ด้านไซรัสหากเขาเป็นคนมักมากเหมือนแต่ก่อน ซันนี่คงหลุดมือไปจากเขาแบบไม่มีทางได้คืน
บอกแล้วว่าเขาจะเป็นพ่อพระ
นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเกือบทำเขาเสียคนเพราะเหล้าเป็นเหตุ
"คุณไซรัสคะกุ๊กไก่ไม่ไหวแล้วค่ะ"
หญิงสาวคร่ำครวญทนลิ้นร้อนของไซรัสไม่ไหว ร่างกายบิดเร่าเสียวสะท้าน
ขณะที่มือนุ่มลูบไล้กายแกร่งไปมาอยากจะถอดบ๊อกเซอร์ออกเสียเหลือเกิน
ฮะ....คำว่ากุ๊กไก่กระทบเข้าโสตประสาทขณะกำลังเมามายในรสสวาท
นางร้ายหน้าสวยดันไซรัสให้นอนราบแล้วขึ้นคร่อมช่วยไซรัสถอดเสื้อออกเหลือเพียงบ๊อกเซอร์ตัวสั้นที่มีกายแกร่งแข็งเป็นลำพร้อมรบ
"กุ๊กไก่ค่ะ.."
หญิงสาวไม่หยุดเล้าโลมปลุกอารมณ์ไซรัสให้ล่องลอยกดจูบซอกคอรุนแรงหวังฝากรอยรักระเรื่อยไปที่ริมฝีปากได้รูปจูบเขาร้อนแรงบดขยี้ถึงพริกถึงขิง
"กุ๊กไก่...."
เขาเรียกชื่อหญิงสาวผ่านลำคออู้อี้ลืมตาโพรง
พอได้สติไซรัสผลักหญิงสาวลงข้างตัวแบบไม่ปราณีซวนเซลงจากเตียงตรงเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาสติสัมปชัญญะเขาก็ดีขึ้น
มองตัวเองในกระจกเงาที่ลำคอมีรอยแดงจางๆ
"ไม่ใช่ซันนี่...."
พอได้สติเขาออกจากห้องน้ำด้วยความโกรธ "คุณกลับไป" เสียงเข้มดุดันพูดโดยไม่มองมาทางหญิงสาวเดินไปที่ตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาแล้วกระดกรวดเดียวหมดขวด
กุ๊กไก่ไม่ยอมแพ้เดินเข้ามากอดเขาที่ด้านหลังร่างกายเปล่าเปลือยทรวงอกแนบกับแผ่นหลังน่าหลงใหลนั้นงัดมารยาหญิงออกมาร้องไห้น้ำตาใหลนองหน้า
"กุ๊กไก่ไม่ดีตรงไหนถึงสู้ซันนี่ไม่ได้"
"ผมขอโทษ...ผมเมาไปหน่อย"
"คุณกลับเถอะ...ผมจะนอน"
"แต่...."
"กุ๊กไก่ชอบคุณไซรัสจริงๆนะคะ"
"คุณเลิกชอบผมเถอะ...เราจบแค่นี้"
ไซรัสแกะมือหญิงสาวออกจากตัว
เขาหยิบชุดที่กองกับพื้นเรี่ยราดส่งคืนหญิงสาวเปิดประตูห้องน้ำให้เธอเข้าไปแต่งตัวโดยไม่สนว่าร่างแบบบางนั้นจะน่าเย้ายวนเพียงใด
เขาจะเป็นพ่อพระ...
กุ๊กไก่จากไปด้วยความแค้นเธอเกือบจะได้ขึ้นสวรรค์อยู่รอมร่อก็เห็นอยู่ว่าเราเข้ากันได้ดีขนาดไหน
ซันนี่เธอมีดีอะไร
รุ่งเช้าของอีกวัน
หลังจากซันนี่กลับห้องไปแล้วไซรัสอาบน้ำแต่งตัวใหม่ในชุดลำลองหล่อเหลา
เขาใส่เสื้อกล้ามพอดีตัวอวดกล้ามแน่นสวมเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นลายต้นมะพร้าวสีสันสดใสกางเกงขาสั้นสวมรองเท้าแตะแบบสบายๆ
แต่งตัวเสร็จแล้วเขาก็เดินไปรับซันนี่ที่ห้อง
ในใจลึกๆเขารู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อคืนเขาเมามากพอโดนกุ๊กไก่ประชิดตัวนิสัยเดิมๆก็ผุดขึ้นมา
เกือบแล้ว...เขาเกือบไปแล้วไอ้นิสัยเอาไม่เลือกแบบนี้
ปิ๊งป่อง....ปิ๊งป่อง....
ค่า....มาแล้วค่ะ....ซันนี่ลองส่องดูที่ตาแมวเห็นว่าเป็นเขาจึงเปิดประตู
"คุณไซรัส.."
"Morning ฮันนี่"
"รอข้างนอกแพรบนึงนะคะซันนี่ยังไม่เสร็จ"
ไซรัสชะโงกหน้ามองเข้าไปข้างในอย่างสอดรู้สอดเห็นโดยที่หญิงสาวแอบอยู่หลังประตู
"ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหมรับรองจะไม่แอบมอง"
"แน่นะคะ..."
"แน่นอนฮันนี่ ด้วยเกียรติของท่านประธาน"
"อะ..ค่ะเข้ามาค่ะ"
ฉันแต่งตัวใกล้เสร็จแล้วเหลือเพียงผูกโบว์ที่ไหล่อีกข้าง
เปิดประตูให้เขาเข้ามาแล้วจะเดินเข้าห้องน้ำ
"มา...ผมผูกให้"
ป้อจายผู้นี้ตาไวแต๊แต๊ก๊ะ
"ไหนบอกว่าจะไม่แอบมองไงคะ"
"มาเถอะจะได้เสร็จเร็วๆ ผมหิวข้าวแล้ว"
"ก็ได้ค่ะ"
เขาจึงมายืนหล่อจับสายเสื้อทำมือขยุกขยิกผูกออกมาซะสวยเชียว
"โบว์ผมสวยกว่าของคุณอีกมา...ผมทำอีกข้างให้ใหม่ดีกว่า"
ไซรัสเขาไม่เคยได้ทำแบบนี้กับใครทุกครั้งที่มือเขาสัมผัสกับผิวนุ่มใจเขาก็คิดดีไม่ได้อยากได้ร่างบางมาเป็นของตนเองอยากดูแลทุกวัน
"ไม่..."
ไม่ทันแล้วเขาดึงโบว์เก่าที่ฉันผูกอย่างปราณีตผูกตั้งนานกว่าจะได้ออกแล้วทำใหม่ให้สวยเหมือนกันทั้งสองข้าง
ฉันยืนประจันกับเขาไม่กล้าสบตาหลุบมองแค่แผงอกตึงแน่นใจเต้นตึกตักแบบไม่มีเหตุผล
"สวยแล้วไปกันเถอะ"
เขาบอกขณะที่เขาผูกโบว์เรียบร้อยทั้งสองข้าง
"ค่ะ...ไปค่ะ"
ฉันกำลังจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายเขาก็ดึงเอวฉันเอาไว้ก้าวขามาประชิดลำตัวกอดฉันไว้แนบอก
"ฮันนี่..."
"อะ..อะไรคะ"
"เราแต่งงานกันเถอะ"
ฉันคิดหนักเพิ่งจะรู้จักกันยังไม่ถึงหนึ่งเดือนเลยจะแต่งกันเข้าไปได้อย่างไร
"มันเร็วไปค่ะเราควรเรียนรู้กันมากกว่านี้
ซันนี่ยังไม่พร้อม"
"หรือคุณไม่มั่นใจผม"
"ใช่ค่ะ...ซันนี่ไม่มั่นใจ"
เจอคำตอบตรงใจแบบไม่อ้อมค้อมเขาก็ชะงักไปนิดหนึ่ง จึงดันร่างบางให้มาสบตา
เขาเคยคิดว่าถ้าเขาขอผู้หญิงคนไหนแต่งงานก็คงไม่มีใครปฏิเสธเขาแน่นอน
"ต่อไปนี้ผมจะเป็นพ่อพระ...จะเป็นคนดีของคุณ"
"ซันนี่กลัวคุณจะเป็นพระเพลิงมากกว่าพ่อพระค่ะ"
เอาอีกเขาโดนอีกแล้ว.....
"อีกอย่างซันนี่มีภาระกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ"
"ภารกิจอะไร...ยากไหมผมจะช่วย"
จริงๆแล้วเขาก็เป็นป้อจายน่าฮักอยู่หรอก
"พันล้าน...ยากไหมคะ"
ฉันเห็นเขาอึ้งไปเหมือนกัน
เขาจึงเปลี่ยนจากจ้องตามาเป็นพาไปนั่งที่ปลายเตียงคุยกันแบบจริงจังแต่ยังจับมือนุ่มไว้
"คุณจะเอาไปทำอะไรตั้งพันล้าน"
"บอกไม่ได้ค่ะ...ภารกิจของซันนี่"
"แล้วถ้าผมให้ล่ะ"
เขาเสนอแบบจริงใจไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น
"ไม่ค่ะ..ซันนี่จะหาเอง"
เขาขมวดคิ้วเธอปฏิเสธเงินพันล้านได้อย่างไรช่างกล้ามากแต่ก็เอ่ยด้วยความเห็นใจ
"แล้วเมื่อไหร่จะได้...เงินตั้งเยอะ"
"สงสัยแก่ก่อนหรือไม่ก็...."
"ก็อะไร.."
"อาจจะกลับไปอยู่ที่เชียงใหม่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงปลูกผักปลูกหญ้ากิน...อะไรประมาณนี้ค่ะ"
"บ้านคุณอยู่เชียงใหม่เหรอ"
"ใช่ค่ะ...แม่ซันนี่เป็นคนเชียงใหม่แต๊แต๊"
"จริงสินะ...สาวเหนือผิวสวยพูดจาไพเราะแบบคุณ"
พูดจบเขาก็ออกลายลูบไล้ผิวขาวของฉัน
ฉันนึกในใจชาติกำเนิดก็ส่วนหนึ่งแต่ต้องขอบคุณน้ำนมในอ่างกับวิตามินและคอลลาเจน
ที่ประโคมด้วยนะผิวถึงได้สวยนุ่มแบบนี้
"คุณเอาเงินผมไป...ผมไม่คิดดอก"
ไซรัสเขาใจกว้างอย่างกับน้ำทะเลใครจะป๋าเท่าเขาอีกมีไหม
"ขอบคุณนะคะคุณไซรัส.ซันนี่ขอเป็นทางเลือกสุดท้ายละกันค่ะ"
"ถ้าคุณอยากจะช่วยก็แค่..."
"แค่อะไร..."
"สินค้าของคุณมีตั้งเยอะ...ให้ซันนี่เป็นพรีเซ็นเตอร์อีกสิคะ"
"ได้...ผมจะจัดการให้"
"ผมขอรางวัลก่อนล่วงหน้าได้ไหม"
"ไม่ค่ะ...เราไปกิ๋นข้าวงายกัน"ฉันลุกขึ้นจากเตียงจะดีกว่าไม่ค่อยไว้ใจคนแบบเขาสักเท่าไหร่แล้วเขาก็เดินตามมาแต่โดยดีกุมมือฉันไว้ไม่ยอมปล่อย
"ข้าวงายคืออะไรฮันนี่"
"ข้าวงายก็ข้าวเช้าไงคะ
ถ้าข้าวเที่ยงเขาเรียกข้าวตอน"
"แล้วข้าวเย็นล่ะ"
"ข้าวแลงค่ะ"
ฉันกับเขาเกือบเข้ากันได้แล้วทุกอย่างต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง
ส่วนเรื่องเงินพันล้านนั้นอย่างที่เขาคิดว่ามันมากเกินตัวขนาดที่ชั่วชีวิตของฉันคงจะหาไม่ได้แน่นอน
เราเดินชมความงามของท้องทะเลสีฟ้าสวยยามเช้าๆแบบนี้ถ้าหากมาเที่ยวโดยที่ไม่มาทำงานก็คงจะดีไม่น้อย
อยากนอนเฉยๆมองฟ้ามองผืนน้ำแบบไม่ต้องมีเรื่องให้คิดมากมายแบบตอนนี้
@ ห้องอาหาร
ที่ห้องอาหารจัดแบบบุฟเฟ่ต์ทุกคนกินเหมือนกันไม่แบ่งแยก ฉันตักข้าวต้มทะเลหอมกรุ่นสำหรับตนเอง
ส่วนของคุณไซรัสนั้นไม่ต้องพูดถึงเขาตักมาเกือบทุกเมนู
ไส้กรอกแฮมไข่ดาวจบไปแล้วตามด้วยข้าวต้มทะเลเหมือนกับฉัน
"ลำขนาด..."
ฉันบอกเขาก็เมื่อตักข้าวต้มทะเลเข้าปาก
ฉันเห็นเขายิ้มมาให้แล้วยกแก้วน้ำส้มคั้นให้อีกแก้ว
บนโต๊ะของเรามีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะเขาบอกว่าเขากินหมดฉันยังสงสัยว่าเขาไปเสียพลังงานที่ไหนมาจึงกินเยอะขนาดนี้
กำลังกินอยู่ดีๆ
นางร้ายที่สวยที่สุดในตอนนี้ก็เดินมาทักทายหน้าตาดูเป็นมิตรแต่ยิ้มร้ายมาแต่ไกลใส่เสื้อเกาะอกจนนมทะลักสวมทับด้วยเชิ๊ตตัวยาวกับกางเกงขาสั้น
แบบสั้นมากเดินตรงมาทางเรา
"ซันนี่จ๊ะ...ดูแลคุณไซรัสหน่อยสิดูแล้วเมื่อคืนน่าจะเสียพลังงานไปเยอะ"
"ค่ะ..คุณกุ๊กไก่..ขอบคุณนะคะ"
คุณก๊กไก่เพิ่งจะมาถึงกำลังหาที่นั่งก็ตรงมาทางเราฉันเห็นคุณไซรัสไม่แยแสฉันก็ไม่ชวนร่วมโต๊ะด้วย
ทำทีคุยกันกระหนุงกระหนิงเพียงสองคนเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ
ไม่นานเธอก็เดินจากไปหย่อนก้นแหมะข้างกับคุณตรีพระเอกของฉันที่คอยส่งยิ้มมาได้เป็นระยะ
จนคุณไซรัสทำตาเขียวใส่
"เดี๋ยวพ่อจะต่อยให้หน้าแหกเป็นพระเอกไม่ได้อีกเลย"
"คุณไซรัสคุณดุจริงๆ"
"ผมไม่ใช่หมานะ..ผมเป็นแฟนคุณ"
แล้วเขาก็เอนตัวกระซิบเบาๆที่ข้างหูว่า "จูบกันจนจะได้เสียเป็นผัวเมียอยู่แล้ว...ยังจะปากแข็งอีก"
"คุณไซ..รัส คุณนี่เกินไปแล้วนะคะ"
ฉันกับเขาหยอกล้อกันต่อหน้าคนหลายสิบชีวิตจนคุณกุ๊กไก่มองตามคอเคล็ด...ฉันก็ไม่รู้ทำไมถึงเป็นแบบนั้นมองแต่คุณไซรัสสายตาหวานหยาดเยิ้ม
คุณกุ๊กไก่นี่แฮ่นป้อจายแต๊แต๊ฉันดูออก (แฮ่นป้อจายคือหิวผู้ชาย)
"ฮันนี่..กินข้าวเสร็จแล้วผมมีประชุมคงไม่ได้ไปให้กำลังใจคุณนะครับ"
"ค่ะ...คุณไซรัส.."
"ทำงานเถอะค่ะท่านประธาน ซันนี่จะได้มีสมาธิ"
ฉันรู้เขาคงไม่อยากเจอกับคุณกุ๊กไก่มากกว่า
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดก็เมื่อวานในวงเหล้ายังเห็นคุยกันถูกคออยู่เลยตามประสาคนมักเมา
มันชักได้กลิ่นตุ..ตุแล้ว
@@@@@@@@@
ออนไรท์