[คืนนี้ไปดูผับ หลินไปกับแด๊ดนะ]
[ครับ]
นิ้วแกร่งจิ้มแป้นพิมพ์มือถือบอกเด็กคนโปรดคนเดียวของตัวเองย่างอารมณ์ดี คืนนี้มีคนมาสมัครเป็นเอ็นเตอร์เทนคนใหม่หนึ่งคน เพื่อนรักและหุ้นส่วนของเขาแนะนำ ให้ทินกรลองใช้แผนลองใจ ทำให้หลินหึง
ถึงเวลาเลิกงานร่างสูงก็ออกจากบริษัทของตัวเอง ขับรถกลับคอนโดของตัวเองที่อาศัยอยู่กับลินมาปีกว่า เปิดเข้ามาภายในห้องแอร์เย็นฉ่ำประทะกายบ่งบอกว่าอีกคนกลับมาแล้ว มีเสียงอาบน้ำ พร้อมเสียงเพลงร็อควงโปรดของหลินถูกเปิดด้านในด้วย ทินกรผุดยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าเด็กของตัวเองกำลังเปิดคอนเสิร์ตระหว่างอาบน้ำ
ร่างหนาถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงร่างกายกำยำที่เปลือยเปล่า เข้าไปในห้องน้ำตามอีกคน
“อุ้ย เหี้ย!” เสียงสบทหยาบดังขึ้นเมื่อมือหนาจับเข้าที่เอวหนั่นกระทันหัน
“คุณอาทิตย์ ขอโทษครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษคนพี่ เมื่อรู้ตัวว่าเผลอหยาบคายใส่อีกฝ่าย
“หึ ๆ” เสียงเข้มเพียงหัวเราะในลำคอ ไม่ได้ถือโทษโกรธคนเด็กกว่า ทั้งยังมองเป็นมุมที่น่ารักของหลินอีกต่างหาก
จุ๊บ
ปากบางจุมพิตที่ปลายคางคนโตกว่าเป็นการออดอ้อนอีกฝ่ายในแบบของตนเอง ข้อนี้หลินก็พึ่งรู้ว่าตัวเองชอบทำแบบนี้กับทินกรมาก
จากที่จะจุ๊บเฉย ๆ กลายเป็นว่าถูกจับจูบดูดดื่ม เพราะคุณแด๊ดโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบแนบชิด ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากบางหนักเบาสลับกัน มือไม้ก็ไม่อยู่นิ่งลูบไล้ผิวลื่นไปทั่วทุกส่วนอ่อนไหว
การอาบน้ำครั้งนี้กินเวลาไปเกือบชั่วโมงเมื่อคุณแด๊ดขยันหาเศษหาเลยจากเด็กของเขาไม่หยุด จบที่หลินต้องปวดกรามเพราะต้องใช้งานมันหนัก ดูแลงูยักษ์ของทินกรจนกว่ามันจะพ่นพิษออกมา ถ้าไม่ติดว่าต้องไปดูผับต่อ คืนนี้คงได้เอวเคล็ดอีกแน่
ณ ผับดังของคุณทินกร
ทั้งสองเดินเข้าผับโดยมีพนักงานเรียงแถวต้อนรับอย่างดี มือหนาโอบเอวเพรียวแสดงความเป็นเจ้าของชัดเจนว่าคนข้างกายเป็นของเขา สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ทินกรและหลินไม่วางตา วันนี้ทินกรเลือกนั่งโต๊ะใหญ่ด้านล่างไม่ได้ขึ้นไปห้องวีไอพี
“Hi bro” เสียงแมตทิว ชายหนุ่มลูกครึ่งหุ้นส่วน และเพื่อนร่วมคลาสที่อเมริกาของทินกร เอ่ยทักทาย เขามานั่งรอที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว
“ไง” เสียงเข้มตอบกลับเพื่อนสนิทอย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีครับ” หลินทักทายเพื่อนของคุณแด๊ดของเขาอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับ ผมแมตทิว Nice to meet you” แมตทิวยื่นมือเช็คแฮนด์ตามสไตล์ชาวตะวันตก
“หลินครับ” หลินยื่นมือจับตอบตามมารยาททั้งยังยิ้มแย้มกับอีกฝ่าย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเพื่อนของทินกร
ทักทายกันเสร็จมือหนาก็รั้งเอวหลินให้นั่งข้างกันที่โซฟาตัวตรงข้ามกับแมตทิว
“เด็กใหม่ที่ไอเล่าให้ยูฟังมาแล้วนะ ยูจะเทสเองใช่ไหม ไอเห็นแล้วน่าจะไทป์ที่ยูชอบ” แมตทิวเปิดประเด็นกับเพื่อน
“เอาสิ พาเข้ามาเลย” ทินกรเคลื่อนมือขึ้นโอบไหล่ของคนข้างกาย บีบเล่นไปมาเบา ๆ
แมตทิวหันไปคุยโทรศัพท์ ครู่เดียวผู้จัดการก็พาชายหนุ่มหุ่นบางคนหนึ่งเข้ามา หน้าตาจิ้มลิ้ม ค่อนไปทางสวย ผมสีดำขลับดวงตากลมโต อย่าว่าแต่ไทป์ของทินกรเลย เมื่อก่อนปกติหลินเองก็แอ้มแต่ผู้ชายทรงนี้
แมตทิวยิ้มแย้มให้คนมาใหม่จูงมือคนตัวเล็กมาหาทินกรที่นั่งอยู่โซฟาฝั่งตรงข้าม
“ยูบอกจะเทสเอง เชิญเลย” หยอกเพื่อนเสร็จก็หันไปหาคนตัวเล็ก “เต็มที่เลยนะครับเบบี๋ เจ้าของใหญ่มาเทสงานเองเลยนะ” ขยิบตาให้คนสวยหนึ่งครั้งก่อนจะกลับไปนั่งจิบวิสกี้รอชมความสนุก
“สวัสดีครับผมชื่อแคทครับ” เสียงใสแนะนำตัวกับชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า ตาโตเป็นประกายเมื่อเห็นว่าเจ้าของผับเป็นหนุ่มหล่อ ในใจแอบหวังลึก ๆ ว่าอยากจะเป็นคนโปรดของเขา ชีวิตนี้คงสบายไปทั้งชาติ
“มานั่งสิ” เสียงเข้มตบที่ตักตัวเองบอกคนมาใหม่
หลินมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาที่บังคับไม่ให้แสดงความรู้สึกใดออกไป เขารู้สถานะของตัวเองเป็นอย่างดี
คนตัวเล็กนั่งลงที่ตักแกร่งของทินกรทั้งยังวาดมือโอบรอบคออีกฝ่ายไว้หลวม ๆ ดวงตาโปรยเสน่ห์หยาดเยิ้ม
มือหนาของทินกรผละออกจากการโอบไหล่ของหลินมาจับที่เอวบางของแคทแทน
ดวงตาโตเหลือบมองหลินที่นั่งข้างทินกรเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มทักทาย คิดว่าหลินเองคงเป็นคนในการดูแลของทินกร
ใบหน้าหล่อของหลินเองก็ยิ้มทักทายตามมารยาทเช่นกัน
ทินกรมองเด็กของตัวเองสลับกับคนมาใหม่บนตัก แอบไม่พอใจเล็กน้อย จะมายิ้มให้กันทำไม
“ชงเครื่องดื่มให้หน่อยสิ” เสียงเข้มเอ่ยกับคนบนตัก
“ได้ครับ” แคทชงเครื่องดื่มให้อีกฝ่ายอย่างคล่องแคล่ว
“อื้ม เคยทำงานที่ร้านไหนมาก่อนไหม” ทินกรเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูเป็นงาน
“ครับ ผมเคยทำที่ออนเดอะกราวน์ครับ” แคทยิ้มแย้มตอบทั้งยังนั่งบดเบียดตักทินกรไม่หยุด
“ที่นั่นก็ดังนี่ ทำไมถึงออกมาหาที่นี่ล่ะ” ปากหนาเคลื่อนใกล้ใบหูของแคทเพื่อให้คุยกันรู้เรื่องเพราะในผับเสียงเริ่มดังขึ้นแล้ว จงใจให้มันดูใกล้ชิดหวังให้คนข้างกายออกอาการหึงหวงกันบ้าง
“อยากหาบรรยากาศใหม่ ๆ ครับ อยู่ที่เดิมนานแล้วหมดไฟ ได้ยินว่าที่นี่จ่ายเปอร์เซ็นต์เยอะกว่าด้วย” แคทเองก็พูดใกล้หูของทินกรเช่นกัน ภาพตอนนี้จะว่ากำลังนัวเนียกันก็ไปปาน
มือหนาลูบไล้ที่เอวบางไปมา เหลือบมองหลินเป็นระยะ เห็นเพียงเด็กของตัวเองนั่งดื่มอยู่เงียบ ๆ ไม่มีท่าทีไม่พอใจอย่างที่แมตทิวว่าสักนิด
“ผมทำอย่างอื่นเก่งเหมือนกันนะครับ” เสียงใสเอ่ยใกล้ใบหูทินกรยั่วยวนคนตัวโตอย่างเปิดเผย
“หึ” มือหนาบีบขยำต้นขาเล็กสลับลูบไล้ จงใจเปิดเผยให้หลินเห็นว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร
หลินมองภาพตรงหน้าหัวใจมันเต้นผิดจังหวะไปหลายที รู้สึกวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก ทำไมกันนะ..
มือเรียวของหลินยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกเพื่อไล่ความรู้สึกนี้ออกไป แด๊ดเขามีสิทธิทำอะไรกับใครก็ได้ ถ้าเด็กคนนี้เป็นคนโปรดคนใหม่อีกไม่นานหลินเองก็คงตกกระป๋อง
“แด๊ดครับ ผมไปเข้าห้องนะ” ดันเผลอเรียกทินกรด้วยสรรพนามที่ปกติคุยกันแค่สองคนบนเตียง
“ไปสิ” เสียงเข้มตอบกลับก่อนจะหันไปหาคนบนตักของตัวเอง
หลินยิ่งเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ พลางลุกไปเข้าห้องน้ำอย่างที่บอกอีกฝ่าย
ระหว่างทางก็คิดแต่ว่าตัวเองจะเป็นยังไงต่อ ถ้าหากว่าต้องจบความสัมพันธ์นี้กับคุณทินกร เงินที่ได้มาจากอีกฝ่ายก็มากพอที่จะไปตั้งตัวได้สบายแล้ว งานประจำก็ยังทำอยู่ แต่ก่อนจะถึงวันนั้นขอปอกลอกอีกฝ่ายให้สมกับที่เผลอเอาใจลงไปเล่นหน่อยเถอะ
“พี่หลินเหรอ?” เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยทักเขาในตอนที่กำลังจะเข้าห้องน้ำ
ฝั่งของคุณแด๊ดทินกรที่มองตามหลังร่างเพรียวเดินไปห้องน้ำ เห็นแล้วก็ถอนหายใจ ไม่คิดจะหึงกันบ้างสักนิดเลยหรืออย่างไร หันไปสบตากับเพื่อน แมตทิวก็ทำเพียงยักไหล่ให้เท่านั้น เป็นรู้กันว่าคนที่จะแกล้งให้หึงไม่มีท่าทีจะทำอะไรสักอย่าง
“ลงไปเถอะ ตั้งใจทำงานนะ” เสียงเข้มบอกคนบนตักเมื่อหมดประโยชน์แล้ว
“อ้าว..” แคทงงเล็กน้อย เมื่อครู่ยังมีท่าทีเหมือนจะต่อกันอยู่เลย
“เดียวบอกผู้จัดการให้ทิป คุณเก่งดี”
“ขอบคุณครับ” ร่างบางทำได้เพียงลงจากตักคนหล่อเจ้าของผับที่ตนแอบหวังเป็นคนโปรดของเขา
“ยูแพ้เขาราบคาบเลยอ่ะอาทิตย์” เสียงแมตทิวล้อเลียนเพื่อน
“อืม ไอก็ไปก่อนนะ” ตอบกลับพร้อมบอกลาเพื่อนไปตามเด็กของตัวเองที่ห้องน้ำต่อ ใจมันร้อนรุ่มเพราะแคร์อีกฝ่ายจนแทบบ้า สิ่งที่ทำไปเมื่อครู่ก็รู้สึกผิดเต็มอก ถึงอีกฝ่ายจะไม่ได้รู้สึกหึงก็ตาม แต่กลายเป็นว่าตัวเองไม่ชอบใจที่หลินยิ้มให้พนักงานเอ็นเตอร์เทรนด์คนใหม่อย่างแคทเสียเอง
ก่อนหน้านี้ทินกรว้าวุ่นกับความสัมพันธ์ของตัวเองกับหลินจนหาทางออกไม่เจอ ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะรู้ใจหลิน กลัวว่าถ้าพูดกับอีกฝ่ายไปตามตรงก็กลัวหลินจะไม่มีใจให้จนหนีไป เขาเคยพูดเป็นนัยย์ให้อีกฝ่ายฟังแต่มันกลับกลายเป็นเรื่องขบขัน เพราะหลินดันคิดว่าเขาหยอกเสียอย่างนั้น
“ฮัลโหลอาทิตย์ ว่าไง” เสียงสดใสของแมตทิวทักทายเพื่อน
“มีเรื่องปรึกษายูหน่อย”
“ว่ามาเลยมายเฟรนด์”
“จำคนที่ไอเคยเล่าให้ยูฟังได้ไหม ที่ตอนนี้เขาเป็นเด็กของไออ่ะ”
“จำได้ ทำไมเหรอ ยังไม่ได้คบกันอีกเหรอ?”
“ใช่ ไอไม่รู้ว่าเขาใจตรงกันกับไอหรือเปล่า”
“งั้นยูก็ลองทำให้เขาาหึงดูไหมล่ะ?”
“ยังไง?”
“คืนนี้มีเด็กมาสมัครงานใหม่ ยูก็ใช้โอกาสนี้แกล้งเทสงานเด็กึงเนื้อถึงตัวหน่อย รอดูว่าเขาจะมีท่าทางยังไง ถ้าเขามีใจเขาต้องหึงยูแน่” แมตทิวแนะนำเพื่อนสนิท
“โอเค งั้นคืนนี้เจอกัน ฝากด้วยนะเพื่อน tank you”
“your welcome bro”
นี่คือเหตุการณก่อนหน้าที่ทินกรจะพาหลินมาที่ผับ ซึ่งแผนนี้ที่จะทำให้อีกฝ่ายหึง ดันเป็นเขาเสียเองที่เป็นคนหึง