2

1109 Words
เช้าวันถัดมาอากาศช่างเเจ่มใสนัก เมฆขาวลอยเหนือจวนเซียว ทำให้เซียวหยา ตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ เมื่อคืนผ่านมา นางเพิ่งจะกินอิ่มนอนหลับอย่างสบาย "นังสารเลว กล้ามากที่ทำร้ายบุตรสาวข้า อีกทั้งไปอาละวาดในห้องครัวต่างหาก" ฮูหยินใหญ่เดินนำหน้าสาวใช้ กับเเม่ครัวฟาง มาเยือนเรือนของเซียวหยา เมื่อวานบุตรสาวจุกที่ท้อง พอทราบข่าว ฮูหยินใหญ่อยากจะฉีกเนื้อ เซียวหยาก็ว่าได้ แต่ทว่า เพราะต้องเชิญหมอมาดูอาการบุตรสาว ทำให้นางไม่สามารถมาชำระความเซียวหยาได้ กระทั่งตอนเช้า เเม่ครัวฟางเดินเข้ามารายงานว่า คุณหนูรองป่วนห้องครัวจนพัง ทำให้ฮูหยินใหญ่ ต้องชำระความกับเซียวหยาให้ได้วันนี้ ถ้าไม่เอาเลือดหัวของ เซียวหยาออกมา อย่าเรียกนางว่าฮูหยินใหญ่เลย เซียวหยาหาได้เกรงกลัวเลยเเม้แต่น้อย "ท่านเป็นฮูหยินใหญ่ที่เเร้งน้ำใจยิ่งนัก เมื่อวานพี่ใหญ่มาหาเรื่องข้าก่อน ข้าผิดด้วยรึ ที่จะป้องกันตัว อีกอย่างกับข้าวข้า ข้าเป็นถึงฮูหยินท่านแม่ทัพ ในภายภาคหน้า ยังจะให้ข้ากินน้ำแกงจืด ๆอีกรึ" เซียวหยาเถียงขึ้นมา ทำให้ฮูหยินใหญ่ใบหน้าดูไม่ดีนัก นางโกรธ นังแพศยามารดาเป็นแค่สาวใช้ล้างเท้านายท่าน ยังกล้ามาเถียงนางอีกรึ ที่เป็นฮูหยินใหญ่ของจวน นิ้วมืองามสั่นระริก ชี้ไปที่เซียวหยา "เจ้า!!!" เซียวหยาอดทนมานานเเล้ว ไม่คิดเหมือนกันว่าตนจะโชคดี ได้มีโอกาสหนีจากขุมนรกแห่งนี้ ฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้นางได้สมรสกับท่านแม่ทัพเสิ่น ช่างเป็นวาสนาของนางเสียจริง มืองามฟาดมาที่แก้มงามของเซียวหยา มีหรือว่านางจะยอม นางรับมืองามพร้อมบิดข้อมือฮูหยินใหญ่ไว้ แววตาที่เผยรังสีอำมหิตขึ้นมา ทำให้ฮูหยินใหญ่พลันหวาดกลัว "ปล่อยข้านะ นังสารเลว" "ท่าอย่าคิดว่ามารังแกข้าได้อีก หลายปีมานี้ ข้ายอมพวกท่านมามากพอเเล้ว" กล่าวจบนางผลักฮูหยินใหญ่จนก้นกระเเทกพื้น เหล่าสาวใช้ตกใจไม่น้อย ในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคุณหนูรอง "พาข้ากลับไป ข้าจะไปฟ้องนายท่าน" เมื่อคนกลุ่มใหญ่พลันถอยออกจากเรือนเเล้ว เซียวหยาถึงกับโล่งอกทันที เสี่ยวอ้ายตกใจไม่น้อยหวนคิดว่าคุณหนูจะต้องแย่เเน่ ๆ แต่ทว่าผิดคาด คุณหนูสามารถต่อกรกับฮูหยินใหญ่ได้ ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง ในเมื่อคุณหนูเข้มเเข็งต่อสู้กับคนพวกนั้นได้ ถือว่าดีเเล้ว เสียงดาบกระทบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร บุรุษสวมชุดเกราะสีน้ำเงิน สอนเพลงดาบแก่เหล่าทหารกล้า เขาคือเสิ่นจ้าน ท่านแม่ทัพหนุ่มรูปงามแห่งเเว่นเเคว้นต้าเยียน เป็นบุรุษที่หญิงงามหลายคนหมายปองในเมืองหลวง แต่ทว่าน่าเสียดายเมื่อไม่นานมานี้ฝ่าบาทได้พระราชทานสมรสเขากับคุณหนูรองสกุลเซียว ทำให้สตรีหลายคนถึงกับเป็นลมทันทีที่รู้ข่าวนี้ นายทหารที่ต่อสู้กับเสิ่นจ้านกระบี่ของเขาตกลงพื้นประลอง ทำให้เสิ่นจ้านหยุดมือ "ท่านแม่ทัพ เรื่องที่ท่านให้ข้าไปสืบความมาเเล้วขอรับ" หานต่งข้ารับใช้คนสนิทเดินเข้ามารายงานเจ้านาย ทั้งสองเข้าไปในกระโจม "คุณหนูรองชีวิตรันทดมากขอรับ ในจวนเซียวเห็นนางเป็นแค่ข้ารับใช้" ที่ให้สืบความเพราะว่า เสิ่นจ้านคิดว่า ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้เขากับตระกูลเซียว เพราะคิดว่า ท่านผู้ตรวจการเซียวบงการอยู่เบื่องหลัง แต่สืบความมากับมิใช่อย่างนั้น เซียวหยาหวังว่านางคงจะไม่เป็นไส้ศึกให้บิดาของนางหรอกนะ ท่านผู้ตรวจการเซียวเป็นขุนนางฝั่งองค์ชายสาม ฉู่อวิ๋น โอรสของกุ้ยเฟยที่มักใหญ่ใฝ่สูง อยากครอบครองบัลลังก์ ส่วนเขา เสิ่นจ้านนั่นเป็นคนขององค์รัชทายาท ฉู่เสวียน โอรสที่ประสูติแด่เวยฮองเฮา เขาภักดีต่อตระกูลเวยเท่านั้น ในอดีตตระการ ท่านปู่ของเขากับท่านปู่ของเวยฮองเฮาเป็นสหายกัน สกุลทั้งสองจึงเกื้อหนุนกัน อีกทั้งสกุลเสิ่นนั้น ดำรงตำแหน่งท่านแม่ทัพมาหลายรุ่นเเล้ว "จับตาดูนางต่อไป ข้าไม่ไว้ใจคนสกุลเซียวเลยสักคน" เขาไม่เชื่อเป็นอันขาดว่า ตาแก่เซียวจะเป็นตะเกียงที่ไร้น้ำมัน คนเจ้าเล่ห์เพทุบายมีหรือจะไม่หาโอกาสดึงเขาเข้าเป็นพวกองค์ชายสาม หานต่งรับคำเเล้วเดินจากไป ในตอนนี้ที่สกุล เซียวหยานั่งกินเมล็ดแตงโมที่เอามาจากโรงครัวเมื่อคืนอย่างอารมณ์ดี พอเจอข้ารับใช้เรือนใหญ่เดินเข้ามา ทำให้นางพลันอารมณ์เสียขึ้นมาทันที "เรียนคุณหนูรอง นายท่านเรียกให้ไปพบที่เรือนใหญ่ขอรับ" หญิงสาวพยักหน้า ข้ารับใช้ล่าถอยออกไป สองนายบ่าวพลันสบตากัน ห้องโถงของเรือนใหญ่ เซียวอี้มองดูบุตรสาวคนโตสลับกับฮูหยินใหญ่ พวกนางทั้งสองคนโดนเซียวหยารังแก เซียวอี้ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย บุตรสาวคนรองไม่เป็นที่โปรดปราณของเขา แต่ดันได้สมรสกับท่านแม่ทัพเสิ่นจ้าน เรื่องนี้องค์ชายสามวานให้เขาพลันดึงเสิ่นจ้านมาเป็นพวกให้ได้ เหตุใดคนแต่งเข้าจวนเสิ่น มิใช่เซียวเหยียนเล่า ยิ่งสองแม่ลูกไปมีเรื่องกับเซียวหยา ยิ่งทำให้เขากังวลว่าเรื่องที่จะใช่เซียวหยาทำนั้น นางจะยอมทำตามหรือไม่ "ท่านพ่อ ท่านต้องจัดการ นังแพศยาให้ข้านะ เจ้าคะ" เซียวเหยียนคิดว่า บิดาต้องลงโทษ เซียวหยาอย่างหนักแน่นอน "ใช่นายท่านต้องลงโทษนาง นางทำร้ายข้า" ฮูหยินใหญ่ใส่ไฟลงไป เซียวหยาก้าวเท้าเข้ามาในห้องโถงใหญ่คำนับบิดา เห็นสองแม่ลูกมองนางอย่างริษยา "เจ้านั่งลงเถอะ" "ขอบคุณท่านพ่อ" เซียวหยามองบิดา คล้ายว่าบิดาต้องลงโทษนางแน่ ๆ เลย หญิงสาวหวั่นใจเล็กน้อย "เจ้ากินข้าวรึยัง" คำถามนี้ทำให้สองแม่ลูกพลันอึ้งงัน เรียกนางมาให้เพื่อให้รับโทษ เหตุใดจึงมาถามว่ากินข้าวเเล้วรึยัง ผิดคาด เซียวหยายิ้มให้บิดา ในใจเหมือนกับรู้ว่าบิดาต้องมีแผนอะไรบางอย่างแน่ ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD