ณ ห้องในคอนโดหรู ของภาคิน ที่เพิ่งย้ายเข้ามา
ในเวลายามค่ำ
แสงไฟสลัวจากโคมตั้งโต๊ะส่องลงบนเอกสารที่ยังค้างอยู่ ทั้งจากธุรกิจร้านกาแฟ นับสิบร้าน และเอกสารการเรียนป.โท ด้านธุรกิจของภาคิน
ภาคินไม่ได้อ่านแม้แต่นิดเดียว
เขานั่งเอนหลังบนเก้าอี้หนัง มือถือในมือยังคงเปิดหน้าจอแชทค้างไว้
— ข้อความล่าสุดที่เขาส่งไปเมื่อสามวันก่อน
> “ฝัน…พักบ้างนะ อย่าฝืนเกินไป”
(ขึ้นสถานะ ยังไม่ได้อ่าน)
ภาคินถอนหายใจยาว
กดล็อกหน้าจอแล้วโยนมือถือเบา ๆ ลงบนโต๊ะ ก่อนเอามือขยี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด
ตั้งแต่วันนั้น…วันที่ผมจูบเธอ
เธอไม่แม้แต่จะอ่านข้อความ
ไม่แม้แต่จะเปิดมันด้วยซ้ำ…
เขาหลับตาลง ภาพริมฝีปากของเธอที่สั่นไหว ความตกใจในดวงตา และแก้มที่แดงจัดยังชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
หัวใจบีบรัดทุกครั้งที่นึกถึง
ผมทำเกินไปหรือเปล่า…ผมรีบเกินไปหรือเปล่า?
เขาลุกขึ้น เดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปยังทิวทัศน์เมืองที่สว่างไสวด้วยแสงไฟยามค่ำคืน ดวงตาเต็มไปด้วยความลังเล
“ฉันควรถอยออกมาหน่อย…ให้เวลาเธอได้คิด ได้หายใจ” เขาพึมพำกับตัวเอง
แต่ทันทีที่พูดจบ เสียงในใจอีกด้านก็ดังก้องสวนขึ้นมา
ถ้าผมถอย เธอจะคิดว่าผมไม่จริงใจหรือเปล่า? ถ้าผมเงียบ เธอจะผลักผมออกไปไกลกว่านี้ไหม?
สองความคิดตีกันไม่หยุด — ระหว่าง “รอ” และ “รุก”
ภาคินกำหมัดแน่น ขบกรามจนขึ้นสันนูน แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและมุ่งมั่นในเวลาเดียวกัน
พาฝัน…คุณจะรู้บ้างไหม ว่าคนคนนี้…มันอยากเข้าไปอยู่ในโลกของคุณแค่ไหน
----
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น — Caller: “คุณพ่อ”
ภาคินรับสาย “ครับพ่อ”
“คิน…พรุ่งนี้พ่อมีนัดกับลุงประกาย แล้วก็เพื่อนสนิทของเขา อยากคุยเรื่องที่ปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อโครงการลงทุนใหม่ พอดีเพื่อนลุงประกายเป็นนักกฎหมายมือดี ที่เจ้าของกิจการอสังหาหลายที่ต้องการตัวด้วย”
ลุงประกายคือพี่ชายของพ่อภาคิน ซึ่งจบกฎหมาย
ด้านการลงทุนจากต่างประเทศ
“ครับพ่อ จะให้ผมจัดการเรื่องอะไรครับ?”
ภาคินเอ่ยถาม
“ร้านกาแฟสาขาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยน่ะ จองที่นั่งไว้ให้พ่อที พ่ออยากได้มุมสงบ ๆ เงียบพอจะคุยงานได้”
ภาคิน ชะงักนิดหนึ่ง
“สาขามหาลัยเหรอครับ?”
“ใช่ ทำไม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
ภาคิน ยิ้มบาง ๆ
“เปล่าครับ…ไม่มีปัญหา”
“ดี งั้นฝากด้วยนะคิน แล้วพรุ่งนี้ถ้าแกว่าง ก็มานั่งคุยด้วยกันหน่อยก็ดี จะได้เจอลุงประกายกับเพื่อน ๆ ของเขา”
ภาคินตอบเสียงเรียบ
“ได้ครับพ่อ เดี๋ยวผมจัดการให้เรียบร้อย”
“อืม ขอบใจมาก” (คุณพ่อตัดสาย)