วันนี้เป็นเหมือนวันธรรมดาอีกวัน ทั้งสองเลิกงานกลับมาเจอกันที่คอนโดหรู ทั้งสองคนเลือกใช้เวลาก่อนเข้านอนด้วยการดูหนัง หลินนั่งซบไหล่ของทินกร พวกเขาติดสกินชิปกันมาก คงด้วยเพราะใช้เวลาในที่ทำงานมากกว่าอยู่คอนโด
“หลิน”
“ครับ?”
“ย้ายมาทำงานที่บริษัทพี่เถอะ”
“ไม่เอาครับ หลินเสียดายโบนัสใกล้สิ้นปีแล้ว”
“โบนัสที่นั่นให้เท่าไหร่?”
“ห้าเดือนครับ”
“หนูก็รู้ว่าแด๊ดให้หนูได้”
“ผมไม่ใช่เด็กของคุณแล้วนะครับคุณอาทิตย์” หลินปรามคนรักเมื่ออีกฝ่ายยังคงทำตัวเป็นป๋าเปย์เหมือนเดิม
“พี่เปย์แฟนไม่ได้เหรอ?”
“มันก็ได้ แต่แด๊ดกะจะให้หลินรวยกว่าแด๊ดเลยเหรอครับ?”
“ถ้าจะทำอย่างนั้นหนูคงต้องมาแต่งเข้าบ้านแด๊ดแล้วล่ะ ทุกอย่างของแด๊ดก็จะเป็นของหนู” คนแก่กว่าพูดหยอก แต่ในความติดตลกนั้นเขาก็คิดจริง
“หลินได้จากพี่เยอะจนไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร จะส่งให้แม่ก็กลัวแม่จะเข้าใจว่าไปเล่นพนันได้มาอีก จนตอนนี้เงินมันนอนในบัญชีรอกินดอกเบี้ยเฉย ๆ ไปแล้ว”
“พี่ถึงได้บอกไงว่าให้มาทำด้วยกัน มาเป็นผู้ช่วยเลขาเงินเดือนห้าหมื่นห้าไม่รวมพิเศษอื่น ๆ มันไม่น่าเกลียดหรอก เพราะที่นี่มันบริษัทเราเอง พี่มีสิทธิ์เลือกคนเข้ามาทำงานข้างพี่ด้วยตัวเองนะ” คนแก่กว่ากอดอกพูด แม้จะพูดตะล่อมหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่คนเด็กกว่าก็ไม่ยอมคล้อยตามเสียที
“รถหนึ่งคัน” มุมปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ซื้อให้หรอก ทินกรเป็นห่วงเขาจนไม่ยอมให้หลินขับรถเอง
“หลินก็รู้ว่าพี่ไม่อยากให้ขับรถเอง”
“งั้นผมไม่ไป”
“เห้อ พี่ไม่อยากห่างกับหนู ทำงานด้วยกันก็จะได้เจอกันทุกวัน” ทินกรพูดเสียงอ่อน แขนแกร่งกอดเอวคนรัก คางเกยไหล่คนเด็กกว่าเอาไว้
“เจอกันทุกวันจะไม่เบื่อหน้ากันแย่เหรอครับ”
“ไม่เบื่อหรอก”
“ถ้าพี่อาทิตย์ยอมให้ผมซื้อรถด้วยเงินตัวเอง ผมจะยอมลาออก”
“ก็ได้” เมื่อคนเด็กกว่ายืนยันแบบนั้นเขาก็ยอมถอยให้หนึ่งก้าว แต่รับรองเลยว่าหลินจะไม่ได้ขับรถที่ซื้อมาแน่
“จริงเหรอครับ!”
“จริงสิ”
จุ๊บ! จุ๊บ!
หลินหันไปจุ๊บแก้มคนรักทันทีเมื่อดีลนี้สำเร็จ
“พรุ่งนี้ทำเรื่องลาออกเลยนะ แล้วเอาเอกสารมา แด๊ดจะให้เลขาทำเรื่องเอง”
“รีบจังครับ”
“พี่บอกให้ออกมาทำด้วยกันตั้งแต่ปีที่แล้วก็ไม่ยอม”
“ก็ตอนนั้นสถานะเรามันไม่ควรอยู่ใกล้กันนี่ครับ หลินก็กลัวพี่ถูกมองไม่ดีว่าเอาเด็กเลี้ยงมาทำงานด้วยกัน”
“คิดมากเกินไปแล้ว” นิ้วแกร่งบีบจมูกรั้นของแฟนเด็กเบา ๆ ถึงมันจะเป็นแบบที่หลินว่า แต่ความจริงเขาไม่ได้คิดจะเอาหลินมาเป็นเด็กเลี้ยงตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นคงไม่ชวนมาอยู่ด้วยกัน คู่ควงของเขาทุกคนไม่มีใครเคยมาเหยียบในพื้นที่ส่วนตัวหรือแม้กระทั่งบริษัทของเขาเลยสักราย จะมีก็แต่แฟนเก่าที่เคยคบกับเมื่อสิบปีที่แล้วเท่านั้น
“อีกอย่างผมไม่อยากเข้าใกล้พี่มากเกินไปด้วย อยากให้มันจบแค่เซ็กส์ ไม่อยากเผลอใจรักพี่ กลัวว่าถ้ารักขึ้นมาทุกอย่างมันจะจบไม่สวย ตู้เอทีเอ็มอันลิมิตแบบพี่ก็จะหายไปด้วย ฮ่า ๆ” เสียงทุ้มพูดติดตลกกับคนแก่กว่า
“ถึงว่าตะล่อมตั้งนานกว่าจะยอมมาอยู่ด้วยกัน”
“ผมแอบคิดด้วยนะ ว่าจะเอาเงินจากพี่ไปเยอะ ๆ เผื่อวันนึงพี่จะเอาเด็กใหม่คนนั้นมาอยู่ในสถานะเดียวกัน ผมจะได้มีทางหนีทีไร่”
“นี่วางแผนถึงขั้นนี้แล้ว?”
“อื้ม! ก็วันนั้นพี่ทำเหมือนชอบเด็กคนนั้นมากเลยนี่ครับ”
“ก็อยากให้ใครบางคนหึงนั่นล่ะ แต่เจ้าตัวก็นิ่งเกิน แถมยังไปโดนคู่ขาเก่าเกาะแกะอีก กลายเป็นพี่เสียเองที่หึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”
“ฮ่า ๆ”
แขนล่ำกอดเอวคนรักของตัวเองเอาไว้หลวม ๆ จมูกโด่งซุกไซร้ให้คนเด็กกว่าจั๊กจี้จนหัวเราะออกมา
หลินได้ทำเรื่องลาออกจากบริษัทกระทันหันโดยที่ไม่ได้เงินเดือนเพราะออกกระทันหัน แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขาเลย เพราะเขาถูกจ้างออกด้วยมูลค่าที่แพงกว่าเงินเดือนหลายเท่า
เพื่อนสนิทในกลุ่มของหลินทุกคนรับรู้ว่าเพื่อนหลินมีแฟน แต่ตัวหลินเองไม่ได้พาทินกรไปเปิดตัวกับใคร เพื่อนรู้เพียงว่าหลินไปทำงานที่เดียวกับแฟน
“จะจริงจังกับชีวิตเสียแล้วเพื่อนกู สาวคนไหนวะถึงเอาไอ้หลินได้อยู่หมัด” หนุ่มหล่อแด๊ดดี้กล้ามใหญ่สายเปย์ต่างหาก
“มึงมีแฟนแล้วใครจะไปแรดกับกู”
“เมียดุไหมวะ พวกกูจะได้เจอหน้ามึงอีกไหมเนี่ย” หารู้ไม่ว่าหลินเป็นเมีย…
“อย่าลืมพามาให้เพื่อนรู้จักนะเว่ย!”
“ถึงว่าแหละแม่งชวนมาเที่ยวกลางคืนไม่ค่อยจะมา ที่แท้ซุ่มมีเมียไม่บอกเพื่อน”
และอ**บลา ๆ ๆ ข้อความมากมายถูกส่งเข้ามาในแชทกลุ่ม
“กูบอกเลยว่าถ้ามึงได้เจอแฟนกู พวกมึงได้พูดไม่ออก” หลินเพียงทิ้งท้ายข้อความนี้ไว้ให้ต่อมเผือกของเพื่อนเริ่มทำงาน แล้วกดปิดมือถือ
ทินกรพาแฟนเด็กไปซื้อรถตามที่สัญญากันไว้ คอยแนะนำหลินทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีดูรถ
“หนูจะเอารุ่นนี้หรอ พี่ว่าเอารุ่นนี้ดีกว่าตัวไฮไปเลยจะได้คุ้ม ถ้าเกินงบเดี๋ยวพี่ออกช่วย หรือถ้าเปลี่ยนใจก็เอารถพี่ไปขับก็ได้มีหลายคัน”
“บอกแล้วไงครับว่าผมจะซื้อเอง” หลินมองแฟนตัวเองด้วยหางตา แอบคิ้วกระตุกนิด ๆ เผลอไม่ได้เป็นต้องถูกอีกฝ่ายตะล่อมเนียน ๆ ตลอด นี่สินะพวกผู้บริหาร ประมาทไม่ได้เลย
“โอเคครับ..” คนแก่กว่ายกมือยอมแพ้เมื่อแผนที่วางไว้จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ
“แต่หนูต้องตามใจพี่ด้วยนะ”
“ได้ครับคุณผู้ชายอยากทำอะไรผมตามใจทุกอย่างเลยครับ หลินขอแค่เรื่องนี้” หลินที่กำลังสบายใจเพราะได้ของที่ต้องการด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเรื่องที่อีกฝ่ายขอให้เขาตามใจนั้นมันชวนกุมขมับกว่าเรื่องรถเสียอีก
ตกเย็นมาหลังจากทำเรื่องจองรถคันแรกในชีวิตของหลิน ทินกรก็ขับรถมาดูโครงการบ้าน ใช่ เขาพาหลินมาดูบ้านโครงการใหญ่ บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้นยี่สิบล้านบาท
“พี่มีธุระแถวนี้เหรอครับ?”
“ใช่ พี่จะซื้อบ้าน” ใบหน้าหล่อคมหันมาตอบด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี
หลินเพียงมองคนแก่กว่าด้วยสายตางงงัน คอนโดหรูนั่นจะไม่อยู่แล้วเหรอ? แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยถามออกไป
จนกระทั่งมาจอดรถที่หน้าบ้านตัวอย่าง เป็นบ้านสองชั้นหลังใหญ่ มีที่จอดรถถึงสี่คัน โลเคชั่นดีใจกลางเมืองแถมยังใกล้บริษัทของทินกรอีกด้วย
เมื่อทั้งสองลงจากรถก็พบว่ามีเซลล์แนะนำบ้านยืนรอต้อนรับลูกค้าอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาววัยกลางคนยิ้มแย้มยกมือสวัสดีลูกค้าอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณทินกรที่นัดดูบ้านไว้ใช่ไหมคะ?” เธอเอ่ยถามร่างสูงที่ยืนข้างหลินทันที
“ใช่ครับ” เสียงเข้มตอบกลับ
“เชิญเข้ามาชมภายในก่อนนะคะ ดิฉันจะแนะนำทีละจุดอย่างละเอียดให้ฟังค่ะ” เซลล์ขายบ้านเดินนำทั้งสองคนเข้าไปภายในบ้าน
ด้านในดูดีมาก การตกแต่งสวยงามน่าอยู่ ทีมน้อยแต่มาก เซลล์อธิบายให้อย่างละเอียด แนะนำทุกจุดที่น่าสนใจ บอกข้อดีข้อเสียให้แก่ทั้งสองคน
เมื่อเดินดูจนทั่วแล้วเซลล์ก็ถามความพึงพอใจกับลูกค้า
“หลินชอบไหม?” ทินกรยิ้มบางถามคนรักของตัวเอง
“ครับ สวยดี” หลินเองก็ตอบไปตามที่เห็น บ้านหลังนี้สวยมาก ราคาคงแพงมากเช่นกัน
“งั้นตกลงเซ็นสัญญาซื้อขายเลยครับ” สิ้นเสียงตอบกลับของหลิน ทินกรก็หันไปบอกแก่เซลล์ทันที
“ฮะ?!” ใบหน้าหล่อของหลินหันไปหาคุณแด๊ดของเขาคอแทบเคล็ด จะไม่คิดนานกว่านี้หน่อยเหรอ?
ทุกอย่างดูง่ายดายและปุบปับ ทางเซลล์เป็นธุระจัดการเรื่องให้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเหลือบไปเห็นชื่อเจ้าของบ้าน หลินตกใจตาแทบถลนจากเบ้า
“บริภต ยุทธนาวิวัฒน์!” หลินอ่านทวนชื่อซ้ำอีกรอบ ก่อนจะหันไปมองแฟนตัวเองสลับกับชื่อเจ้าของบ้าน
“หืม?” ใบหน้าหล่อคมแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายของสายตาที่หลินสื่อ มองคนเด็กกว่ากลับพร้อมกับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“แด๊ด!” คิ้วเรียวขมวดมุ่นมองคนแก่กว่าที่อยู่ดี ๆ ก็มาซื้อบ้านหลังละยี่สิบกว่าล้านให้เขา ไอ้หลินปวดหัวมากครับ มือเรียวกุมขมับ
“ห้ามบ่นนะ พี่บอกแล้วว่าหนูต้องตามใจพี่” ทินกรย้ำเรื่องที่คุยกันไว้ก่อนหน้านั้น
“ผมไม่..”
ยังไม่ทันพูดปฏิเสธมือใหญ่ก็เอานิ้วชี้มาจุ๊ปากเขาไว้
แล้ววันนั้นก็จบลงด้วยการที่หลินกลายเป็นว่าที่เศรษฐี ซึ่งมีทั้งบ้านทั้งรถพร้อม ถ้าแม่รู้เข้าคงภูมิใจจนอยากเอาก้านมะยมฟาดสักที ที่ลูกชายมีผู้ชายซื้อบ้านให้ ตลอดทางกลับคอนโดหลินนั่งเหม่อ สมองขาวโพลนไปแล้ว
“พี่อาทิตย์ นั่นมันแพงไปนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“พี่ซื้อให้เป็นชื่อหนูดีแล้ว พี่อยากให้หลินมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองเอาไว้ ไม่ต้องห่วงนะบ้านหลังนี้เดี๋ยวเราจะได้ย้ายเข้าอยู่ด้วยกันภายในเดือนหน้านี่เอง”
“แด๊ด..”
หลินที่หมดคำจะพูดกับความชอบเปย์เกินเหตุของแฟนตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ