เขาสร้างเรื่อง

1593 Words
@ ห้องของซันนี่ หลังกลับจากกระบี่คุณไซรัสเขาก็หายหน้าหายตาไปหลายวัน แต่ถึงตัวจะไม่มาเขาก็โทรมารายงานทุกเช้ากลางวันเย็นหรือถ้าไม่ว่างจริงๆก็ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์ทักทายพอได้หอมปากหอมคอ ฉันอยากเจอหน้าเขามากในวินาทีนี้เพราะเขาสร้างเรื่องไว้ให้ชวนปวดหัวอีกแล้ว เป็นครั้งที่สองทั้งที่ก่อนหน้ารูปจูบกันหน้าลิฟท์ก็ยังไม่ได้เคลียร์อะไรทั้งสิ้น ตัวเขารู้ตัวหรือเปล่าฉันยังสงสัย ดูเหมือนข่าวกอสซิปของฉันคงเป็นเรื่องที่สนุกมากล่ะมั้งสำหรับนักข่าว ภาพที่สองในห้องนอนที่ฉันอิงแอบกับเขาแม้ไม่เห็นใบหน้าแต่สร้อยคอทองคำขาวห้อยจี้พระสิวลีองค์เล็กเส้นนั้น ใครเห็นก็ต้องรู้ว่าเป็นฉันไม่ใช่ใครโดยเฉพาะเจ๊ท๊อฟฟี่ ที่ส่งรูปนั้นมาให้ดูแทบจะเป็นวันเดียวกับที่ฉันลงรูปชุดว่ายน้ำริมสระที่กระบี่ลงอินสตาแกรมโดยมี FC ตาดีเห็นสร้อยก็รู้เลยว่าเป็นฉัน เขาลงรูปและมีข้อความว่า เฝ้าไข้ยังไงให้หายเร็ว@ กระบี่.... เช็คอินที่เดียวกันแบบนี้..... อินสตาแกรมเขาแทบแตกเพราะมียอดกดไลท์และคอมเม้นท์มาแน่นถล่มทลาย พร้อมกับนักสืบโซเชียลที่ต่างทำงานกันอย่างหนัก พอลงรูปเสร็จเรียบร้อยเขาก็ไม่ตอบคอมเม้นท์ใครเหมือนการลงรูปเป็นหน้าที่เพียงอย่างเดียวของเขา ใครอยากถามก็ถามไป ทันทีที่เจ๊ท๊อฟฟี่รู้นี้เรื่องก็โทรมาระบายอารมณ์ทันที เจ๊ท๊อฟฟี่ : "คุณนางสาวเชียงใหม่จะเอายังไงดีล่ะคะ เจ๊จะได้บอกกับนักข่าวถูก" ซันนี่ : เจอคำถามแบบนี้ฉันละปวดหัว "ก็...ให้เขาไปถามคุณไซรัสให้เขาตอบเลยค่ะเขาเป็นคนโพสนี่คะ" ฉันเลยโยนเผือกร้อนไปให้เขาจะดีกว่าจะได้จบๆไป ก็เขาเป็นสร้างเรื่องนี่นา ครืด...ครืด..สมาร์ทโฟนสั่นเรียกอีกแล้ว เป็นคุณไซรัส ซันนี่ : ฮัลโหลค่ะ ไซรัส: ฮันนี่ทำอะไรอยู่คิดถึงจัง ซันนี่: ฉันยังโกรธเขาอยู่จึงตอบแบบสั้นๆไปว่า "วาดรูปค่ะ" ไซรัส: เปิดประตูให้หน่อยผมอยู่หน้าบ้าน ซันนี่: คุณจะมาทำไมคะซันนี่ยุ่งอยู่ ไซรัส: เขาไม่สนหรอก "ผมรออยู่" ฉันกำลังออกแบบชุดเดรสที่จะใส่ไปงานประกาศผลรางวัลคนบันเทิงในอีกสามเดือนข้างหน้า ทุกอย่างเกือบเสร็จเรียบร้อยกำลังลงสี ผ้าไหมอิตาลีก็นอนนิ่งอยู่ในถุงเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อตอนบ่าย อีกอย่างฉันก็อยู่ในชุดนอนจึงหยิบเสื้อคลุมตัวหนามาสวมทับอีกชั้น แอ๊ด.....ฉันเปิดประตูด้วยความไม่เต็มใจนัก พอเปิดประตูก็พบกับใบหน้าหล่อนัยน์ตาสีน้ำตาลยืนยิ้มแก้มปริในมือถือถุงพลาสติกมาด้วยหนึ่งใบ ส่งกลิ่นหอมโชยออกมาคล้ายกลิ่นเป็ดย่างแล้วยังอ้าแขนมากอดฉันไว้ให้คางเกยอยู่กับไหล่ของเขา "คิดถึงฮันนี่จัง...." "อืม....คุณไซรัส" "คุณคิดถึงผมบ้างไหม...ไม่เจอกันตั้งหลายวัน" ฉันนึกถึงเรื่องที่เขาสร้างไว้ให้แล้วตอบไปว่า " คิดถึงค่ะ..คิดถึงม๊ากมาก" ฉันพยายามผลักอกเขาออกรู้สึกว่าเขากอดฉันนานไปแล้ว "เข้าบ้านก่อนค่ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น" "ไม่เห็นต้องกลัวใครเห็นเลย...บ้านเราแท้ๆ" "ซันนี่กลัวขายไม่ออกค่ะ" เขาจึงคลายอ้อมแขนออกแล้วพูดว่า " ผมจองคุณแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ออก" "แต๊แต๊ก๊ะ..." "แต๊สิฮันนี่" เขาจริงใจขนาดนี้ทำไมฮันนี่ถึงดูไม่ออกกันนะ คำพูดของเขามันจะจริงไหม..เชื่อได้สักนิดไหมฉันยังจำคำพูดที่เขาเคยพูดไว้ได้ทั้งประโยคได้ดี เราสบตากันได้สักพักฉันก็ได้ยินเสียงท้องเขาร้องโครกคราก แสดงว่าในกระเพาะอาหารคงไม่มีอาหารให้ย่อยแน่ๆ จึงร้องประท้วงซะเสียงดัง ฉันมองไปที่ท้องแห้งๆของเขา "ท้องคุณ...." "คุณมีหม้อสุกี้หรือเปล่า ผมอยากกินสุกี้" "มีค่ะ.. แต่ซันนี่อิ่มแล้วคุณกินคนเดียวนะคะ" "ฮันนี่นั่งกินเป็นเพื่อนผมเถอะนะ...นะ..นะ" เขาจะอ้อน "ไม่ค่ะ...ซันนี่เป็นดาราไม่ควรตามใจปาก เดี๋ยวพรุ่งนี้หน้าบวมไม่สวยค่ะ" ที่โต๊ะอาหาร เขาวางถุงพลาสติกลงบนโต๊ะหยิบของออกมาวางเรียงรายเต็มโต๊ะแสดงว่าเขาน่าจะหิวมาก จากนั้นฉันเดินไปหยิบหม้อสุกี้มาเสียบปลั๊กเทน้ำซุปลงหม้อให้เขา รอเดือดเขาก็เตรียมชุดผักและชุดเนื้อสัตว์ใส่จานอย่างรวดเร็วรวมทั้งเป็ดย่างจานใหญ่ส่งกลิ่นหอมจนตะบะฉันแตกแอบกลืนน้ำลายลงคอ กินก็กิน..... "ครัวคุณมีของครบดีนะ" "ค่ะ..ก็ต้องมีค่ะ" "ต่อไปผมมาทำกับข้าวที่ห้องคุณดีกว่า" "ไม่ได้ค่ะ...เปลืองไฟ" ซันนี่บอกเขาว่าเปลืองไฟ แต่ที่จริงแล้วต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่า "ผมจ่ายให้......ผมรวย" ขอแค่ได้มาที่นี่ทุกวันเท่าไหร่เขาก็ยอม พอน้ำเดือดคุณไซรัสเขาก็รีบใส่หมูสไลด์ตับลูกชิ้นสารพัดชนิดลงไปจนเต็มหม้อ ฉันเห็นเขาเร่งไฟแรงสุดพอเดือดเขาก็ใส่ผักลงไป ที่สำคัญเลยเขาใส่เห็ดเยอะมาก แล้วตอกไข่ใส่อีกฟองคนจนละลายในหม้อเข้ากันดีส่งกลิ่นหอมตรลบอลอวลไปทั้งห้อง จนต้องเปิดหน้าต่างระบายอากาศ "หอมจัง...." ฉันคว้าจานและตะเกียบมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเขาในทันทีฉันเห็นเขายิ้มแล้วพูดว่า "กินเถอะเรื่องอ้วนเอาไว้ทีหลัง" จากนั้นฉันก็ไม่สนอะไรแล้วก็เป็ดย่างมันอร่อยจริงๆ "ลำขนาด.." พอเขารู้ว่าฉันเป็นคนเชียงใหม่เขาก็ปล่อยของออกมาเป็นระยะๆเพื่อเอาใจ น่าจะแอบไปศึกษามาแน่ๆ คุณไซ.... สุกี้ในหม้อหมดลงฉันเห็นเขาเอามือลูบท้องแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ "คุณนั่งพักที่โซฟาเลยค่ะซันนี่เก็บเองค่ะ" "ผมช่วย....ฮันนี่" โอเคเขารับหน้าที่ล้างจานส่วนฉันเก็บโต๊ะ จะบอกว่าเขาล้างจานเร็วมาก ฉันจึงขอตัวไปนั่งทำงานต่อให้เสร็จ "อย่าหาว่าซันนี่ไล่เลยนะคะ...ซันนี่จะทำงานค่ะ" "คุณกลับแล้วล็อคห้องให้ด้วยนะคะ" ฉันทิ้งเขาไว้แบบเสียมารยาทแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน ไม่...เขายังไม่อยากกลับไล่ยังไงก็ไม่ไป "ฮันนี่คุณทำอะไรอยู่" เขาเดินตามฉันมาที่โต๊ะทำงานโคมไฟเปิดสว่างฉันขยับเก้าอี้นั่ง ข้างกันมีหุ่นตั้งไว้หนึ่งตัวสำหรับลองชุดบนโต๊ะมีสายวัด,ดินสอ,ดินสอสี,ไอแพด เขาเดินมาถึงก็โฟกัสมาที่ภาพสเก็ตช์ที่ยังค้างอยู่แล้วหยิบขึ้นมาดู "ภาพอะไรฮันนี่" "ชุดของซันนี่ค่ะ" "คุณออกแบบเองเลยเหรอ" "คุณคงไม่รู้ว่าซันนี่เป็นดีไซเนอร์" "ดีไซเนอร์...ฮันนี่เป็นดีไซเนอร์" เขาทั้งทึ่งทั้งแปลกใจ ฮันนี่ของเขามีเรื่องให้แปลกใจไม่ได้หยุดหย่อน เขาจึงเหลือบมองที่ภาพปริญญาบัตรที่ตั้งอยู่บนโต๊ะในกรอบรูปสวยนั้นจึงหยิบขึ้นมาดู "Paris College Of Art" "คุณเรียนที่ปารีส" "ใช่ค่ะปารีส ดีไซเนอร์ก็ต้องปารีสสิคะ" "ถ้าที่บ้านซันนี่ไม่ล้มละลายเสียก่อนซันนี่กะว่าจะต่อป.โท ทีเดียวเลยค่ะ" ฉันเกือบลืมเรื่องที่ต้องจัดการเขา....คุณไซรัส "อ้อ...เกือบลืมคุณไซรัสคุณโพสรูปซันนี่ลงไอจีทำไมคะ" เขาทำท่าคิดนิดนึงแล้วพูดว่า "ไม่เห็นหน้าคุณเสียหน่อย" "คนเขาจำได้หมดแหละค่ะ มันเห็นสร้อยของซันนี่ค่ะ เจ๊ท๊อฟฟี่กับ FC ซันนี่จำได้หมดเลยนะคะ" เขายืนพิงโต๊ะกอดอกด้วยท่าทางสบายๆ "คุณจะให้ผมรับผิดชอบยังไง" "อะไรก็ได้ที่บอกได้ว่าผู้หญิงในรูปไม่ใช่ซันนี่" "ก็ผมอยากให้โลกรู้..." "คุณไซรัส...คุณจะมีเรื่องกับซันนี่ใช่ไหมคะ" จากที่ยืนกอดอกเขาก็ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้สายตาคมเหลือบมองทรวงอกไร้บลา ที่กระเพื่อมขึ้นลงเมื่อหญิงสาวโมโหเขาจนตัวสั่น "ฮันนี่....คุณคบกับผมมันเสียหายมากเหรอ" "ก็...ก็คุณ" คำว่าเจ้าชู้ถูกกลืนลงคอเขาโน้มใบหน้าลงมามือจับที่คางให้เงยหน้ารับจูบจากเขา เขาจุมพิตที่หน้าผากแผ่วเบา "ผมเป็นพ่อพระแล้วคุณต้องให้โอกาสผมบ้าง" ฉันใจเต้นตึก "คือ...ซันนี่" "คบกับผม...รับรองผมจะดีกว่าใคร" พอฉันหลับตาจุมพิตเบาๆที่ปลายจมูกก็ตามมา แล้วเลื่อนจูบที่ริมฝีปาก เขาดึงร่างบางให้ยืนขึ้นกอดเอวไว้แน่น "รักกับผมเถอะฮันนี่" แค่นี้ฉันก็ไม่ไหวแล้วคุณไซรัสขา.... "มีอะไรที่คุณอยากได้อยากทำผมพร้อมซัพพอร์ตเต็มที่" "คือ...ซันนี่" เขาอ่อนโยนจนฉันอ่อนระทวยแต่ยิ่งกอดฉันก็ยิ่งวาบหวาม เขากระชับอ้อมแขนให้สองร่างแนบสนิทมากขึ้นสบตากันเพียงนิดเดียวริมฝีปากหยักก็โน้มลงมาทาบทับริมฝีปากแนบแน่นทั้งอ่อนโยนทั้งอ่อนหวาน "คบกับผม...." @@@@@@@@@ ออนไรท์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD