาดคนเดียว แอบมานั่งดับอารมณ์อยู่ตรงมุมเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนมาเจอ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าคนที่มาเจอจะเป็นคนที่ไม่อยากเจอ
ฉันมองหน้าเขาที่กำลังมองฉันด้วยสายตา เป็นมิตร รึเปล่านะ ไม่รู้สิไม่ได้สบตากันจริง ๆ มานานหลายเดือนแล้วก็เลยไม่รู้ว่าสายตาที่มองฉันมันสื่อความหมายไปทางไหนกันแน่ แอบเป็นมิตรหรือยังคิดว่าเป็นศัตรู
“ไม่ตอบ?”
“ไม่รู้จะตอบอะไร” ฉันบอกเขาแล้วหันหน้ากลับมา เอาล่ะน้ำขิงฐานลับเฉพาะกิจของมึงถูกทำลายแล้วได้เวลากลับไปห้องพักแล้วล่ะ
“กูก็ว่างั้น” เขาพูดกลับมาซึ่งมันฟังดูกวนประสาทยังไงก็ไม่รู้ น้ำเสียงไม่ได้กวนประสาทนะแต่ฉันรู้สึกไงอาจจะอคติด้วยมั้ง
“อืม” ฉันตอบสั้น ๆ แล้วขยับตัวเพื่อลก ไปดีกว่าหมดเวลาสงบแล้ว
“ไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวกูก็ไปแล้ว” แต่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นแค่ขยับเขาก็พูดขึ้นเหมือนรู้ว่าฉันจะไปซึ่งก็คงรู้นั่นแหละ รู้ทุกเรื่อง ยิ่งเรื่องที่ฉันชอบเขาเขาก็ยิ่งรู้ดี
“ไม่เป็นไรฉันจะไปหาเกรย์อยู่พอดี” ฉันไม่มองหน้าเขาแค่ตอบแล้วลุกขึ้นเดินหนีออกมาเลย อยู่คุยก็ไม่มีประโยชน์หรอกไม่ได้อะไรขึ้นมา ไม่มีแม้แต่มิตรภาพที่ดีขึ้นมีแต่จะทะเลาะกันให้แย่ลงเหมือนที่เคยเป็นเชื่อฉันสิ
“มึงชอบไอ้เกรย์จริง ๆ เหรอวะขิง” ฉันเดินออกมาได้เกือบสิบก้าวแล้วนะแต่ก็ยังไม่วายมีเสียงพูดไล่หลังมา แล้วแน่นอนว่ามันก็ยังเป็นคำพูดที่บอกทัศนคติกับสันดานเดิม ๆ ของผู้ชายที่ชื่อไทน์
“ว่าไง...มึงชอบมันจริง ๆ เหรอ” ฉันเบื่อ ผ่านมานานหลายเดือนแล้วแต่ดูเหมือนไทน์ก็ยังจะตามราวีเรื่องนี้ไม่จบสุดท้ายก็เลยหันกลับไปมองเขาพร้อมกับอ้าปากพูดไปพร้อมกัน
“ทำไม หึงเหรอ?”
“...กูหวง”
“...”
“กูไม่ได้หึง...แต่กูหวง ได้ยินไหม”
“...” ฉันยืนจ้องเขาที่กำลังมองมาที่ฉันเหมือนกัน มองมาด้วยสายตาที่ฉันไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองแต่ก็คิดไปแล้ว ไม่อยากคิดเลยเพราะไม่มีเหตุผลของความเป็นไปได้ในคำพูดเขา จะมีก็แค่อย่างเดียวที่ทำให้รู้สึกเป็นไปได้นั่นก็คือสายตาคู่นั้นที่กำลังมองฉัน
“...ขอโทษว่ะขิง”
“...” ฉันไม่รู้ว่าเขาขอโทษเรื่องอะไร ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นเพราะกำลังสับสนไปหมดเลย ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ไม่เข้าใจจนทนยืนอยู่ตรงนี้ให้นานกว่านี้ไม่ไหวเพราะยิ่งอยู่ก็ยิ่งสับสน ฉันสบตากับเขาต่อไปแค่แป๊บเดียวก็หันหลังเดินออกมาปล่อยให้เขาอยู่ตรงนั้นคนเดียวกับท่าทางแปลก ๆ ของเขาไปเถอะ
“มึงชอบไอ้เกรย์จริง ๆ เหรอวะขิง”
“ว่าไง...มึงชอบมันจริง ๆ เหรอ”
“ทำไม หึงเหรอ?”
“...กูหวง”
“...”
“กูไม่ได้หึง...แต่กูหวง ได้ยินไหม”
“...”
“...ขอโทษว่ะขิง”
เหตุการณ์กับคำพูดที่เราคุยกันไม่กี่คำวนซ้ำอยู่ในหัวฉัน คำพูดไม่กี่คำแถมเป็นแค่คำพูดสั้น ๆ ด้วยซ้ำแต่กลับเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
...หวง
หวงของเขาคืออะไร ไม่ได้หึงแต่หวงหมายความว่ายังไง ถ้ายืนยันว่าไม่ได้ชอบเกรย์ถ้างั้นคำว่าหวงก็คงไม่ได้หมายถึงหวงเกรย์ใช่ไหม แล้วเขาหมายถึงใคร?
...ฉันเหรอ
ไม่มีทางหรอก ไม่ใช่แน่นอนเพราะฉันจำได้ดีว่าเขาเคยปฏิเสธฉันยังไง
ไม่น่ามาเลยขิง ไม่น่ามาเลยเพราะมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด ไม่มีอะไรที่ดีกับความรู้สึกถึงแม้สายตาของเขาจะสื่ออะไรออกมาจนเกือบจะอ่านได้ชัดเจนก็ตาม
#NAMKING END
#TINE TALK
“...กูหวง”
“...”
“กูไม่ได้หึง...แต่กูหวง ได้ยินไหม”
“...”
“...ขอโทษว่ะขิง”
“...” น้ำขิงมองผมที่พูดอะไรออกไปก็ไม่รู้ ยัยนี่ไม่รู้หรอกหรือต่อให้รู้ก็คงไม่อยากจะยอมรับความจริงเพราะมองไม่นานน้ำขิงก็หันหลังแล้วเดินกลับไป
“ฮึ ๆ ๆ มึงคงไม่เชื่อ...แต่กูหวงจริง ๆ นะขิง” ผมได้แต่หัวเราะในลำคอเบา ๆ กับพูดกับเธอเบา ๆ เหมือนกัน พูดเบาเพื่อไม่ให้เธอได้ยินแต่อยากพูดออกไป ส่วนที่หัวเราะในลำคอก็ไม่ได้ขำอะไรยัยนั่นหรอกที่หัวเราะก็แค่...ขำตัวเอง
-เวลาต่อมา-
“ไปไหนมา”
“เดินเล่น”
“ทำไมไม่บอก”
“อะไรของนาย” ฉันชักสีหน้าทันทีที่เจอคำถามนี้ของเกรย์ ตอนแรกก็ไม่อะไรนะคิดว่าถามไปงั้นแต่เจอคำถามต่อมาฉันก็มีน้ำโห บอกทำไม? เป็นพ่อเหรอ?
“ถามว่าทำไมไม่บอก”
“ทำไมต้องบอกเป็นพ่อฉันเหรอ?” ด้วยความโมโหทำให้ปากฉันถามในสิ่งที่ใจคิดทันที
“เปล่า ไม่ได้เป็นพ่อแต่จะให้ย้ำไหมว่าเป็นอะไร?”
“หุบปากซะเกรย์!”
“ถ้าไม่อยากให้ย้ำก็อย่าหนีไปไหนคนเดียวอีก ที่นี่มันแปลกถิ่นไม่กลัวรึไง” เขาว่าแต่ฉันก็แค่มองแล้วหันไปทักทายรุ่นพี่ที่เดินมาทางนี้แทนเพื่อเปลี่ยนเรื่องซะ
เฮงซวยว่ะ ไม่น่ามาเลยจริง ๆ รู้แบบนี้สู้ดื้อด้านไม่ยอมมายังดีกว่า ไม่น่ากังวลจนหัวหดยอมทำทุกอย่างที่ไอ้บ้านี่มันสั่งจนลืมคิดไปว่าแค่เรื่องแค่นี้มันคงไม่เอาคลิปอะไรที่มีมาประจาน!
-เวลาต่อมา-
“พวกมึงเป็นไรกัน”
“ใคร?”
“มึงกับขิงไง” ผมถามไอ้เกรย์หลังจากที่เข้ามาในห้องพักเพราะเมื่อกี้ตอนกินข้าวเย็นผมเห็นน้ำขิงหน้าตึงใส่ไอ้เกรย์ตลอดเวลาแทนที่จะหน้าตึงใส่ผมมากกว่า
“ไม่มีอะไร โดนกูดุนิดหน่อยที่ออกไปเดินเล่นคนเดียวไม่บอกใคร”
“ก็เลยทะเลาะกันงั้นสิ?” คงจะเป็นตอนที่ผมแอบเดินตามน้ำขิงไปมั้ง ก็คงใช่นั่นล่ะเพราะตอนนั้นน้ำขิงไปคนเดียวแถมยังไปนานด้วย
“เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ”
“อืม” มันบอกไม่ได้ทะเลาะก็ตามนั้น ผมไม่คิดจะเซ้าซี้ถามอะไรต่อเพื่อให้มันบอกว่าทะเลาะอยู่แล้วก็เลยเดินไปหยิบของในกระเป๋าจะได้อาบน้ำนอน
“มึงกับทรายล่ะเป็นไงบ้าง”
“เรื่อย ๆ” ทรายที่มันถามถึงเป็นผู้หญิงที่ผมกำลังคุย ๆ ด้วย แต่ก็แค่คุยไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
“สวยดีนะ ไม่คิดจะจริงจังหน่อยเหรอ”
“ไม่รู้ว่ะ คงไม่”
“อืม” มันแค่ตอบกลับมาสั้น ๆ ผมก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่อไปอาบน้ำนอนดีกว่าวันนี้เหนื่อยกับการเดินทางมาเยอะแล้วพรุ่งนี้มีกิจกรรมต้องทำอีกเยอะ
“ไอ้ไทน์” ได้เกรย์เรียกผมก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“อืม มีไรวะ”
“กูมีเรื่องอยากให้มึงช่วยว่ะ”
“เออ มีไร”
“มึงไปนอนกับไอ้ภพได้ไหมวะ” ไอ้เกรย์พูดออกมาทำให้ผมขมวดคิ้วแล้วหันไปมองมันทันที
“ให้กูไปนอนห้องไอ้ภพ?”
“อืม ได้ใช่ไหม...กูอยากนอนกับเมียกู”