เขาจะเป็นพ่อพระ

1822 Words
ด้านไซรัสหากเขาเป็นคนมักมากเหมือนแต่ก่อน ซันนี่คงหลุดมือไปจากเขาแบบไม่มีทางได้คืน บอกแล้วว่าเขาจะเป็นพ่อพระ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเกือบทำเขาเสียคนเพราะเหล้าเป็นเหตุ "คุณไซรัสคะกุ๊กไก่ไม่ไหวแล้วค่ะ" หญิงสาวคร่ำครวญทนลิ้นร้อนของไซรัสไม่ไหว ร่างกายบิดเร่าเสียวสะท้าน ขณะที่มือนุ่มลูบไล้กายแกร่งไปมาอยากจะถอดบ๊อกเซอร์ออกเสียเหลือเกิน ฮะ....คำว่ากุ๊กไก่กระทบเข้าโสตประสาทขณะกำลังเมามายในรสสวาท นางร้ายหน้าสวยดันไซรัสให้นอนราบแล้วขึ้นคร่อมช่วยไซรัสถอดเสื้อออกเหลือเพียงบ๊อกเซอร์ตัวสั้นที่มีกายแกร่งแข็งเป็นลำพร้อมรบ "กุ๊กไก่ค่ะ.." หญิงสาวไม่หยุดเล้าโลมปลุกอารมณ์ไซรัสให้ล่องลอยกดจูบซอกคอรุนแรงหวังฝากรอยรักระเรื่อยไปที่ริมฝีปากได้รูปจูบเขาร้อนแรงบดขยี้ถึงพริกถึงขิง "กุ๊กไก่...." เขาเรียกชื่อหญิงสาวผ่านลำคออู้อี้ลืมตาโพรง พอได้สติไซรัสผลักหญิงสาวลงข้างตัวแบบไม่ปราณีซวนเซลงจากเตียงตรงเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาสติสัมปชัญญะเขาก็ดีขึ้น มองตัวเองในกระจกเงาที่ลำคอมีรอยแดงจางๆ "ไม่ใช่ซันนี่...." พอได้สติเขาออกจากห้องน้ำด้วยความโกรธ "คุณกลับไป" เสียงเข้มดุดันพูดโดยไม่มองมาทางหญิงสาวเดินไปที่ตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาแล้วกระดกรวดเดียวหมดขวด กุ๊กไก่ไม่ยอมแพ้เดินเข้ามากอดเขาที่ด้านหลังร่างกายเปล่าเปลือยทรวงอกแนบกับแผ่นหลังน่าหลงใหลนั้นงัดมารยาหญิงออกมาร้องไห้น้ำตาใหลนองหน้า "กุ๊กไก่ไม่ดีตรงไหนถึงสู้ซันนี่ไม่ได้" "ผมขอโทษ...ผมเมาไปหน่อย" "คุณกลับเถอะ...ผมจะนอน" "แต่...." "กุ๊กไก่ชอบคุณไซรัสจริงๆนะคะ" "คุณเลิกชอบผมเถอะ...เราจบแค่นี้" ไซรัสแกะมือหญิงสาวออกจากตัว เขาหยิบชุดที่กองกับพื้นเรี่ยราดส่งคืนหญิงสาวเปิดประตูห้องน้ำให้เธอเข้าไปแต่งตัวโดยไม่สนว่าร่างแบบบางนั้นจะน่าเย้ายวนเพียงใด เขาจะเป็นพ่อพระ... กุ๊กไก่จากไปด้วยความแค้นเธอเกือบจะได้ขึ้นสวรรค์อยู่รอมร่อก็เห็นอยู่ว่าเราเข้ากันได้ดีขนาดไหน ซันนี่เธอมีดีอะไร รุ่งเช้าของอีกวัน หลังจากซันนี่กลับห้องไปแล้วไซรัสอาบน้ำแต่งตัวใหม่ในชุดลำลองหล่อเหลา เขาใส่เสื้อกล้ามพอดีตัวอวดกล้ามแน่นสวมเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นลายต้นมะพร้าวสีสันสดใสกางเกงขาสั้นสวมรองเท้าแตะแบบสบายๆ แต่งตัวเสร็จแล้วเขาก็เดินไปรับซันนี่ที่ห้อง ในใจลึกๆเขารู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อคืนเขาเมามากพอโดนกุ๊กไก่ประชิดตัวนิสัยเดิมๆก็ผุดขึ้นมา เกือบแล้ว...เขาเกือบไปแล้วไอ้นิสัยเอาไม่เลือกแบบนี้ ปิ๊งป่อง....ปิ๊งป่อง.... ค่า....มาแล้วค่ะ....ซันนี่ลองส่องดูที่ตาแมวเห็นว่าเป็นเขาจึงเปิดประตู "คุณไซรัส.." "Morning ฮันนี่" "รอข้างนอกแพรบนึงนะคะซันนี่ยังไม่เสร็จ" ไซรัสชะโงกหน้ามองเข้าไปข้างในอย่างสอดรู้สอดเห็นโดยที่หญิงสาวแอบอยู่หลังประตู "ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหมรับรองจะไม่แอบมอง" "แน่นะคะ..." "แน่นอนฮันนี่ ด้วยเกียรติของท่านประธาน" "อะ..ค่ะเข้ามาค่ะ" ฉันแต่งตัวใกล้เสร็จแล้วเหลือเพียงผูกโบว์ที่ไหล่อีกข้าง เปิดประตูให้เขาเข้ามาแล้วจะเดินเข้าห้องน้ำ "มา...ผมผูกให้" ป้อจายผู้นี้ตาไวแต๊แต๊ก๊ะ "ไหนบอกว่าจะไม่แอบมองไงคะ" "มาเถอะจะได้เสร็จเร็วๆ ผมหิวข้าวแล้ว" "ก็ได้ค่ะ" เขาจึงมายืนหล่อจับสายเสื้อทำมือขยุกขยิกผูกออกมาซะสวยเชียว "โบว์ผมสวยกว่าของคุณอีกมา...ผมทำอีกข้างให้ใหม่ดีกว่า" ไซรัสเขาไม่เคยได้ทำแบบนี้กับใครทุกครั้งที่มือเขาสัมผัสกับผิวนุ่มใจเขาก็คิดดีไม่ได้อยากได้ร่างบางมาเป็นของตนเองอยากดูแลทุกวัน "ไม่..." ไม่ทันแล้วเขาดึงโบว์เก่าที่ฉันผูกอย่างปราณีตผูกตั้งนานกว่าจะได้ออกแล้วทำใหม่ให้สวยเหมือนกันทั้งสองข้าง ฉันยืนประจันกับเขาไม่กล้าสบตาหลุบมองแค่แผงอกตึงแน่นใจเต้นตึกตักแบบไม่มีเหตุผล "สวยแล้วไปกันเถอะ" เขาบอกขณะที่เขาผูกโบว์เรียบร้อยทั้งสองข้าง "ค่ะ...ไปค่ะ" ฉันกำลังจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายเขาก็ดึงเอวฉันเอาไว้ก้าวขามาประชิดลำตัวกอดฉันไว้แนบอก "ฮันนี่..." "อะ..อะไรคะ" "เราแต่งงานกันเถอะ" ฉันคิดหนักเพิ่งจะรู้จักกันยังไม่ถึงหนึ่งเดือนเลยจะแต่งกันเข้าไปได้อย่างไร "มันเร็วไปค่ะเราควรเรียนรู้กันมากกว่านี้ ซันนี่ยังไม่พร้อม" "หรือคุณไม่มั่นใจผม" "ใช่ค่ะ...ซันนี่ไม่มั่นใจ" เจอคำตอบตรงใจแบบไม่อ้อมค้อมเขาก็ชะงักไปนิดหนึ่ง จึงดันร่างบางให้มาสบตา เขาเคยคิดว่าถ้าเขาขอผู้หญิงคนไหนแต่งงานก็คงไม่มีใครปฏิเสธเขาแน่นอน "ต่อไปนี้ผมจะเป็นพ่อพระ...จะเป็นคนดีของคุณ" "ซันนี่กลัวคุณจะเป็นพระเพลิงมากกว่าพ่อพระค่ะ" เอาอีกเขาโดนอีกแล้ว..... "อีกอย่างซันนี่มีภาระกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ" "ภารกิจอะไร...ยากไหมผมจะช่วย" จริงๆแล้วเขาก็เป็นป้อจายน่าฮักอยู่หรอก "พันล้าน...ยากไหมคะ" ฉันเห็นเขาอึ้งไปเหมือนกัน เขาจึงเปลี่ยนจากจ้องตามาเป็นพาไปนั่งที่ปลายเตียงคุยกันแบบจริงจังแต่ยังจับมือนุ่มไว้ "คุณจะเอาไปทำอะไรตั้งพันล้าน" "บอกไม่ได้ค่ะ...ภารกิจของซันนี่" "แล้วถ้าผมให้ล่ะ" เขาเสนอแบบจริงใจไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น "ไม่ค่ะ..ซันนี่จะหาเอง" เขาขมวดคิ้วเธอปฏิเสธเงินพันล้านได้อย่างไรช่างกล้ามากแต่ก็เอ่ยด้วยความเห็นใจ "แล้วเมื่อไหร่จะได้...เงินตั้งเยอะ" "สงสัยแก่ก่อนหรือไม่ก็...." "ก็อะไร.." "อาจจะกลับไปอยู่ที่เชียงใหม่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงปลูกผักปลูกหญ้ากิน...อะไรประมาณนี้ค่ะ" "บ้านคุณอยู่เชียงใหม่เหรอ" "ใช่ค่ะ...แม่ซันนี่เป็นคนเชียงใหม่แต๊แต๊" "จริงสินะ...สาวเหนือผิวสวยพูดจาไพเราะแบบคุณ" พูดจบเขาก็ออกลายลูบไล้ผิวขาวของฉัน ฉันนึกในใจชาติกำเนิดก็ส่วนหนึ่งแต่ต้องขอบคุณน้ำนมในอ่างกับวิตามินและคอลลาเจน ที่ประโคมด้วยนะผิวถึงได้สวยนุ่มแบบนี้ "คุณเอาเงินผมไป...ผมไม่คิดดอก" ไซรัสเขาใจกว้างอย่างกับน้ำทะเลใครจะป๋าเท่าเขาอีกมีไหม "ขอบคุณนะคะคุณไซรัส.ซันนี่ขอเป็นทางเลือกสุดท้ายละกันค่ะ" "ถ้าคุณอยากจะช่วยก็แค่..." "แค่อะไร..." "สินค้าของคุณมีตั้งเยอะ...ให้ซันนี่เป็นพรีเซ็นเตอร์อีกสิคะ" "ได้...ผมจะจัดการให้" "ผมขอรางวัลก่อนล่วงหน้าได้ไหม" "ไม่ค่ะ...เราไปกิ๋นข้าวงายกัน"ฉันลุกขึ้นจากเตียงจะดีกว่าไม่ค่อยไว้ใจคนแบบเขาสักเท่าไหร่แล้วเขาก็เดินตามมาแต่โดยดีกุมมือฉันไว้ไม่ยอมปล่อย "ข้าวงายคืออะไรฮันนี่" "ข้าวงายก็ข้าวเช้าไงคะ ถ้าข้าวเที่ยงเขาเรียกข้าวตอน" "แล้วข้าวเย็นล่ะ" "ข้าวแลงค่ะ" ฉันกับเขาเกือบเข้ากันได้แล้วทุกอย่างต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง ส่วนเรื่องเงินพันล้านนั้นอย่างที่เขาคิดว่ามันมากเกินตัวขนาดที่ชั่วชีวิตของฉันคงจะหาไม่ได้แน่นอน เราเดินชมความงามของท้องทะเลสีฟ้าสวยยามเช้าๆแบบนี้ถ้าหากมาเที่ยวโดยที่ไม่มาทำงานก็คงจะดีไม่น้อย อยากนอนเฉยๆมองฟ้ามองผืนน้ำแบบไม่ต้องมีเรื่องให้คิดมากมายแบบตอนนี้ @ ห้องอาหาร ที่ห้องอาหารจัดแบบบุฟเฟ่ต์ทุกคนกินเหมือนกันไม่แบ่งแยก ฉันตักข้าวต้มทะเลหอมกรุ่นสำหรับตนเอง ส่วนของคุณไซรัสนั้นไม่ต้องพูดถึงเขาตักมาเกือบทุกเมนู ไส้กรอกแฮมไข่ดาวจบไปแล้วตามด้วยข้าวต้มทะเลเหมือนกับฉัน "ลำขนาด..." ฉันบอกเขาก็เมื่อตักข้าวต้มทะเลเข้าปาก ฉันเห็นเขายิ้มมาให้แล้วยกแก้วน้ำส้มคั้นให้อีกแก้ว บนโต๊ะของเรามีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะเขาบอกว่าเขากินหมดฉันยังสงสัยว่าเขาไปเสียพลังงานที่ไหนมาจึงกินเยอะขนาดนี้ กำลังกินอยู่ดีๆ นางร้ายที่สวยที่สุดในตอนนี้ก็เดินมาทักทายหน้าตาดูเป็นมิตรแต่ยิ้มร้ายมาแต่ไกลใส่เสื้อเกาะอกจนนมทะลักสวมทับด้วยเชิ๊ตตัวยาวกับกางเกงขาสั้น แบบสั้นมากเดินตรงมาทางเรา "ซันนี่จ๊ะ...ดูแลคุณไซรัสหน่อยสิดูแล้วเมื่อคืนน่าจะเสียพลังงานไปเยอะ" "ค่ะ..คุณกุ๊กไก่..ขอบคุณนะคะ" คุณก๊กไก่เพิ่งจะมาถึงกำลังหาที่นั่งก็ตรงมาทางเราฉันเห็นคุณไซรัสไม่แยแสฉันก็ไม่ชวนร่วมโต๊ะด้วย ทำทีคุยกันกระหนุงกระหนิงเพียงสองคนเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ ไม่นานเธอก็เดินจากไปหย่อนก้นแหมะข้างกับคุณตรีพระเอกของฉันที่คอยส่งยิ้มมาได้เป็นระยะ จนคุณไซรัสทำตาเขียวใส่ "เดี๋ยวพ่อจะต่อยให้หน้าแหกเป็นพระเอกไม่ได้อีกเลย" "คุณไซรัสคุณดุจริงๆ" "ผมไม่ใช่หมานะ..ผมเป็นแฟนคุณ" แล้วเขาก็เอนตัวกระซิบเบาๆที่ข้างหูว่า "จูบกันจนจะได้เสียเป็นผัวเมียอยู่แล้ว...ยังจะปากแข็งอีก" "คุณไซ..รัส คุณนี่เกินไปแล้วนะคะ" ฉันกับเขาหยอกล้อกันต่อหน้าคนหลายสิบชีวิตจนคุณกุ๊กไก่มองตามคอเคล็ด...ฉันก็ไม่รู้ทำไมถึงเป็นแบบนั้นมองแต่คุณไซรัสสายตาหวานหยาดเยิ้ม คุณกุ๊กไก่นี่แฮ่นป้อจายแต๊แต๊ฉันดูออก (แฮ่นป้อจายคือหิวผู้ชาย) "ฮันนี่..กินข้าวเสร็จแล้วผมมีประชุมคงไม่ได้ไปให้กำลังใจคุณนะครับ" "ค่ะ...คุณไซรัส.." "ทำงานเถอะค่ะท่านประธาน ซันนี่จะได้มีสมาธิ" ฉันรู้เขาคงไม่อยากเจอกับคุณกุ๊กไก่มากกว่า แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดก็เมื่อวานในวงเหล้ายังเห็นคุยกันถูกคออยู่เลยตามประสาคนมักเมา มันชักได้กลิ่นตุ..ตุแล้ว @@@@@@@@@ ออนไรท์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD